Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2537
"วันนี้ของกลุ่มศรีกาญจนาต้องประกันความเสี่ยงสูง"             
 


   
search resources

อาคเนย์ประกันภัย (2000), บจก.
พยัพ ศรีกาญจนา
จุลพยัพ ศรีกาญจนา
ศักดา บุณยรักษ์




พยัพและจุลพยัพ ศรีกาญจนา เพิ่งจะรู้สึกว่าโล่งใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังจากวันที่ 5 สิงหาคม ศกนี้ มีคำสั่งศาลให้ศักดา บุณยรักษ์ และวิชัย นิวาตวงศ์คู่กรณีในศึกชิงอำนาจในอาคเนย์ประกันภัย ให้เพิกถอนหนังสือมอบอำนาจฉบับลงวันที่ 25 มิถุนายน 2534 ของบริษัทอาคเนย์โฮลดิ้ง 1, 2 และ 3 ห้ามเรียกประชุมผู้ถือหุ้นอาคเนย์ประกันภัยในคราวอื่น ๆ นอกเหนือการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 4/2533 เท่านั้น

ศึกช่วงชิงอำนาจที่มีห้องประชุมผู้ถือหุ้นเป็นสมรภูมิรบนั้น เกิดขึ้นสองครั้งสองคราในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ

กฎแห่งกรรมในวังวนประวัติศาสตร์ 48 ปีของอาคเนย์ประกันภัย หากสร้างเป็นภาพยนต์แบบหนังจีนจอแก้วในชื่อ "ศึกสองสิงห์ชิงบัลลังก์เลือด" ก็คงจะได้มินิซีรีส์ขนาดยาวมาก ๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งมีคนในตระกูล "ศรีกาญจนา" เป็นตัวเอกดำเนินเรื่องราว

เจ็ดปีเต็ม ๆ ที่ความเครียดวิตกกังวล และแรงกดดันจากการกรำศึกชิงอำนาจระหว่างกลุ่มศรีกาญจนากับกลุ่มโชติกเสถียรและต่อมากับกลุ่มบุณยรักษ์ ได้สั่นคลอนภาพพจน์ความมั่นคงของกิจการอาคเนย์ประกันภัยอย่างรุนแรง

ครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2530 ระหว่างกลุ่มโชติกเสถียรกับกลุ่มศรีกาญจนา ความขัดแย้งสืบเนื่องจากกลุ่มโชติกเสถียร ต้องการนำอาคเนย์ประกันภัยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์พร้อมกับขยายธุรกิจเพิ่มทุนให้ต่างชาติร่วมถือหุ้น แต่กลุ่มศรีกาญจนาไม่เห็นด้วยเพราะวิตกว่าจะถูกลดบทบาทลง จึงดึงพันธมิตรอย่างกลุ่มบุณยรักษ์เข้าร่วมโดยผู้ถือหุ้นอื่นเช่นตระกูลนิวาตวงศ์และตระกูลชุมพลวางตัวเป็นกลาง ผลปรากฏว่ากลุ่มโชติกเสถียรถูกจำกัดบทบาทการบริหาร ทำให้ต่อมาต้องขายหุ้นที่ถืออยู่ 39.08% ให้กับเจริญ สิริวัฒนภักดี ยอกนักซื้อกิจการแห่งทศวรรษนี้

ความหวาดระแวงด้วยการการป้องกันการหวนกลับมาเทคโอเวอร์ ทำให้เกิด "บริษัทอาคเนย์โฮลดิ้ง 1, 2 และ 3" ขึ้นมาเพื่อถือหุ้นในอาคเนย์ประกันภัยจำนวน 54.11% แทนที่จะถือหุ้นในนามส่วนตัวของแต่ละกลุ่ม

แต่ "หมองูตายเพราะงู" ฉันใด กลุ่มศรีกาญจนาก็โดนเล่นงานจากพิษสง "อาคเนย์โฮลดิ้ง" ฉันนั้น

ด้วยฤทธิ์ 54.11% แห่งหุ้นใหญ่ที่ศักดา บุณยรักษ์กับวิชัย นิวาตวงศ์ได้รับมอบอำนาจเป็นกรรมการในบริษัทโฮลดิ้งแห่งนี้ บวกกับส่วนตัวที่ถือหุ้นอาคเนย์ประกันภัยอีก 13% ทำให้ศักดาอาศัยอำนาจผู้ถือหุ้นใหญ่เปิดข้อบังคับของบริษัทเรียกประชุมคณะกรรมการ "ชิงปลด" พยัพจากประธานกรรมการ แล้วดันตัวเองขึ้นครองตำแหน่งนี้แทน พร้อมทั้งยุบคณะกรรมการชุดเดิมแล้วตั้งคนของตนขึ้นแทนในวันที่ 17 มิถุนายน 2534

พยัพแทบกระอักเลือด มิตรกลายเป็นศัตรู ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น จำต้องพิฆาตให้อาสัญด้วยยุทธวิธีฟ้องศาล โดยมีทนายจอมฉมังอย่างสุวัฒน์พฤกษเสถียรที่กรำศึกมหาภารตะ เทคโอเวอร์แบงก์แหลมทองมาแล้วเป็นที่ปรึกษากฎหมายขณะที่อีกฝ่ายกลุ่มบุณยรักษ์และนิวาตวงศ์มีทนายจอมคนอย่างพิชัย พืชมงคล แห่งธรรมนิติ คู่ปรับเก่าเป็นคู่คิดวางแผนทำศึกใหญ่ครั้งนี้

