Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์17 กันยายน 2549
ตลาดนมผงพรีเมียม ครึ่งปีหลังแข่งดุ รับครอบครัวยุคใหม่ลูกน้อย กำลังซื้อสูง             
 


   
search resources

Dairy Product




การแข่งขันของตลาดนมผง สำหรับเด็กโต ในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มว่าการแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเซกเมนต์พรีเมียม ผู้ผลิตทุกค่ายออกมาเคลื่อนไหวในตลาด ด้วยหนังโฆษณาที่ใช้ในการสร้างการจดจำแบรนด์ อีกทั้งการออกสินค้า และปรับโฉมบรรจุภัณฑ์สินค้าเพื่อรองรับการแข่งขันในปลายปีที่กำลังจะเกิดขึ้น

นมผงตระกูล "เอนฟา" จากค่ายมี้ด จอห์นสัน ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ใหม่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี เพื่อสร้างความโดดเด่น ทันสมัย ให้เป็นรูปแบบเดียวกันทั่วโลก ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 60 ประเทศ ขณะที่อะแล็คต้า ปรับโฉมผลิตภัณฑ์นม และสูตรใหม่ เพื่อให้ดูทันสมัย หลังจากที่ไม่ได้ปรับโฉมมาเป็นเวลากว่า 4 ปี และค่ายดูเม็กซ์ ที่มี "ไฮ-คิว"ทำตลาดในเซกเมนต์นมผงพรีเมียม ก็ปรับภาพลักษณ์ภายใต้แนวคิด Building Better People ซึ่งเป็นการปรับแบรนด์ใหม่ทั้งหมดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดนมพรีเมียม เป็นเซกเมนต์ที่ผู้ผลิตพาเหรดกันเข้ามารุมกินเค้กมากที่สุด แม้จะมีสัดส่วน 40 % หรือเม็ดเงินประมาณ 4,200 ล้านบาท ของตลาดรวมมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาทก็ตาม แต่เนื่องจากเป็นตลาดที่มีกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น

เพราะตลาดนมผงพรีเมียมมีอัตตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโต 15% ล่าสุดมีผลการสำรวจภาพรวมตลาดนมผงสำหรับเด็กในไทยของเอซี นีลเส็นพบว่า มีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% และตลาดนมผงแสตนดาร์ดเติบโตเพียง 5-7% ขณะที่ตลาดรวมของนมผง มีอัตราการเติบโตเพียง 10 % เพราะอัตราการเกิดใหม่ของประชากรในประเทศมีเพียง 1%

นอกจากนั้น การเติบโตของตลาดนมพรีเมียมยังได้แรงเสริมมาจากสภาพครอบครัวสมัยใหม่ ระดับกลาง ที่ส่วนใหญ่พ่อแม่จะนิยมมีบุตรน้อย ซึ่งก็ทำให้แต่ละครอบครัวทุ่มเทเวลาและเอาใจใส่ พิถีพิถันในการเลือกนมให้ลูกดื่มมากขึ้น โดยหันมาซื้อนมผงระดับพรีเมียม แทนการซื้อนมระดับกลางและล่าง ซึ่งก็ทำให้ตลาดนมผงพรีเมี่ยมเติบโตสูงที่สุด

หากโฟกัสเฉพาะตลาดนมผงพรีเมียมสำหรับเด็กโต ที่แบ่งเป็นช่วงวัยตามอายุ ในกลุ่มเด็กอายุ 1 ปี มีสัดส่วนถึง 75% ส่วนตลาดเด็กอายุ 3 ปี มีอัตราการเติบโตสูงสุด ประมาณ 24% รองลงมาเป็นตลาดนมผงเด็กโต อายุ 6 ปี มีสัดส่วนเพียง 1% เนื่องจากพฤติกรรมเด็กอายุ 5-6 ปีขึ้นไปมีพฤติกรรมดื่มนมผงลดลง และเปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มประเภทอื่นๆมากกว่า

ประกอบกับสัดส่วนตลาดเซกเมนต์นมผงอายุ ระหว่าง 1-3 ปี มีขนาดตลาดมากที่สุดใกล้ๆ 100% ส่งผลทำให้ตลาดนมผงพรีเมียม สำหรับเด็กในวัยนี้มีการแข่งขันกันมากที่สุดเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ เอส26 โกลด์ ของไวเอทฯ ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 25% เป็นอันดับ 3 ในตลาดนมผงพรีเมียม ที่มีการชูภาพลักษณ์เสริมพัฒนาการเด็กครบรอบด้าน ก็ออกมาประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นทำตลาดนมผงสำหรับเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป

