นับวันจานดาวเทียมจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนมากขึ้น การแข่งขันในตลาดสินค้าประเภทนี้ก็ยิ่งเขม็งเกลียวตามไปด้วย
และในเมื่อเป็นตลาดเสรี ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่แต่ละค่ายจานดาวเทียม จะต้องพยายามงัดเอาเขี้ยวเล็บต่าง
ๆ ที่ตัวเองมีอยู่โดยเฉพาะกลยุทธ์ที่มีการเชือดเฉือนกันสุดขีดในช่วงที่แล้วมาจนมีที่เจียนไปเจียนอยู่ก็หลายราย
เมื่อผ่านช่วงนั้นมา ต่างฝ่ายต่างก็เริ่มตระหนักว่า จะมัวแต่ใช้กลยุทธ์ราคาเข้าห้ำหั่นกันอย่างเดียวเหมือนที่แล้วมาคงไม่ได้
เพราะจะยิ่งจะทำให้ภาพพจน์ของสินค้าตัวนี้จะยิ่งเสื่อมทรามลงไปทุกที สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะมาเรียกศรัทธาจากผู้บริโภค
ด้วยการหันมาเน้นยกระดับคุณภาพของสินค้าให้สูงขึ้น
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของ "สมาคมสื่อสารดาวเทียม" ความตั้งใจจริงของกลุ่มบุคคลในวงการที่เห็นพ้องต้องกัน
โดยผู้บุกเบิกก่อตั้งสมาคมนี้ประกอบด้วย วิรุณ ตั้งศักดิ์สถิตย์ ดร. รักษ์
จิรา และวีรยุทธ ภูวนเจริญ ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในธุรกิจจานดาวเทียมมาเป็นเวลานาน
โดยได้มีการจัดประชุมบริษัทผู้ผลิตจานดาวเทียมครั้งแรกในวงการเมื่อวันที่
26 มิถุนายน 2536 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนั้นประมาณ 17-18 บริษัท
ผู้เข้าร่วมประชุมในคราวนั้นประกอบด้วยรายใหญ่ ๆ อาทิเช่น ไทยเนทเวอร์ค เซนเตอร์,
แอนเทค คอมมิวนิเคชั่น, ซีเวิลด์ เอนเตอร์ไพรส์ ล็อกซเลย์, เป็นต้น
ที่ประชุมครั้งนั้นยังมีมติร่วมกันที่จะประสานความร่วมมือกันที่จะประสานความร่วมมือในวาระแรก
ด้วยการจัดตั้งเป็นชมรมก่อน โดยใช้ชื่อว่า "ชมรมพัฒนาธุรกิจจานดาวเทียม"
ตามขั้นตอนของการแผ้วถางทางไปสู่การจัดตั้งเป็นสมาคมในอนาคตอันใกล้ และในที่สุด
"สมาคมสื่อสารดาวเทียม" ก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นในเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง
ในวาระนั้นก็ได้มีการเลือกตั้งตำแหน่งสำคัญของสมาคมไปพร้อมกันด้วย โดยมติของชมรมในขณะนั้น
ได้มอบหมายให้ ดร. รักษ์จิรา ส่วนวิรุณ ได้รับตำแหน่งรองนายกสมาคมฯ และวีรยุทธรั้งเก้าอี้เลขาธิการ
เมื่อสมาคมเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น มวลเหล่าสมาชิกและกรรมการก็ต้องมานั่งครุ่นคิดกันว่า
อะไรคือปัญหาหลักใหญ่ในการยกระดับคุณภาพของธุรกิจจานดาวเทียมในปัจจุบัน และมีสิ่งใดบ้างที่สมาคมจะทำได้บ้าง
โดยไม่ขัดต่อพื้นฐานของสมาคม ที่จะต้องไม่มุ่งหากำไร ซึ่งในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า
ปัญหาหลักใหญ่ของวงการธุรกิจจานดาวเทียมที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมานั้น นอกจากการใช้สงครามราคาอย่างเต็มรูปแบบของทุกฝ่ายแล้วปัญหาที่รุนแรงพอ
ๆ กันคือปัญหาของ "กองทัพมด" หรือผู้ประกอบการรายย่อยที่มีธุรกิจจานดาวเทียมเป็นงานกำบัง
