Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2537
"อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ สร้างฝันสหพัฒน์ให้เป็นจริง"             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (มิสทิน) จำกัด

   
search resources

เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย), บจก.
อมรเทพ ดีโรจนวงศ์
Cosmetics




"เปลี่ยนได้หากเป็นมิสทีน" สโลแกนใหม่ของ "มิสทีน" และพรีเซนเตอร์ใหม่จากเดิมที่เคยใช้สาว ๆ หน้าหวานเคาะประตูหน้าบ้านพร้อมกับสโลแกน "มิสทีนมาแล้วค่ะ" มาเป็นชายหนุ่มวัยดึก นามอมรเทพ ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยท่าทีที่มาดมั่น เน้นให้เห็นถึงการทำจริง

6 ปีมาแล้ว ที่อมรเทพปลุกปั้น "มิสทีน" สินค้าเครื่องสำอางของบริษัทแบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ให้ขึ้นมาอยู่แถวหน้ากลายเป็นบริษัทชั้นนำของธุรกิจเครื่องสำอางขายตรงได้อย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ และในแง่ของธุรกิจขายตรง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์เพียงบริษัทเดียวที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จตามที่เสี่ยบุญยเกียรติ โชควัฒนา ผู้ที่ดึงอมรเทพให้เข้ามาทำสินค้าเครื่องสำอางขายตรงต้องการ เพราะช่วงนั้นใคร ๆ ก็มองว่าตลาดขายตรงจะเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดในอนาคต

อมรเทพได้ประกาศตัวเมื่อครั้งแรกของการเข้าสู่วงการ ว่าจะต่อสู้กับบริษัทขายตรงที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดขายตรงมาก่อนให้ได้ นั่นอาจเพราะอมรเทพผิดหวังกับเอวอนซึ่งเป็นบริษัทที่เขาสร้างมากับมือ และอาจ เพราะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของเขาพอสมควร ทำให้เอวอนเครื่องสำอางขายตรงที่เป็นผู้นำตลาดมานับ 10 ปีในขณะนั้นต้องหันมาพิจารณาตัวเองและเริ่มวางแผนรับมือ

การเอาจริงเอาจังในการบุกตลาดโดยการทำทุกวิถีทาง เพื่อล้มแชมป์อย่างเอวอนให้ได้ในเร็ววันอันเป็นเป้าหมายที่ผู้นำมิสทีนมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่นั้น ต่างเป็นที่วิพากษ์กันในวงการว่าการรุกหนักของมิสทีนด้วยทุกวิถีทางเช่นนี้ความฝันของสหพัฒน์ย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เองบทพิสูจน์ของความพยายามอย่างหนักที่อมรเทพได้ทุ่มให้กับมิสทีนก็ได้เผยออกมาให้เห็นอย่างกระจ่างชัดแล้ว ยอดขายของเครื่องสำอางมิสทีนในวันนี้สามารถเคลมได้ว่า เขากำลังเป็นผู้นำตลาดเครื่องสำอางขายตรงอยู่ในขณะนี้ จากตลาดขายตรงทั้งระบบมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท คาดว่ามีอัตราเติบโตสูงขึ้นเฉลี่ยปีละกว่า 30% มิสทีนมีส่วนแบ่งอยู่กว่าครึ่งของตลาดเครื่องสำอางขายตรง หรือ 60% ของตลาดขายตรงทั้งระบบ ซึ่งการกระเถิบตัวเลขยอดขายเข้ามาใกล้เคียงหรือเกือบเท่ากับเอวอน ซึ่งอยู่ในตลาดมานานกว่า 10 ปี และมีรายได้ในปีที่ผ่านมา 1,200 ล้านบาท ย่อมแสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของมิสทีนที่ขยายบทบาท แม้จะมีอายุน้อยกว่าแต่ก็สามารถล้มแชมป์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ว่ากันตามจริงแล้วการเกิดของมิสทีนเครื่องสำอางในระบบขายตรง เมื่อช่วง 6 ปีที่ผ่านมาซึ่งเริ่มจากยอดขายในปีแรกเพียง 20 ล้านบาท ณ วันนี้สามารถขยับฐานยอดในปี 36 จาก 1,200 ล้านบาทเป็น 1,600 ล้านบาทจากมูลค่าตลาดเครื่องสำอางอีกยี่ห้อหนึ่งที่น่าจับตามอง

