นายปรีชา เลาหพงษ์ชนะ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายในวันพุธที่ 20 ก.ย. 2549 หากผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดใหญ่จำนวน 15 ราย ยังไม่มาลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) เรื่องการขยายสาขา ทางกระทรวงพาณิชย์จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกกฎกระทรวงมาดูแลการขยายสาขาของค้าปลีกขนาดใหญ่แทน โดยเบื้องต้นจะใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องของกระทรวงมหาดไทยเข้ามาบังคับใช้ก่อน

"เป้าหมายของเราที่ต้องการให้เซ็นเอ็มโอยู เพื่อต้องการให้ทั้ง 15 ราย ยุติการขยายสาขาชั่วคราว ไม่ว่าจะก่อสร้างไปแล้วหรือยังไม่ก่อสร้าง ก็ต้องหยุด เพื่อมาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาค้าปลีกร่วมกัน แต่ทางผู้ประกอบการที่มาร่วมประชุมอ้างว่าไม่มีอำนาจในการลงนามเอ็มโอยูในครั้งนี้ เพราะเป็นตัวแทนของฝ่ายบริหาร ก็ไม่เป็นไร และให้กลับไปหารือ โดยกำหนดเส้นตายในวันพุธที่ 20 ก.ย. หากไม่มีการมาลงนาม หรือลงนามไม่ครบทั้ง 15 ราย ในสัปดาห์ต่อไปจะเสนอครม.ออกกฎกระทรวงมาบังคับใช้ทันที" นายปรีชา กล่าว

นายกวิน สัณฑกุล กรรมการรองกรรมการผู้จัดการบริหารอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทเอก-ชัย ดีสทรีบิวชั่น จำกัด หรือผู้บริหารห้างเทสโก้โลตัส กล่าวว่า ยังไม่ตัดสินใจเซ็นเอ็มโอยู เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีข้อกำหนดอะไร ดังนั้นในวันที่ 20 ก.ย.ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเส้นตายเป็นไปได้สองทางคือเซ็นกับไม่เซ็น ต้องขอรวบรวมข้อมูลก่อน แต่อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับเทสโก้ โดยกรณีที่มีการกล่าวหาว่าเทสโก้ขยายสาขาจนกระทบกับค้าปลีกขนาดย่อย (โชห่วย)

"บริษัทแม่ของเทสโก้ที่ประเทศอังกฤษมีความเป็นห่วงกรณีดังกล่าว เพราะเป็นผลกระทบของสังคม และที่อ้างว่าโชห่วยร้องเรียนนั้น อยากให้มองมุมกลับกันหากมีการให้ยุติการขยายสาขาทั้งก่อสร้างและยังไม่ก่อสร้างจะกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนเท่าไร ตอนนี้อยากขอให้ทางกระทรวงฯ คุยโต๊ะกลมโดยที่ไม่มีผู้สื่อข่าวในเรื่องรายละเอียดของเอ็มโอยู ทั้งนี้แผนการก่อสร้างของเทสโก้ขณะนี้ จะมีการขยายสาขาในรูปของซูปเปอร์มาร์เก็ต 3-4 สาขา และเอกซ์เพรส อีก 10 สาขา ทั่วประเทศ"

ทั้งนี้ในส่วนของการขยายสาขา โดยเฉพาะโลตัส เอ็กซ์เพรส ทางบริษัทจะเน้นการขยายสาขาในกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ ส่วนต่างจังหวัดจะอยู่ในเขตอำเภอเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงเป็นเรื่องแปลกที่กลุ่มสมาพันธ์ต้านธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติ ออกมาร้องเรียนขณะนี้ ส่วนใหญ่ทางเทสโก้ฯ ไม่ได้เข้าไปขยายสาขา

นายกวิน กล่าวว่า หากพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว เทสโก้ไม่ใช่คู่แข่งของโชห่วย แต่กลับมีส่วนช่วยเสริมในธุรกิจโชห่วยด้วยซ้ำ เพราะผู้ประกอบการโชห่วยก็มาซื้อสินค้าที่ห้าง เพื่อนำกลับไปจำหน่ายในชุมชน โดยยอดซื้อของโชห่วยแต่ละจังหวัดอยู่ที่ 5-6% และเชื่อว่ากรณีที่มีโชห่วยมาร้องเรียนเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า บรรยากาศในการหารือระหว่างผู้ประกอบการค้าปลีก 15 รายและภาครัฐนั้น เต็มไปด้วยความสับสน เพราะผู้ประกอบการได้รับหนังสือว่าจะเรียกมาหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาค้าปลีก ไม่ใช่การเซ็นเอ็มโอยู แต่ในการประชุมทางรมช.พาณิชย์ กลับต้องการให้ผู้ประกอบทั้งหมดเซ็นเอ็มโอยู เพื่อยุติการขยายสาขาไว้ก่อนทันที นอกจากนี้ ยังมีการโต้เถียงกันในหลายประเด็น โดยทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมว่า การที่โชห่วยมาร้องเรียน ภาครัฐพิสูจน์หรือยังว่าโชห่วยยอดขายตกไปเท่าไร เคยมาเก็บข้อมูลบ้างหรือไม่