สมรภูมิรบได้ย้ายจากห้องประชุมมาเป็นห้องพิพากษาของศาลแทน สองค่ายต่างโรมรันพันตูและช่วงชิงชัยชนะกันจนถึงวินาทีสุดท้าย วันที่ 29 กรกฎาคม ศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษาว่า ศักดาได้รับมอบอำนาจโดยชอบธรรมหรือไม่? แต่วันนั้นไม่มีฝ่ายโจทย์นอกจากตัวแทน ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องขอศาลเลื่อนพิจารณาอีก 1 เดือน โดยอ้างว่าขณะนั้นทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจาประนีประนอมกัน

แต่มีหรือที่สุวัฒน์ พฤกษเสถียร ทนายฝ่ายโจทย์จะไม่รู้เท่าทันเกมซื้อเวลานี้ ดังนั้นอีกสามวันต่อมาสุวัฒน์จึงทำเรื่องปฏิเสธต่อศาลว่าทั้งสองไม่ได้เจรจากันตามที่จำเลยอ้างและขอให้ศาลรีบอ่านคำตัดสินโดยเร็ว เพราะในวันที่ 17 สิงหาคมนั้นจะมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นอาคเนย์ประกันภัยแล้ว หากไม่มีคำตัดสิน เกรงว่าจำเลยจะใช้ใบมอบอำนาจดังกล่าวมาอ้างอีก ซึ่งจะทำให้ฝ่ายพยัพและพวกต้องฟ้องร้องกันอีกจนกระทั่งคดีความไม่สิ้นสุดกันสักที

ฉะนั้นนัดชี้ชะตา "ใครอยู่ใครไป?" ได้ถูกกำหนดเป็นวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาศาลมีคำตัดสินดังกล่าวข้างต้นฝ่ายศักดาและพวกพ่ายแพ้ในเกมนี้และถูกกดดันอย่างหนัก จนกว่าจะยอมขายหุ้นทิ้งเฉกเช่นกลุ่มโชติกเสถียรต้องทำมาแล้ว เวรกรรมแท้ ๆ

นับตั้งแต่วันฟ้องศาล 25 กรกฏาคม 2534 จวบจนถึงวันพิชิตชัยชนะอย่างชัดเจนในเดือนสิงหาคมปีนี้ สามปีเต็ม ๆ เป็นห้วงเวลาอันแสนเครียดและเต็มไปด้วยความวิตกกังวลจึงไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อวันแห่งชัยชนะล่าสุดนี้ สองพ่อลูกพยัพและจุลพยัพ ศรีกาญจนาจะพูดพร้อม ๆ กันว่า "ดีใจที่เรื่องมันจบลงได้ซะที !!"

หลังสงคราม งานกอบกู้ภาพพจน์และสถานภาพของอาคเนย์ประกันภัยเป็นเรื่องใหญ่ที่กลุ่มศรีกาญจนากับพวกต้องเร่งฟื้นฟู โดยว่าจ้างบริษัทฟาร์อีสท์แอดเวอร์ไทซิ่งและบริษัทพีอาร์ในเครือ "อินทีเกรเตทคอมมูนิเคชั่น" ทำแผนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ภาพพจน์ให้

โฆษณาขาวดำชิ้นแรกที่ปรากฏในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องในวาระครบรอบ 48 ปีอาคเนย์ประกันภัย (2489-2537) มีภาพประธานกรรมการพยัพ กับข้อความเชิงข่าวที่มีเนื้อหาสะท้อนทิศทางกิจการกับภาพพจน์การพัฒนาทีมงานบุคลากรมืออาชีพ

"การทำธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่ขายความเชื่อมั่นความมั่นใจ ความสุจริตใจและภาพพจน์ของผู้บริหารจะต้องดีเยี่ยมเป็นที่ยอมรับในวงสังคม" พยัพกล่าวไว้ในตอนหนึ่งของเนื้อหาโฆษณาชุดแรก และคาดว่าคงจะมีชุดต่อมาที่เสรี วงศ์มณฑา ในฐานะกรรมการผู้จัดการอินทีเกรเตท คอมมูนิเคชั่นจะร่วมวางแผนให้ตลอดทั้งปีด้วย

เหนือกว่าภาพพจน์ พยัพรู้ดีว่าปมปัญหาใหญ่ยังรอการแก้ไขอยู่อีกมาก "อาคเนย์โฮลดิ้ง" เป็นอาวุธร้ายที่ต้องถูกกำจัดพิษสงทันที ในวันประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท โฮลดิ้งทั้งสามมติที่ออกมาว่า จุลพยัพคือผู้รับมอบอำนาจในการประชุมใหญ่อาคเนย์ประกันภัยได้สะท้อนถึงความพยายามอย่างมาก ๆ ของพยัพ ที่จะให้ลูกชายมีบทบาทบริหารสำคัญขึ้นมาพร้อมกับ ๆ พยายามที่จะดึงและดันผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างเจริญ สิริวัฒนภักดี มิให้เป็นอันตรายกับกลุ่มศรีกาญจนาหากศักดาขายหุ้นให้แก่เจริญ

กล่าวกันว่า ในอดีตศักดาเคยทาบทามวรรณา ภรรยาเจริญให้เป็นกรรมการบริหารของอาคเนย์ แต่ได้รับการปฏิเสธเพราะไม่อยาก "เสียผู้ใหญ่" ถ้าหากจะเลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

แต่วันข้างหน้า ยังเป็นเรื่องที่จับตาว่ากลุ่มสิริวัฒนภักดีอาจเข้ามามีบทบาทเบื้อหลังเงียบ ๆ ที่จะล้างภาพพจน์อาคเนย์ประกันภัยกับตระกูลศรีกาญจนาให้ขาดออกจากกัน เห็นทีงานนี้ศรีกาญจนาคงต้องจ่ายค่าประกันความเสี่ยงไว้ในอัตราสูงให้คุ้มกับอนาคตอันไม่แน่นอนนี้ !!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us