Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 กันยายน 2549
ธ.ก.ส.วางแผนดูดเงิน 4 หมื่นล้านเงินฝากดบ.ล่วงหน้า 4.25%-ออกสลากใหม่             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

   
search resources

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร - ธ.ก.ส.
Banking




ธ.ก.ส. ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “โครงการเงินฝากดอกเบี้ยทันใจพลัส” ปลอดภาษีรับดอกเบี้ยทันที 4.25% ตั้งเป้า 2 หมื่นล้าน พร้อมจ่อคิวออกสลากออมทรัพย์ทวีสินชุดใหม่ปลายปีนี้อีก 2 หมื่นล้าน

นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ “โครงการเงินฝากดอกเบี้ยทันใจพลัส” โดยผู้ฝากจะต้องฝากเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท แล้วจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากล่วงหน้าทันที ในวันที่ฝาก 4.25% ต่อปี ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากประเภทใดก็ได้ยกเว้นบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยทันใจพลัส และเมื่อฝากครบกำหนด 9 เดือน จะเพิ่มดอกเบี้ย (พลัส) ให้อีก 0.25% ต่อปี และหลังจากนั้นจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราเงินฝากออมทรัพย์พิเศษตามประกาศของ ธ.ก.ส. ต่อไป แต่ถ้าผู้ฝากประสงค์จะถอนเงินฝากบางส่วนหรือปิดบัญชีก่อนสิ้นสุดโครงการ ธ.ก.ส. จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนในอัตรา 3.25% ของเงินต้นที่ถอน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเริ่มรับฝากตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนจนถึง 15 ตุลาคม 2549

“การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากดังกล่าว คาดว่าจะสามารถระดมเงินฝากได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งผมอยากจะบอกว่าหากนำเงินฝากนี้ไปเปรียบเทียบกับโครงการของธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ทั่วไปนั้น ผลตอบแทนก็แทบจะต่างกันไม่มากนัก แต่ที่สำคัญก็คือ ธ.ก.ส. นั้นได้สิทธิจากการเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ดังนั้นผู้ฝากเงินกับ ธ.ก.ส. จึงไม่ต้องเสียภาษีอีก”นายธีรพงษ์กล่าว

ทั้งนี้โครงการเงินฝากดอกเบี้ยทันใจพลัสนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าเงินฝากเดิมและเพิ่มยอดเงินฝากใหม่ จากโครงการดอกเบี้ยเงินฝากทันใจที่ออกไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีระยะเวลาการฝากเงิน 6 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทันที 4.25% ต่อปี โดยสามารถระดมเงินฝากได้กว่า 13,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ธนาคารเตรียมระดมเงินโดยการออกสลากออมทรัพย์ทวีสินชุดใหม่ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ในเดือน พ.ย. นี้ โดยส่วนหนึ่งใช้ไถ่ถอนสลากที่ครบกำหนด และใช้เสริมสภาพคล่องของธนาคาร โดยจะมีการนำภาพวาดของ นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชั้นนำของประเทศ พิมพ์ลงสลาก เช่นเดียวกับการออมสลากออมทรัพย์ทวีสิน รุ่นครบรอบ ธ.ก.ส. 40 ปี ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าและประชาชนเป็นจำนวนมาก และการออกสลากครั้งนี้จะมีความพิเศษ เนื่องจากจะมีภาพวาดพิเศษ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุ 80 พรรษา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

โดยธนาคารจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของสลากให้สูงกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย ตามแนวโน้มดอกเบี้ยในตลาด โดยสลากออมทรัพย์ทวีสินรุ่นก่อนหน้านี้ มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.33% ต่อปี หรือเมื่อฝากครบกำหนด 3 ปี ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยหน่วยละ 35 บาท รวมคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 535 บาท และยังมีโอกาสลุ้นเงินรางวัลทุกเดือน โดยมีเงินรางวัลสูงสุดถึง 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 ธนาคารวางเป้าหมายระดมเงินฝาก รวม 40,000-50,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีเงินฝากรวมทั้งสิ้น 462,176.7 ล้านบาท โดยเป็นเงินฝากระยะสั้น 51% และที่เหลืออีก 49% เป็นเงินฝากระยะยาว ทั้งนี้อยากขอแสดงความขอบคุณส่วนราชการต่างๆ ที่ย้ายเงินมาฝากกับธนาคาร รวมทั้งบางกองทุนที่มีการโยกมาฝากกับ ธ.ก.ส. แล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถช่วยให้ทาง ธ.ก.ส. นำไปปล่อยกู้ให้กับเกษตรกรได้มากขึ้น โดยปัจจุบัน ธ.ก.ส. นั้นมีลูกค้าอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบัญชี โดยเป็นลูกค้ารายย่อยประมาณ 10 ล้านบัญชี ที่มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 4,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ

“การที่เรามีเงินฝากอยู่กว่า 4.6 แสนล้านบาท และมีการปล่อยสินเชื่อไปประมาณ 4.1 แสนล้านบาทนั้น ทำให้ขณะนี้ ธ.ก.ส. มีสัดส่วนในการปล่อยสินเชื่อกับเงินฝาก อยู่ในระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งตามปกติแล้วในช่วงเดือน พฤษภาคม-สิงหาคมนั้น ธ.ก.ส. มักจะอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ลำบากในยอดสินเชื่อที่สูงกว่าเงินฝาก แต่ปีนี้ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกแล้ว” นายธีรพงษ์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us