|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลท. เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบการซื้อขายหุ้น ซีฮอร์ส หลังพุ่งชนซิลลิ่ง 5 วันติดต่อ ชี้เข้าใจเป็นการดันราคา แต่ขอตรวจสอบเจตนาก่อน ย้ำหากพบความผิดดำเนินการเอาผิดทันที “สุทธิชัย” แจงขอข้อมูลซื้อขาย D1 จากโบรกเกอร์ตรวจสอบราคาหุ้น ชี้ "แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง" ไม่สามารถเข้าจดทะเบียนได้อีกหลังเตรียมเป็นธุรกิจหลักของดราก้อนวัน
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ SH หลังจากตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 49 โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 5 วันติดต่อหลังจากที่ราคาหุ้นก่อนหน้านี้ (18 ส.ค.) ปิดที่ 7 บาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นหลังกลับเข้ามาซื้อขายในวันที่ 6 ก.ย. ปิดที่ 9.10 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท หรือ 30% ก่อนจะปรับเพิ่มมาปิดที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท หรือ 29.67% ในวันที่ 7 ก.ย. ขณะที่ในวันที่ 8 ก.ย. ราคาปรับขึ้นมาปิดที่ 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 29.66% และขยับมาปิดที่ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 29.41% ในวันที่ 11 ก.ย. ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดวานนี้ (12 ก.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 25.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.70 บาท หรือ 28.79% มูลค่าการซื้อขายเพียง 1.54 ล้านบาท โดยหากพิจารณาการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น 5 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.-12 ก.ย. ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 18.50 บาท หรือ 264%
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของ บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ SH ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 6 วันนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเข้าไปตรวจสอบการซื้อขายตั้งแต่วันแรกว่าใครเข้ามาซื้อขาย และมีเจตนาอย่างไร เพื่อนำข้อมูลทุกอย่างมาวิเคราะห์ว่าจะเข้าองค์ประกอบความผิดใด ซึ่งในแง่ของประมาณการซื้อขายนั้นยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่ในเรื่องราคาหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
"ราคาหุ้นซีฮอร์สมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงนั้นและเป็นรายการเดียวที่เกิดขึ้นทำให้สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบได้ง่าย แน่นอนการที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงนั้นจะทำให้มีการเข้าใจว่าเป็นการดันราคาแน่นอน แต่ทางตลาดหลักทรัพย์จะต้องมีการเข้าไปตรวจสอบว่าผู้ซื้อมีเจตนารมณ์อย่างไร ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการส่งสัญญาณอย่างไรหรือไม่” นายสุทธิชัย
สำหรับบริษัทซีฮอร์สประกอบธุรกิจอาหารแช่แข็งและมีแผนการดำเนินงานธุรกิจของบริษัทซึ่งได้มีการให้ข้อมูลแก่ตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุนเพื่อที่จะใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุนแล้ว ซึ่งบริษัทซีฮอร์สได้มีการแจ้งว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุน 20 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 160 ล้านบาท และบริษัทจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 2,600 ล้านบาท โดยการเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุน 2 ราย ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 ตุลาคมนี้
นายสุทธิชัย กล่าวอีกว่า กรณีราคาหุ้น บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) หรือ D1 มีการเปลี่ยนแปลงนั้น ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้มีการเข้าไปตรวจสอบการซื้อขาย โดยได้มีการขอรายชื่อการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจากบริษัทหลักทรัพย์เพื่อนำมาประมวลวิเคราะห์ หากเข้าองค์ประกอบความผิดก็จะเข้ากระบวนการคณะอนุกรรมการกฎหมายและจะส่งต่อข้อมูลการตรวจสอบให้สำนักลงทุนคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินการต่อไป
สำหรับขั้นตอนขณะนี้ ดราก้อน วัน กำลังดำเนินงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์และที่ปรึกษาทางการเงิน ในการดำเนินการขอให้ตลาดหลักทรัพย์รับหลักทรัพย์ใหม่ หลังจากวันที่ 31 สิงหาคม ดราก้อนวันได้มีการแจ้งว่า ได้มีการขายสินทรัพย์ออกไป ทำให้เป็นบริษัทไม่มีการประกอบธุรกิจ ดังนั้น ดราก้อนวันจะต้องมีการดำเนินการเพื่อที่จะคงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยจะต้องหากธุรกิจใหม่เข้ามา
ทั้งนี้การที่ดราก้อนวันจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ขึ้นอยู่กับ บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด (A-Host) โดยดราก้อนวันต้องมีการดำเนินการยื่นขอรับหลักทรัพย์ใหม่ภายใน 9 เดือน
อย่างไรก็ตามเมื่อธุรกิจของบริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด (A-Host) นำมาเป็นแกนในการดำเนินธุรกิจของดราก้อนวันแล้ว บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส ไม่สามารถที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นายสุทธิชัย กล่าวว่า นักลงทุนควรที่จะมีการศึกษาข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ เม็ดเงินลงทุนในอนาคต ฯลฯ เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน เพราะการลงทุนมีหลายลักษณะ ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและยาว ส่วนราคาหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น นักลงทุนจะต้องมีการติดตามและใช้ดุลพินิจในการพิจารณาลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้มีการติดตามการซื้อหลายหุ้นต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นปกติ ซึ่งหากมีการซื้อขายที่เข้าข่ายมีความผิดตลาดหลักทรัพย์ก็จะมีการดำเนินงานเป็นไปตามขั้นตอน
อนึ่งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ SH มีมติเอกฉันท์ให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (ราคาพาร์) จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 180 ล้านบาท เป็น 2,780 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,600 ล้านหุ้น มูลค่าค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายในลักษณะเฉพาะเจาะจงให้กับนายวรเจตน์ อินทามระ จำนวน 2,179 ล้านหุ้น และนายสมโภชน์ อาหุนัย 421 ล้านหุ้น รวม 2,600 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัท ในราคาหุ้นละ 0.63 บาท โดยคำนวณจากราคาส่วนลด 10% โดยหลังจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ นายวรเจตน์ อินทามระ และนายสมโภชน์ อาหุนัย จะถือหุ้นในสัดส่วน 78.38% และ 15.14% ของทุนจดทะเบียน หรือรวมทั้งสิ้น 93.52% ของทุนจดทะเบียนรวม 2,780 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการประกอบธุรกิจ โดยเพิ่มธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรสูง เช่น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจผลิต จำหน่าย และบริการเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง (High technology) ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กับธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
|
|
 |
|
|