Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มกราคม 2546
เอ็มลิงค์เปิดตัวM-SHOP เพิ่มช่องทางจำหน่ายมือถือ             
 


   
search resources

เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Mobile Phone




เอ็มลิงค์เตรียมรุกงานแฟรนไชส์ โดยอบรมและเทรนงานบริการให้ผู้ที่ต้องการลงทุนเปิดร้านขายมือถือ ภายใต้ชื่อ M-SHOP ซึ่งจะเพิ่มความมั่นคงในช่องทางการจำหน่าย หลังขยาย SERVICE CENTER ได้แล้ว กว่า 10 สาขาเมื่อปีก่อน เผยอยู่ใน ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเจ้าของแบรนด์จากต่างประเทศ อีกหลายแห่ง เพื่อนำเข้ามาจำหน่าย หลังมีการปลดล็อกอีมี่ ตั้งเป้าปีนี้ขาย 1.5 ล้านเครื่อง

นายพลณรงค์ วัฒนโพธิธร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็ม ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ M-LINK เปิดเผย ว่า หลังจากที่โทรศัพท์มือถือมีการปลดล็อกอีมี่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตัวแทนขายมือถือมีการทุ่มตลาดกันอย่างมาก ส่งผลให้เอ็มลิงค์ ต้องลดราคามือถือเพื่อที่จะสู้ตลาด ได้ พร้อมกับการพิจารณาที่จะรับสินค้าแบรนด์อื่นเข้ามาขายเพิ่มขึ้น เพื่อให้ลูกค้ามีความหลากหลายในการเลือกซื้อโทรศัพท์มากขึ้น

เพราะยังผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออีกหลายยี่ห้อที่ผลิตสินค้าออกมา ภายใต้ยี่ห้ออื่น หรือแบบ OEM ให้กับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง ๆ เช่น โนเกีย เป็นต้น และปัจจุบันได้หันมาผลิตยี่ห้อที่ตัวเองออกจำหน่าย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดต่อการเพื่อจะนำสินค้ามาจำหน่ายในไทย

อย่างไรก็ตาม การนำสินค้ามา จำหน่าย เอ็มลิงค์ยอมรับว่าสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายเพิ่มขึ้นนั้น อาจแข่งขันกับแบรนด์อื่นที่เป็นอันดับหนึ่งอยู่เดิมไม่ได้แต่ต้องการเปิดตัว แบรนด์ใหม่ เพื่อให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมีโรงงาน ผลิตที่ดี รวมทั้งการให้บริการหลังการขายก็ต้อง ดีด้วย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร

โดยสินค้าของไต้หวันและเกาหลียังมีอีกหลายแบรนด์ที่ผลิตออกสู่ตลาดและแข่งขันกันรุนแรงมากที่ประเทศดังกล่าว ซึ่งเอ็มลิงค์อยู่ในระหว่างเจรจาและศึกษาเพื่อจะนำสินค้าจากประเทศเหล่านี้ เข้ามาจำหน่ายในไทย เพราะสินค้า จากประเทศดังกล่าวก็ดีกว่าการนำเข้ามาจากจีนซึ่งการผลิตสินค้ามีคุณภาพต่ำ

เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเอ็มลิงค์นำ LG ซึ่งเป็น สินค้า HI-END มาเปิดตลาดที่เมืองไทย ถือเป็น การนำโทรศัพท์แบรนด์ใหม่เข้ามาจำหน่าย หลังจากที่เดิมมีสินค้าเพียงไม่กี่แบรนด์ แต่โมโตโรล่า ยังเป็นตัวหลักในการจำหน่ายมือถือของเอ็มลิงค์

อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะการแข่งขันของธุรกิจ โทรศัพท์มือถือมีมากมาย แต่เอ็มลิงค์ ยังเน้นที่จะเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวของไทยในการที่จะจำหน่ายโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์โมโตโรล่า ซึ่งเป็นการง่ายต่อการควบคุมรวมทั้งการมีบริการ หลังการขายให้กับลูกค้า จึงถือเป็นช่องทางหนึ่งที่เหมือนจะทำให้เป็นข้อได้เปรียบเรื่องการทำตลาด

และการไม่มีบริการหลังการขายของโทรศัพท์มือถือ จึงเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่ง สำหรับ ช่องทางหารายได้ โดยปีที่ผ่านมาเอ็มลิงค์เพิ่มศูนย์ดังกล่าวอีก 10 แห่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริการหลังการขายเพิ่มขึ้น โดยในแต่ละสาขาบริษัทจะใช้งบลงทุนจำนวน 2-5 ล้านบาทต่อสาขา ปัจจุบันเอ็มลิงค์มีศูนย์บริการหลังการขายแล้ว 31 แห่ง

