Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 มกราคม 2546
ธปท.ยันคุมเข้มผู้ถือบัตร ตัดเครดิตคนจนรายได้ต่ำ             
 


   
search resources

Credit Card




"แบงก์ชาติ" ยัน ใช้เกณฑ์ควบคุมธุรกิจบัตรเครดิต เดิม ไม่สนคำอ้อนของชมรมบัตรเครดิตทุกๆกรณี ประธานชมรมบัตรเครดิตหน้าเศร้าหลังเข้ารับฟัง คำชี้แจง ระบุต้องทำตามทุกข้อ ส่ง ให้รายได้ธุรกิจกระทบกว่า 1 พันล้านบาท พร้อมกลับไปตรวจสอบข้อมูลลูกค้าที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ใหม่มีมากถึง 1 ล้านราย ให้ส่งหลักฐาน เพิ่มเติมก่อนจะถูกเรียกบัตรคืน

นางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า วานนี้ (21 ม.ค.) ทางชมรมบัตรเครดิต ได้เข้าพบธปท.เพื่อหารือและทำความเข้าใจใน หนังสือเวียนที่ธปท.ได้ออกไปก่อน หน้านี้ เกี่ยวกับประเด็นข้อสงสัย เช่น การต่ออายุบัตร โดยธปท.ยัง เข้มงวดกับรายได้ของผู้ถือบัตรจะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป หรือ 180,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ในส่วนของผู้ถือบัตรเครดิตที่ไม่มีรายได้ประจำจะต้องมีเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์อยู่ในธนาคารพาณิชย์

สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ย ธปท.ยังคงเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ 18% ต่อปี ซึ่งทางชมรมบัตรเครดิตก็เข้าใจในประเด็น นี้และทุกธนาคารต้องมีการปรับตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ธนาคารพาณิชย์ มีการคิดอัตราดอกเบี้ยกับผู้ถือบัตรเครดิตเป็นอัตราที่สูงมาก ดังนั้น ในส่วนนี้ธนาคารพาณิชย์จึงต้องมีการปรับตัว ในส่วนของการคิดค่าติดตามทวงหนี้ธปท.ยังคงยืนยันให้ธนาคารพาณิชย์มีการคิดตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยจะต้องแจ้งรายละเอียดของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดจากการติดตามทวงหนี้ ให้แก่ลูกค้าทราบ

"สิ่งที่อยากเน้น ในส่วนของลูกค้าผู้ถือบัตรเองก็จะต้องคำนึงถึง ค่าใช้จ่าย และภาระต่างๆ ที่จะตาม ด้วยความระมัดระวัง หากมีข้อสงสัยในบัตรที่ใช้ หรือการเรียกเก็บเงินจากธนาคารเจ้าของบัตรก็สามารถสอบถามได้ที่สถาบันการเงินที่ตนเองถือบัตรอยู่" ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.กล่าว

นางสว่างจิตต์ กล่าวอีกว่าในกรณีที่ผู้ถือบัตรเครดิตหมดอายุ หากจะต่ออายุบัตรใหม่จะต้องส่งหลักฐาน เอกสาร เช่น สลิปเงินเดือน บัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ให้กับธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อ พิจารณาต่ออายุบัตร ขณะเดียวธนาคารพาณิชย์ผู้ออกบัตรจะต้องส่งรายงานตามแบบฟอร์มที่ธปท. กำหนด โดยจะต้องส่งรายงานมาให้ธปท.เมื่อสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งบางธนาคารได้ขอผ่อนผัน เนื่องจากยังไม่มีความ พร้อมของระบบคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ลูกค้าบางรายมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธปท.กำหนด ทางชมรมก็ได้รายงานว่าส่วนใหญ่ลูกค้าประเภทนี้จะมีการ ชำระหนี้ครบตามกำหนด ถือว่าเป็นลูกหนี้ที่ดี ซึ่งทางธปท.จะมีการพิจารณาในประเด็นนี้

นายสุขดี จงมั่นคง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทบัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา จำกัด ในฐานะประธานชมรมบัตรเครดิต เปิดเผยว่า วันนี้ทางชมรมบัตรเครดิตได้เข้าหารือกับธปท.เพื่อให้แน่ใจในรายละเอียดต่างๆ ว่าแบงก์พาณิชย์จะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งผลจากการประชุมกฎเกณฑ์ต่างๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องทำตาม เพราะถือว่าเป็นกฎหมายที่ทางการออกมา ซึ่งการที่ต้องมีการหารือหลายครั้ง เนื่องจากกฎเกณฑ์ต่างๆที่ธปท.ออกมามีรายละเอียดมาก และออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ต้องมีการสร้างความเข้าใจ

ในส่วนของผู้ถือบัตรที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ ที่ธปท.กำหนด 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีจำนวน 1 ล้านบัตร เมื่อทางชมรมฯทำความเข้าใจกับธปท. เรียบร้อยแล้ว ทำให้ชมรมต้องกลับไปประมวลหลักฐานของผู้ถือบัตร ซึ่งบางรายนั้นมีการยื่นหลักฐานเอกสารมานานแล้ว และบางรายอาจจะต้องนำหลักฐานทางด้านการเงินเข้ามาเพิ่มเติมดังนั้น ธนาคารพาณิชย์ผู้เป็นเจ้าของบัตรจึงต้อง มีการสำรวจใหม่ โดยจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ

สำหรับการค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงหนี้นั้น ผลสรุปจากการประชุมธนาคารพาณิชย์จะต้องกลับไปคำนวณค่าใช้จ่ายใหม่ และทำหนังสือแจ้งให้ลูกค้าทราบอีกครั้ง ซึ่งต้องทำตาม เกณฑ์ที่ธปท.วางไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางชมรมฯต้องปรับให้ได้ตามเกณฑ์

ในส่วนของบริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยานั้น คงจะต้องเข้าไปหารือและกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยในเบื้องต้นจะต้องเข้าไป ดูหลักฐานของผู้ถือบัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยาก่อน ว่ามีลูกค้าที่เข้าข่ายของเงินเดือนขั้นต่ำไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือนมีจำนวนเท่าใด หลังจากนั้นก็จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ถือบัตรให้รับทราบและขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจต่อไปในปี 2546นี้ จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะขณะนี้เท่าที่ประเมินตัวเลขเคร่าวๆแล้ว ผลกระทบจากประกาศขอบข่ายทำธุรกิจบัตรเครดิตใหม่นั้น กระทบกับธุรกิจบัตรเครดิตอย่างมาก โดยคาดว่าจะทำให้รายได้ของธุรกิจหายไปมากกว่า 1,000 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจะต้องทบทวนถึงเงื่อนไขต่างๆอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของการไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีวิต

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us