จากตัวเลขการเติบโตในแต่ละปีคือ ปี 32 มียอดขาย 20 ล้านบาท ปี 33 มียอดขายเพิ่มขึ้นมาเป็น 210 ล้านบาท ปี 34 สามารถทำยอดขายได้ 600 ล้านบาท ในขณะที่ปี 35 มียอดขายสูงถึง 850 ล้านบาทและปี 36 ยอดขายได้ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 1,200 ล้านบาท ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะอมรเทพเดินแผนการตลาดแบบรุกคืบตามประกบเอวอนไปตลอด หากเอวอนขยับมิสทีนก็จะรุกทันที ประกอบกับเอวอนในขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผู้นำ จากคนไทยมาเป็นคนต่างชาติ ทำให้ต้องใช้เวลาในการศึกษาพฤติกรรมคนไทยอีกนาน จึงอาจกล่าวได้ว่าเอวอน ณ เวลานี้กำลังสะดุดขาตนเองอยู่จึงทำให้ต้องหยุดมองตนเองและใช้เวลาในการตั้งท่ารับและตอบโต้แทนที่จะเป็นรุกไป ข้างหน้าอย่างผู้นำ

ปัจจุบันอมรเทพได้รับการยกย่องจากวงการว่าเป็นเจ้าพ่อขายตรง เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาธุรกิจขายตรงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ขณะเดียวกันเขายังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคมขายตรง เพื่อยกระดับคุณภาพนักขายตรง และปัจจุบันเขาก็เป็นนักขายตรงคนเดียวที่ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งนี้นานที่สุดถึง 3 สมัยด้วยกัน และยังเป็นผู้นำมิสทีนให้ได้ชื่อว่า เป็นผู้นำของตลาดเครื่องสำอางขายตรง ในอีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่ร่วมกันก่อตั้งเมื่อ 6 ปีที่แล้วบัดนี้ ก็สามารถพิสูจน์ตนเองได้ว่าเป็นบริษัทขายตรงบริษัทเดียวที่ทำรายได้ให้กับสหพัฒน์สูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจขายตรงด้วยกัน

กลุ่มธุรกิจขายตรงซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสหพัฒน์ในเวลานี้ ล้วนจบเกมธุรกิจไปแล้วแทบทั้งสิ้น อาทิ บริษัทซีซีดี หรือ ซีซีไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมีเปรื่อง มังกรแก้วเป็นกรรมการผู้จัดการ ขายเครื่องสำอางโซเซีย บริษัท วีน ขายชุดชั้นใน เวียนนา และอมรเร่ซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่วางตำแหน่งของสินค้าไว้ที่เป็นเครื่องสำอางชุดเครื่องบำรุงผิว ที่ค่อนข้างมีราคาสูง การที่กลุ่มธุรกิจขายตรงของบริษัทในเครือสหพัฒน์ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เป็น เพราะขาดทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และประสบการณ์ความชำนาญพิเศษในธุรกิจนี้โดยเฉพาะ "คนที่เข้าในในเรื่องของตลาดขายตรงเท่านั้น จึงจะทำตลาดนี้ได้สำเร็จ" อมรเทพ กล่าวไว้เช่นนั้น

และเพราะสาเหตุนี้กระมังจึงทำให้มิสทีนเป็นบริษัทเดียวในเครือสหพัฒน์ที่สามารถทำรายได้เติบโตทวีได้เช่นในปัจจุบันนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us