ซึ่งคอยกัดกินเอาส่วนแบ่งของค่ายใหญ่และค่ายระดับรองลงมาไปทีละเล็กละน้อย
วีรยุทธ เลขาธิการสมาคมฯ ได้พรรณาถึงความรุนแรงของปัญหา "กองทัพมด"
ให้ฟังว่า นอกจากยอดขายของแต่ละค่ายใหญ่ที่ต้องตกต่ำลงไปเป็นจำนวนมาก ด้วยช่องทางสารพัดที่กองทัพมดจะพยายามสรรสร้างขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นการขายหลังร้าน หรือขายเหมาแบบยกล็อตแล้ว คุณภาพและการรับประกันต่อสินค้านั้น
ที่พลอยตกต่ำไปพร้อมวิธีการของกองทัพมดเหล่านี้ ก็มีผลทำให้ผู้บริโภคที่ซื้อจานดาวเทียมจากกองทัพมดไป
ก็จะเสื่อมศรัทธาสินค้าจากค่ายมีระดับไปด้วย
"ในช่วงนั้นค่ายดาวเทียมระดับแนวหน้าโดนผลกระทบจากกองทัพมดเป็นระนาว
จนต้องใช้กลยุทธ์ตัดราคาลงมาอย่างเต็มที่เข้าสู้ ซึ่งช่วงนั้นก็พอดีกับค่ายใหญ่ในตลาดจานดาวเทียมค่ายหนึ่งก็หั่นราคาจานดาวเทียมแบบซี
แบนด์ลงมาอย่างเต็มที่เช่นกัน อย่างรุ่น 6 ฟุตที่มีความนิยมกันมากก็ตัดราคาลงมาจาก
30,000 บาทลงมาเหลือเพียง 12,000 บาทเท่านั้น" วีรยุทธเล่า
ดังนั้นจึงได้มีแนวความคิดที่จะยุติปัญหากองทัพมดนี้มาตลอดเวลา ทั้งทางตรงและทางอ้อม
แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด กลับดูเหมือนว่ายิ่งเข้าไปแก้ปัญหา ยิ่งทำให้คนทั่วไปยิ่งใฝ่รู้ว่าจะซื้อของจากกองทัพมดเหล่านี้ได้อย่างไร
จนในที่สุดก็ได้ข้อยุติร่วมกันว่าน่าจะมีการใช้คุณภาพของสินค้าเป็นหัวหอกสำคัญที่ปราบปรามเหล่ากองทัพมดเหล่านี้
นั่นก็คือการยกระดับมาตรฐานให้กับสินค้าในมวลหมู่สมาชิกของสมาคมสื่อสารดาวเทียม
ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมาตรการขั้นแรกที่สมาคมกำหนดขึ้นมา ก็คือการตรวจสอบสินค้าในมวลหมู่สมาชิกทั้งหมด
หากสินค้าใดได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ ก็จะมีการติดสติ๊กเกอร์รับรองให้โดยจะเป็นโลโก้ของสมาคมสื่อสารดาวเทียม
"มาตรการอันนี้เราจะเริ่มได้ในไม่ช้า เพราะขณะนี้เราได้ให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเลคโทรนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหน่วยงานหนึ่ง
ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้ตรวจสอบสินค้าของสมาชิกไปได้มากพอสมควรแล้ว
และเท่าที่ได้สอบถามบรรดาสมาชิกที่มีอยู่ในปัจจุบัน 11 บริษัทต่างก็เห็นดีด้วยกับมาตรการอันนี้"
วีรยุทธได้ตั้งความหวังกับเครื่องรับรองมาตรฐานนี้พอสมควรเหมือนกับ "ยิงนัดเดียว
ได้นกสองตัว" ที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดการไตร่ตรองมากขึ้นก่อนที่จะซื้อจานดาวเทียมแต่ละครั้ง
เพราะนอกจากการรับรองมาตรฐานจากสมาคมที่มีให้ดังกล่าวแล้ว บริษัทผู้ผลิตจานดาวเทียมจากต่างประเทศที่นำเข้ามาก็ได้รับการรับรองมาตรฐานมาไว้ก่อนหน้าด้วย
ในขณะที่บรรดากองทัพมดก็จะได้รับผลพวงในครั้งนี้ ทำให้ตลาดยากขึ้นไปด้วย
มาตรการขั้นต่อมาที่ทางสมาคมจะดำเนินการต่อไปคือ การกำหนดบทลงโทษกับบริษัทสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการนี้
