Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 กันยายน 2549
ธอส.ตามหนี้ส่วนขาดดันกำไร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
Banking




"ธอส." กำไรหดจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย หน้ามืดเร่งตามหนี้ส่วนขาดหารายได้เสริม ปีนี้ตั้งเป้า 200 ล้านบาท พร้อมผ่อนเกณฑ์ให้ลูกหนี้ที่อยู่ในบัญชีเดียวกันหารความรับผิดชอบจ่ายหนี้ได้ จากเดิมต้องจ่ายร่วมกันจึงปลดออกจากบัญชีแบล็คลีส

นายวัฒนา มโนเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนที่จะติดตามหนี้ส่วนขาดหรือหนี้ที่เกินหลักประกัน เพื่อสร้างรายได้ให้กับธนาคาร เนื่องจากได้ตั้งสำรองไว้เต็ม 100% สามารถบันทึกเป็นกำไรได้เลย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 18,000 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้าติดตามหนี้ในปีนี้ 200 ล้านบาท

สำหรับมาตรการในการติดตามหนี้ส่วนนี้ในเบื้องต้นที่คิดไว้คือ เปิดโอกาสให้ลูกหนี้เข้ามาติดต่อขอชำระหนี้กับธนาคารถึงวันที่ 15 ธันวาคม 49 โดยให้แจ้งความประสงค์ที่จะชำระหนี้ส่วนขาดได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน - 15 ตุลาคม 2549 ซึ่งธนาคารจะให้ส่วนลดพิเศษ 40-70% ของยอดหนี้แต่ละราย

นอกจากนี้ บางส่วนได้มอบให้บริษัทเอกชนที่รับติดตามหนี้ที่เป็นมืออาชีพรับไปดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่สนใจเสนอตัวเข้ามาแล้วกว่า 13 ราย ซึ่งจะเป็นผู้ติดตามทวงหนี้ครอบคลุมตั้งแต่การทำหนังสือทวงถาม การสืบทรัพย์ และการยึดสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน หรือเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร

นายวัฒนากล่าวอีกว่า ธอส. ได้ออกแนวทางใหม่เพื่อช่วยลูกหนี้ คือ ธอส.จะผ่อนปรนให้กับลูกหนี้ที่กู้ร่วมสามารถแยกชำระได้ เช่น มีลูกหนี้ 3 รายในบัญชีเดียวกัน สามารถแบ่งความรับผิดชอบได้เท่าๆ กัน แต่ละรายสามารถชำระเฉพาะส่วนที่ตนรับผิดชอบได้ทันทีหากมีความพร้อม จากเดิมลูกหนี้จะต้องชำระปิดบัญชีพร้อมกัน ซึ่งวิธีเดิมเป็นปัญหามาก ทำให้ลูกหนี้ที่มีความพร้อมไม่สามารถเคลียร์หนี้ได้เพราะต้องรอคนที่เหลือซึ่งบางรายยังไม่พร้อม

สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ตั้งแต่สิ้นปี 2548 ถึงปัจจุบัน ธอส.มีเอ็นพีแอลใหม่เพิ่มขึ้นจาก 6.06% เป็น 6.10% ของสินเชื่อที่ปล่อย คิดเป็น 7,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อนำมาหักลบกับส่วนที่ระบายออกไปได้ก่อนหน้านี้กว่า 4,500 ล้านบาท เท่ากับว่าตัวเลขเอ็นพีแอลใหม่เพิ่มเข้ามาประมาณ 2,500 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันธนาคารมีเอ็นพีแอลในพอร์ตประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท

"ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยลบด้านต่างๆ ทำให้กลุ่มลูกค้าของธนาคารที่มีรายได้เฉลี่ย 30,000 บาท/ครอบครัว วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท และต้องผ่อนชำระต่อเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท เมื่อมีภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ที่ไม่เพิ่มขึ้นตามจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นเอ็นพีแอล" นายวัฒนากล่าว

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเอ็นพีแอลของธนาคารถือว่าปรับขึ้นน้อยมากเพียง 0.04% เท่านั้นเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์รายอื่นที่ปรับขึ้น 0.5-1% ทั้งนี้ธนาคารจะพยายามบริหารเอ็นพีแอลที่มีอยู่ไม่ให้เพิ่มมากกว่านี้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและค่าครองชีพด้วยเช่นกัน

ส่วนแนวทางระบายเอ็นพีแอลที่มีในพอร์ตกว่า 2.9 หมื่นล้านบาทนั้น เช่น จ้างเอกชนเข้ามาบริหารในประเด็นนี้ตัดธนาคารอยู่ระหว่างการศึกษาผลดี-ผลเสียในทุกด้าน เพราะหากให้เอกชนนำไปขายแล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับว่าธนาคารสูญเสียโอกาส หรือนำบางส่วนให้เอกชนนำไปบริหารและธนาคารบริหารเองบางส่วนสำหรับเอ็นพีแอลที่ยังอยู่ในกระบวนการบังคับคดีไม่แล้วเสร็จ

สำหรับสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ปัจจุบันมีอยู่ในพอร์ตประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท จำนวน 3,500 รายการ กระจายทั่วประเทศ เฉลี่ยมูลหนี้ต่อรายอยู่ที่ 3-5 แสนบาท ที่ผ่านมาสามารถขายได้แล้ว 4,500 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเอ็นพีเอในพอร์ตประมาณ 7,500 ล้านบาท

ล่าสุดธนาคารได้คัดทรัพย์ประมาณ 1,500 รายได้ แบ่งเป็นในกทม.500 รายการ และต่างจังหวัด 4 ภาคๆ ละ 500 รายการ โดยเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาซื้อได้โดยตรงที่สำนักงานสาขาที่ทรัพย์ตั้งอยู่สามารถซื้อได้ในราคาลด 20% พร้อมกู้ได้สูงสุด 90% ของมูลค่าขาย ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน-15 ตุลาคม 2549   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us