|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นเจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง ราคาร่วงติดฟลอร์ ด้านผู้บริหารแจงเรื่องผู้ถือหุ้นใหญ่ “ทรงพนธ์ จันทรพันธ์” ยังไม่มีแผนส่งตัวแทนนั่งบอร์ด ระบุเป็นการเข้ามาลงทุนระยะยาวเท่านั้น เผยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากรับงานโครงการใหญ่ 2 งาน คาดสรุปภายในปีนี้ ชี้กำไรสุทธิครึ่งปีหลังหด เหตุงานค้างมือมีต้นทุนสูง แจงแผนล้างขาดทุนสะสมต้องเลื่อนออกไปหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นตาม
เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN ราคาได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมาก โดยราคาปิดที่ 1.05 บาท ลดลง 0.45 บาท หรือลดลง 30% ซึ่งถือว่าระดับราคาลงมาติดฟลอร์ โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 246.24 ล้านบาท
นายวิชญา จาติกวณิช กรรมการผู้จัดการบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN เปิดเผยว่า จากสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะบริหารของบริษัทได้มีการหารือกับนายทรงพนธ์ จันทรพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโดยถือหุ้นทั้งหมด 93.5 ล้านหุ้น หรือ 19.61% จากการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งได้รับการยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะมีการส่งตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการของบริษัท เพราะนายทรงพนธ์ไม่มีความรู้ในเรื่องการบริหารงานของบริษัท
ทั้งนี้หากนายทรงพนธ์ต้องการที่จะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมเป็นกรรมการ ก็สามารถดำเนินการแจ้งต่อประธานของบริษัทโดยตรง และจากการที่ขณะนี้จำนวนคณะกรรมการของบริษัทครบเต็มจำนวนแล้ว 10 คน หากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการใหม่ หรือเพิ่มกรรมการนั้นก็จะต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอนุมัติ แต่ส่วนตัวก็พร้อมให้ทางนายทรงพนธ์ ส่งกรรมการเข้ามาร่วมบริหาร เพราะจะได้มีการแสดงความคิดเห็น และแสดงถึงความโปร่งใสในการดำเนินงานของบริษัท โดยซึ่งในเดือนตุลาคมบริษัทจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัท
“จากการที่นายทรงพนธ์ ได้เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท จากผู้ถือหุ้นเดิมคือบริษัท พัฒนาวสุ จำกัด, บริษัท ชายนิ่ง รูท (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอพีซี แอ็คคอม คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ไทยพิลาเท็กซ์ จำกัด (มหาชน) ทำให้นายทรงพนธ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รุ่นที่ 3 หลังจากที่หุ้นของบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการฯ” นายวิชญา กล่าว
สำหรับเหตุผลการในการเข้ามาถือหุ้นของนายทรงพนธ์ ส่วนตัวมองว่าเป็นเพราะสภาพคล่องหุ้นของบริษัทสูง จากมีฟรีโฟลทถึง 45% และใช้เงินจำนวนไม่มากที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงการที่มองเห็นศักยภาพในการเติบโตของบริษัทในอนาคต และเชื่อว่านายทรงพนธ์น่าจะมีการถือหุ้นในระยะยาว แต่ยาวขนาดไหนนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ผลการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งหากราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง ก็อาจมีการขายหุ้นออกมาบ้างโดยเป็นเรื่องปกติของการลงทุน
นายวิชญา กล่าวว่าขณะนี้ทางคณะผู้บริหารของบริษัทถือหุ้นรวมกันประมาณ 10% โดยยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มอีก เนื่องจากมองว่าการบริหารควรที่จะมีการแยกออกจากการถือหุ้น เพื่อให้การบริหารงานมีความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งส่วนตัวมองว่าควรที่จะมีการแยกเรื่องการถือหุ้น และการบริหารออกจากกันเพื่อมุ่งเน้นการบริหารให้ดี
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจารับงานรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ 2 งาน ซึ่งมีมูลค่ารวม 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้บริษัทมีงานในมือประกอบด้วย งานด้านเสาเข็ม 400 ล้านบาท งานรับเหมาก่อสร้าง 350 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ ทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 492.34 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่ากำไรในครึ่งปีหลังจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก เพราะบริษัทมีงานที่ค้างอยู่ที่มีตุนที่สูง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีจำนวน 110 ล้านบาท ได้หมดในปีหน้า ซึ่งตามแผนเดิมของบริษัทนั้น คาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดกลางปีนี้ แต่จากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง ในปี 2548 และต้นปี 2549 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้
|
|
|
|
|