Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 กันยายน 2549
บ้านปูยันเป้ายอดขายปีนี้ 3 หมื่นล.คาดการณ์ราคาถ่านหินปีหน้าร่วง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บ้านปู

   
search resources

บ้านปู, บมจ.
Mining
Electricity




บ้านปู ชี้ราคาขายถ่านหินล่วงหน้าปี 50 ราคาคงไม่ดี เหตุช่วงนี้ราคา SPOT ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบเหลือ 47 เหรียญ/ตัน เฝ้าจับตาความต้องการใช้ถ่านหินในจีนและอินเดีย คาดว่าต้นปีหน้าประเมินราคาเฉลี่ยขายล่วงหน้าได้ ยันแม้ว่าราคาอ่อนตัวช่วงนี้ไม่กระทบยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ 3 หมื่นล้านบาท ส่วนปัญหาน้ำเสียจากเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย คาดว่า 1-2 สัปดาห์นี้ได้ข้อสรุป

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาถ่านหินแบบ SPOT ได้ปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ราคาถ่านหินเดิมอยู่ที่ 52 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับลงเหลือ 47 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ราคาขายถ่านหินล่วงหน้าของปี 2550 ลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม คงต้องพิจารณาความต้องการใช้ถ่านหินในจีนและอินเดียว่าเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ขณะที่การใช้ถ่านหินในสหรัฐและเม็กซิโกลดลง ซึ่งต้องรอต้นปีหน้า บ้านปูจึงจะสามารถสรุปราคาเฉลี่ยขายถ่านหินล่วงหน้าได้ เพราะเพิ่งได้มีการขายล่วงหน้าไปบางส่วนเท่านั้น

แม้ว่าราคาถ่านหินจะอ่อนตัวลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท โดยปีนี้ยังคงมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 หมื่นล้านบาท เพราะในช่วงที่ผ่านมา มีรายได้เติบโตตามเป้าหมาย รวมทั้งปริมาณการผลิตถ่านหินจะเพิ่มขึ้น

นายชนินท์ กล่าวถึงกรณีชาวบ้านชุมชนร้องเรียนเรื่องน้ำเสียมาจากเหมืองถ่านหินทรูบาอินโด ประเทศอินโดนีเซียว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของน้ำเสียว่ามาจากแหล่งใด คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับเหมืองถ่านหินทรูบาอินโดของบ้านปูจริง คณะกรรมการบริษัทฯ จะมีการพิจารณาและหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมา บ้านปูให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบของหน่วยงานรัฐในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม

ส่วนกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้คืนภาษีที่รัฐบาลอินโดนีเซียเรียกเก็บเพิ่ม 5% จากการส่งออกถ่านหินมาตั้งแต่ ต.ค.2548 ว่า ขณะนี้บ้านปูกำลังติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนต.ค.นี้ ที่ผ่านมาบ้านปูส่งออกถ่านหินจากเหมืองอินโดนีเซียประมาณ 16 ล้านกว่าตัน คาดว่าจะได้รับเงินค่าภาษีคืนประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น

นายชนินท์ กล่าวถึงแผนการเข้าประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีพีพีรอบใหม่จากรัฐบาลไทยนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร รวมทั้งพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ในการเข้าประมูล (ทีโออาร์) ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะตัดสินใจเข้าร่วมประมูลหรือไม่ รวมทั้งจะมีการทบทวนสถานการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับปัจจัยข้อจำกัดต่างๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งความพร้อมด้านการเงินด้วย

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่มาบตาพุด จ.ระยองนั้น ยังสามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้เพิ่มอีก 1 โรง ขนาด 700 เมกะวัตต์ แต่เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างและค่ารับเหมาได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หากบ้านปูยื่นประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหินเชือว่าราคาที่ประมูลจะต่างไปจากการประมูลครั้งก่อน

ส่วนแผนการขายหุ้นบมจ.อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) (ATC) บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้น ATC เพิ่มเติมภายในปีนี้ แม้ว่าราคาหุ้นในกระดานจะปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากก็ตาม

นายชนินท์ให้ความเห็นกรณี บมจ.ปตท. (PTT) ถูกฟ้องร้องให้ถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ว่า คงจะไม่ถูกถอดถอนหุ้นปตท.ออกจากตลาดฯ เพราะหากถูกถอนออกจากตลาดฯ จะทำให้แผนการพัฒนาตลาดทุนของไทยเกิดการชะลอได้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต ประเมินฐานะการดำเนินงานของ BANPU โดยแนะนำ "ซื้อ" และน่าจะมีการปรับมูลค่าที่น่าจะเป็นตามวิธี DCF ขึ้น หลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีส่งออกถ่านหิน จะทำให้ราคาหุ้นที่เคยปรับลดลงในช่วงที่เกิดกระแสข่าวการเก็บภาษีดังกล่าวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น และเหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่หุ้นละ 176 บาท

ขณะที่ บล.นครหลวงไทย ได้แนะนำให้ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เนื่องจากที่ระดับราคาปัจจุบันถือว่ามีความเสียงค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงประมาณ 6-7% โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2549 ที่ 155.70 บาท โดยใช้วิธี Sum of the part คือ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหิน 53% ของรายได้รวม ธุรกิจโรงไฟฟ้า 24% และที่เหลืออีก 23% มาจากการลงทุนในหลักทรัพย์อื่น

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น วานนี้ (13 ก.ย.) ราคาหุ้นมีการซื้อขายเหนือราคาปิดครั้งก่อนโดยมีราคาสูงสุดที่ 139 บาท ต่ำสุด 135 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 138 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 4 บาท หรือคิดเป็น 2.99% มูลค่าการซื้อขายรวม 159.75 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us