|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (13 ก.ย.) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดในภาคเช้าหลังจากที่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานค่อนข้างมาก ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีมาร์เกตแคปใหญ่ โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มปตท.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายบริษัทประกอบด้วย หุ้นปตท., หุ้นปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), หุ้นบริษัทไทยออยล์ (TOP) และหุ้นบริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) นอกจากนี้ก็มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปิดที่ 698.19 จุดเพิ่มขึ้น 10.43 จุดหรือ 1.52% โดยมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 19,121.07 ล้านบาท
ส่วนการซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มปรากฏว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 792.83 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 512.93 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,305.75 ล้านบาท
นายพิชัย เลิศสุพงษ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ พรูเด้นท์สยาม จำกัด เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นในวันนี้ว่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น เนื่องจากเพิ่มแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลในกรณีปตท. แม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มขนส่ง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง รวมถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่ปรับตัวลดลง ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มส่วนใหญ่ต่างปรับตัวขึ้น
สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้หลังจากที่สามารถสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้การกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนในเร็วๆ นี้ ประกอบกับข่าวที่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะเว้นวรรคทางการเมือง
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าดัชนีจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อทำให้สามารถยืนที่ 700 จุดได้ จากการที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้าเช่นกัน โดยมีแนวรับที่ระดับ 690-695 จุด แนวต้านที่ระดับ 703-705 จุด
ตลท.รับมาร์เกตแคปพลาดเป้า
นายวิจิตร สุพินิจ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองรับคำร้องให้เพิกถอนปตท.ออกจากตลาดหลักทรัพย์ว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลต่อการเพิ่มของมูลค่าตลาดรวม หรือมาร์เกตแคปของตลาดหลักทรัพย์ที่ได้มีการตั้งเป้าไว้ในแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 2(2549-2553) ที่ 10 ล้านล้านบาทต้องเลื่อนออกจากกำหนดเดิม
ทั้งนี้ ในเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องใช้ความระมัดระวังและความรอบคอบให้มากขึ้นเพื่อให้กระบวนการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมายซึ่งในประเด็นของปตท.ส่งผลกระทบต่อการแปรรูปของรัฐวิสาหกิจอื่นทำให้ล่าช้าออกไปและส่งผลต่อความมั่นใจทางด้านจิตวิทยาของนักลงทุน
ในส่วนของเรื่องการถือครองหุ้นในรัฐวิสาหกิจของภาครัฐ จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 75% ส่วนตัวมองว่าระดับดังกล่าวอาจจะสูงไปโดยระดับที่น่าจะถือว่าเหมาะสมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 50%
ถอดปตท.กระทบสมาชิกล้านราย
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า กบข.ไม่กังวลกับการที่ ปตท. อาจถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯเพราะหากพิจารณาดูเจตนาของผู้ฟ้องเอง ก็ไม่ได้ต้องการจะเห็น ปตท. ถูกเพิกถอนออกจากตลาด แต่ต้องการฟ้องร้องผู้ที่ดำเนินการแปรรูป ปตท. เท่านั้น
ทั้งนี้ หาก ปตท. จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จริงๆ ก็จะเป็นปัญหาว่าจะเอา ปตท. ออกจากตลาดหุ้นได้อย่างไร เพราะการจะไปทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทั่วไป (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ในราคาต่ำๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ ในขณะเดียวกันหากต้องทำเทนเดอร์ในราคาที่สูงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเอาเงินทุนจากที่ไหน
สำหรับกบข.มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ใน ปตท. ประมาณ 20 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนของ กบข. เป็นการถือแทนสมาชิกกว่า 1 ล้านราย ถ้าหาก ปตท. ถูกเพิกถอนออกไป ย่อมส่งผลกระทบต่อสมาชิกและนักลงทุนรายย่อยแน่นอน อย่างไรก็ตาม กบข. ยังไม่ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นปตท. และกลุ่มพลังงานลงแต่อย่างใด
|
|
|
|
|