หากสินค้าที่ผลิตออกมาหลังจากได้มาตรฐานแล้ว ไม่ได้คุณภาพตามการตรวจสอบครั้งแรก
ก็จะต้องมีการตักเตือนในวาระแรก และหากยังฝ่าฝืนอยู่ ก็จะต้องมีการพิจารณาขับออกจากสมาชิกภาพในโอกาสต่อไปแต่อย่างไรก็ตาม
มาตรการใช้สติ๊กเกอร์ควบคุมมาตรฐานนี้
เป็นไปตามความสมัครใจของเหล่าสมาชิกว่า ใครใคร่ติดก็ติด ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด
ความมุ่งหมายอีกประการหนึ่งของสมาคมที่ตั้งเป้าหมายไว้คือ จะต้องเร่งระดมชักชวนให้บริษัทผู้นำเข้าจานดาวเทียมในตลาดซึ่งมีอยู่ประมาณ
30-40 ราย เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมให้มากกว่านี้ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าก่อนสิ้นปีนี้น่าจะมีสมาชิกเข้ามาเพิ่มอีกเป็นทั้งหมด
20 รายเป็นอย่างน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายใหญ่ในวงการอย่างเช่นชินวัตรแซทเทลไลท์ ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ดาวเทียมไทยคม
1 และ 2 นั้น ก็ได้มีการติดต่อกับทางสมาคมสื่อสารดาวเทียมอย่างใกล้ชิด สายสัมพันธ์ของกลุ่มชินวัตรที่แนบแน่นกับทางสมาคมนั้น
ทำให้วีรยุทธมีความเชื่อมั่นว่า หากใช้ความพยายามอีกสักนิด และทอดเวลาไปอีกสักระยะ
ก็คงจะมีข่าวดีที่กลุ่มนี้จะเข้ามาร่วมงานกับทางสมาคม
"ส่วนค่ายใหญ่อีกรายในวงการ ที่มักจะมีข่าวขัดแย้งกับทางเราบ่อย ๆ
นั้น ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่ประการใดจากทางเขา ว่าจะสนใจเข้ามาร่วมกับทางเราหรือไม่
ซึ่งหากเขาคิดจะจัดตั้งสมาคมของเขาขึ้นมาเองแล้ว ก็คงจะยาก เพราะสมาชิกรายใหญ่ในวงการ
มาอยู่กับเราเกือบทั้งหมดแล้ว"
งานสำคัญอีก 1 งานที่รออยู่ข้างหน้าให้สมาคมสื่อสารดาวเทียมต้องฝ่าฟันไปคือการดำเนินการลดภาษีจานดาวเทียมซึ่งขณะนี้อยู่ในอัตรา
47% ให้ต่ำลงมาอยู่ในอัตราที่พอจะรับได้ซึ่งด้วยปัญหาภาษีที่ยังค่อนข้างแพงอยู่นี้
จึงทำให้ความเป็นเสรีของตลาดจานดาวเทียมไปได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร นอกจากนั้นแล้ว
บริษัทผู้นำเข้าก็จำเป็นต้องแบกรับภาระค่าการตลาด (MARKETING COST) ไว้สูงเกินกว่าที่จะเป็น
และด้วยความเป็นสมาคม งานทางด้านการเผยแพร่ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างมวลหมู่สมาชิกและผู้บริโภคทั่วไปนั้น
เป็นงานที่ปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีแนวคิดจะผลักดันให้การสื่อสารทางด้านดาวเทียม
นำมารองรับการศึกษาทั้งในภูมิภาคและชนบทมากขึ้น สมาคมฯ ก็ยิ่งปฏิเสธไม่ได้ที่จะเข้ามาร่วมไม้ร่วมมือในเรื่องนี้
โลกใบใหม่ของตลาดเสรีธุรกิจจานดาวเทียม คงจะมีโอกาสเชื่อมโยงความร่วมมือกันมากกว่านี้
พร้อมทั้งความยุติธรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ได้พัฒนาไปพร้อมกัน ซึ่งหากทุกอย่างก้าวไปตามที่ต้องการแล้ว
ก็จะต้องจารึกไว้ว่าความสำเร็จส่วนหนึ่งนั้นเนื่องมาจาก "สมาคมสื่อสารดาวเทียม"
นี่เอง