พร้อมทั้งตั้งจะโค่น "มี้ด จอห์นสัน”ลงจากอันดับหนึ่งให้ได้ภายใน 3 ปี โดยชูกลยุทธ์ความแตกต่างด้านราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ประมาณ 10% เข้ามาชิงแชร์เบอร์หนึ่ง โดยหาช่องว่างทางการตลาดจากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในกลุ่มคุณแม่ที่ตัดสินใจซื้อนมผง โดยมองหาคุณค่าของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ขณะที่ราคาเป็นปัจจัยรองลงมา ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีผู้เล่นในตลาดนมผม พรีเมียมรายใดหยิบจุดขายนี้ขึ้นมาเป็นข่อได้เปรียบในการทำตลาด

ทว่านั่นเป็นการเคลื่อนไหวของ1 ค่ายในบรรดาผู้เล่นรายใหญ่ประมาณ 3-4 ค่ายเท่านั้น เพราะผู้ผลิตรายอื่นๆคือนมผงสำหรับเด็ก ตระกูลเอนฟาของมี้ด จอห์นสัน ,เอส26 โกลด์ ของไวท์เอท และไฮคิวของดูเม็กซ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวในตลาดหลากหลายรูปแบบทั้ง การผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมแนวคิดการทำตลาดที่แตกต่างกันมีการดึงจุดขายที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็กมาเป็นสิ่งที่สำคัญในผลิตภัณฑ์นมผง โดยพัฒนาสูตรใหม่ๆออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเร็วๆนี้นมผงสำหรับเด็ก ตระกูลเอนฟาของมี้ด จอห์นสัน ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 23% ของตลาดนมผงโดยรวม แต่เป็นหัวขบวนครองความเป็นผู้นำตลาดนมผงพรีเมียม ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 65% ก็ยกขบวนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องมาร์เก็ตแชร์อย่างเต็มที่ ทั้งการออกสินค้าใหม่และการออกอากาศภาพยนตร์โฆษณาผ่านสื่อทีวี โดยเตรียมทุ่มงบการตลาด 80 ล้านบาท ในไตรมาส 4 จากงบทั้งปี 400 ล้านบาท เน้นบุกตลาดด้วยกลยุทธ์สื่อสารการตลาดครบวงจร ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มพ่อแม่ และผู้ปกครอง

พร้อมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นมผงเด็กเล็ก ตั้งแต่อายุ 1 ปี เป็นต้นไป และเด็กโต ตั้งแต่อายุ 3 ปีขึ้นไป 2 สูตรคือ"เอนฟาโกร ดีเอช อาร์เอ" และ"เอนฟาคิด ดีเอช อาร์เอ" ที่มีการเติม "โคลีน" ช่วยเสริมสร้างเซลส์สมอง และการสื่อสัญญาณประสาทเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ โดยใช้แนวทางการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเด็กที่มีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นมาเป็นจุดเด่น เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้พ่อแม่ใส่ใจเรื่องสมาธิกับการเรียนรู้ของลูกน้อย ภายใต้แนวคิด"สมาธิ คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ที่ดีในอนาคต"

เจ้าตลาดนมผง โฟกัสเซกเมนต์แสตนดาร์ด

ขณะที่ตลาดนมผง พรีเมียม กำลังแข่งขันกันอย่างรุนแรงนั้น แต่เนสท์เล่ ค่ายยักษ์ซึ่งมี 2 แบรนด์หลักๆคือนมผงตราหมี แอดวานซ์ และนมผง คาร์เนชั่น ทำตลาดนมผงสำหรับเด็ก เซกเมนต์สแตนดาร์ด และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 65% ทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอย กลับยืนยันที่จะโฟกัสตลาดเดิม ในเด็กช่วงอายุ 1 ปี 3 ปี และ 6 ปี เพราะเป็นตลาดที่มีสัดส่วนขนาดใหญ่ถึง 69%

กลยุทธ์การสื่อสารของนมผงตราหมี แอดวานซ์ จะสื่อกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคุณแม่ ด้านความสัมพันธ์ของแม่ที่มีต่อลูก ขณะที่ค่ายคู่แข่งจะใช้แนวทางการสื่อสารตลาดในเรื่องของอีคิว และไอคิว

ส่วนในช่วงครึ่งปีหลัง เตรียมแจ้งเกิดนมผงคาร์เนเชั่น หลังไม่มีการเคลื่อนไหวมาเกือบ 4 ปี โดยทุ่มงบ 80 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา สร้างการรับรู้ในวงกว้าง และจัดกิจกรรมการตลาดรองรับกับการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันมีตราสินค้าที่เคลื่อนไหวในตลาดราว 10 แบรนด์ อีกทั้งใช้กลยุทธ์ราคาเป็นหัวหอกในการทำตลาด ชูคาร์เนชั่นราคาถูกกว่านมตราหมี 20% ซึ่งคาดว่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์คาร์เนชั่นเพิ่มขึ้นเป็น 27%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us