และในปีนี้ เอ็มลิงค์จะขยายงาน โดยใช้ชื่อว่า M-SHOP จากปี 2545 ที่เน้นขยายศูนย์บริการหลังการขายเพียงอย่างเดียว ซึ่ง M-SHOP จะเป็นเหมือนแฟรนไชส์ของ เอ็มลิงค์ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 40-60 ตารางเมตร และผู้ที่ต้องการมีร้านเป็นของตัวเอง แต่จะได้รับการฝึกงาน SET UP และดูแลจากเอ็มลิงค์โดยตรง รวมทั้งการทำโปรโมชั่นที่แฟรนไชส์จะได้รับพร้อมกับการทำโฆษณาของเอ็มลิงค์ และบริษัทตั้งเป้าปีนี้ประมาณ 200 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเอ็มลิงค์จะได้รายได้จากการขายโทรศัพท์เพิ่มขึ้น ส่วนราคาของแฟรนไชส์แต่ละแห่งนั้น ยังไม่เปิดเผย เนื่อง จากขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับผู้ที่สนใจ และคาดว่ารายละเอียดจะชัดเจนในต้นเดือนหน้า

โดยเอ็มลิงค์ จะได้รับประโยชน์ในด้านช่องทางการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่บริษัทนำเข้ามาจำหน่ายจากต่างประเทศ และความแน่นอน ของลูกค้าที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งกำไรจากการจำหน่าย มือถือด้วย

สำหรับยอดขายโทรศัพท์มือถือในปีนี้ เอ็ม ลิงค์ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 1.5 ล้านเครื่อง จากปีที่แล้วยอดขายประมาณ 1 ล้านเครื่อง หรือ 40% โดยเน้นเครื่องในราคาสูงกว่า 1 หมื่นบาท จำนวน 20% และราคาระหว่าง 7,000-8,000 บาท ประมาณ 20% ที่เหลือจะเป็นเครื่องที่มีราคา 5,000-6,000 บาท ซึ่งเอ็มลิงค์ยังเน้นที่จะขายเครื่องที่เป็นสินค้า HI-END

อย่างไรก็ตาม เอ็มลิงค์จึงยังคงเน้นขายเครื่องของโมโตโรล่าเป็นหลัก ขณะที่แบรนด์อื่นอาจนำเข้ามากขึ้น แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ที่สำคัญต้องใส่ใจกับลูกค้าที่ซื้อสินค้าด้วย และการที่มีการปลดล็อกอีมี่ ส่งผลต่อยอดขายเครื่องของเอ็มลิงค์ด้วยเช่นกัน โดยเห็นได้จากยอดขายเครื่องเมื่อไตรมาส 3 ปี 2545 ลดลงมาก เนื่องจากเอ็มลิงค์ต้องหั่นราคา ขายเครื่องลงเพื่อสู้กับรายอื่น ทำให้ส่วนต่างของ กำไรจากยอดขายลดลง

"แต่ไตรมาส 4 ตลาดเริ่มนิ่งแล้ว และผลประกอบการไตรมาส 4 ของเอ็มลิงค์เชื่อว่าจะไม่ต่างจากไตรมาส 3 นอกจากนี้ เรายังต้องไม่ผูกอยู่กับขายเครื่องให้เพียง AIS เพียงแห่งเดียว คือเราจะต้องหันขายเครื่องของเครือข่ายหรือหน่วยงานอื่นเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้ของเรา"

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือน สิ้น สุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2545 เอ็มลิงค์ พบว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 75.79 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันเดียวกันของปีก่อนจำนวน 64.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเปลี่ยนแปลงร้อยละ 552.06

เนื่องจาก บริษัทมีรายได้จากการขาย เท่ากับ 855.06 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 64.09 ล้านบาทคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.10 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้ค่าสนับสนุนการขายเท่ากับ 20.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.17

โดยได้รับจากบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อสนับสนุนการหาช่องทางการจำหน่ายสินค้า บริษัท มีรายได้อื่นจากค่าบริการและค่าซ่อมโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่ากับ 11.64 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 8.79 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 308.55 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทยังได้รับส่วนแบ่งกำไรในบริษัทย่อยจำนวน 10.35 ล้านบาท บริษัทมีอัตราส่วนของต้นทุนขายต่อรายได้รวมลดลงเหลือร้อยละ 82.89 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เท่ากับร้อยละ 83.89

เนื่องจากการได้รับส่วนลดทางการค้า นอก จากนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารลดลงจำนวน 37.19 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลงร้อยละ 35.39 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียว กันของปีก่อน เนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ โดยเฉพาะค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายและค่าเดินทางต่างประเทศ

สำหรับ เอ็มลิงค์ เป็นผู้นำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่โมโตโรล่า และเป็นผู้แทนจำหน่ายในระบบจีเอสเอ็มของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัดหรือ ADVANC และสามรถทำการ จำหน่ายมือถือให้กับทุกเครือข่ายหลังจากมีการปลดอีมี่แล้ว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us