Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 กันยายน 2549
โรงงานยาสูบลดเป้า3พันล้านบาทพับแผนลุยนอก-ออกแบรนด์ใหม่             
 


   
www resources

โฮมเพจ โรงงานยาสูบ

   
search resources

โรงงานยาสูบ




โรงงานยาสูบระส่ำปัจจัยลบรุมเร้าเพียบยอดขายปี 49 วูบพลาดเป้า 3 พันล้านบาท ขณะที่แผนการออกแบรนด์ใหม่ต้องยกเลิกเหตุเศรษฐกิจแย่และการรณรงค์ลดสูบบุหรี่กระทบ ส่วนแผนบุกตลาดแคนนาดาต้องยกเลิกไปเพราะรับภาระต้นทุนไม่ไหว ซ้ำร้ายต้องระบุประเภทและปริมาณสารข้างซองด้วย

นายสุชน วัฒนพงษ์วาณิช ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า ในปี 2549 นี้ ยอดขายบุหรี่ในภาพรวมทุกยี่ห้อของโรงงานยาสูบลดลงไปมาก โดยเฉพาะบุหรี่ที่ไม่ใช่ยี่ห้อหลักที่ยอดขายด้านปริมาณลดลงเกินกว่า 20% มาก แต่ยี่ห้อหลัก 5 ตรา อาทิ กรองทิพย์ สายฝน วอลเดอร์ เป็นต้น ยังลดลงไม่ถึง 20% ทำให้ถัวเฉลี่ยยอดขายบุหรี่ในด้านปริมาณลดลงไปประมาณ 20% ขณะที่ในด้านมูลค่าลดลงไปกว่า 12%

ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ไม่ค่อยดีนัก ประชาชนมีค่าครองชีพสูงขึ้นมาก รวมทั้งราคาบุหรี่ที่แพงขึ้นจากนโยบายรัฐบาลที่เก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ และการรณรงค์ต่างๆ เช่น ห้ามวางโชว์บุหรี่หน้าร้าน การรณรงค์ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบว่า ภาพรวมของคนบริโภคบุหรี่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้อัตราการบริโภคลดลงไปประมาณ 24-25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

"ยี่ห้อหลักๆ 5 ตรา ยอดขายยังไม่ได้ตกมากนัก ส่วนใหญ่ตกลงมาตั้งแต่ตอนที่มีการขึ้นภาษีใหม่ๆ แล้วก็ทรงๆ อยู่ ส่วนใหญ่ต่ำกว่า 20% กลุ่มนอกเหนือกว่านี้ลดลงมากกว่า 20% แต่เฉลี่ยกันแล้วก็อยู่ที่ประมาณ 20% โดยผมคิดว่ายอดที่ตกลงนี้ เป็นผลมาจากราคาบุหรี่ที่แพงขึ้นส่วนหนึ่ง รวมทั้งเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คนมีค่าครองชีพสูงขึ้นด้วย ซึ่งหลังจากนี้ เชื่อว่าบุหรี่ยี่ห้อใหม่ๆ คงเกิดยากแล้ว" นายสุชน กล่าว

สำหรับปีนี้โรงงานยาสูบตั้งเป้ายอดจำหน่ายบุหรี่อยู่ที่ 49,000 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยอดจำหน่ายตกไปวันละประมาณ 10 ล้านบาท คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะทำให้ยอดขายตกไปกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 46,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้ว ที่ยอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 49,000 ล้านบาท

นายสุชน กล่าวอีกว่า คาดว่าหลังจากนี้ยอดจำหน่ายบุหรี่อาจจะลดลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากในปีหน้าจะมีการจำกัดสถานที่สูบบุหรี่ การกำหนดให้ต้องระบุสารที่อยู่ในบุหรี่บนฉลากข้างซอง เป็นต้น โดยมาตรการต่างๆ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งผลทำให้โรงงานยาสูบต้องล้มเลิกโครงการที่จะออกบุหรี่ยี่ห้อใหม่ๆ รวมทั้งแผนการขยายตลาดไปต่างประเทศ อย่างเช่น แคนาดา เป็นต้นด้วย เนื่องจากสำรวจตลาดแล้ว พบว่าคงแข่งขันยากและไม่สามารแบกรับต้นทุนได้ ทั้งนี้ ในปี 2550 โรงงานยาสูบตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายบุหรี่เพียง 0.5% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่ต้องมีการระบุสารที่อยู่ในบุหรี่บนฉลากข้างซองนั้น ถือว่าสร้างความลำบากในการทำธุรกิจให้แก่โรงงานยาสูบ โดยในต่างประเทศก็ไม่ค่อยมีใครทำเช่นนี้ ซึ่งแทนที่จะระบุสารที่อยู่ในบุหรี่บนฉลากข้างซอง ทางสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) น่าจะใช้วิธีการพิมพ์เอกสารแจกให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปแทน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us