Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 กันยายน 2549
แบรนด์รังนกปั้นแอมบาสเดอร์ใหม่ เท50ล.ชูอีโมชันนัลขยายฐานวัยทำงาน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด

   
search resources

เซเรบอส, บจก.
Health Foods and Food Supplements
Marketing




แบรนด์รังนกอัดฉีด 50 ล้านบาท เปิดตัวแอมบาสเดอร์ใหม่ “แพท-สุธาสินี พุทธินันท์” ปรับการสื่อสารควงอีโมชัน-มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ตอกย้ำภาพลักษณ์ “เติมเต็มคุณค่า แห่งรัก” หวังขยายฐานคนทำงานวัยรุ่นใหม่อายุ 24-25 ปี ตั้งเป้า 2-3 ปี กลุ่มเป้าหมายอายุ 30 ปีขึ้นไปและวัยทำงานรุ่นใหม่บาลานซ์กันสัดส่วน 50:50 ส่วนสิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์ 60%

นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์รังนก ซุปไก่สกัด และวีต้า เปิดเผยว่า แผนการตลาดแบรนด์รังนกบริษัทฯต้องการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนวัยทำงานรุ่นใหม่ หรือเจเนอเรชั่นเอ็กซ์มีอายุ 24-25 ปีเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วน 30-40%

ส่วนกลุ่มเป้าหมายเดิมอายุ 30 ปีขึ้นไปมีสัดส่วน 60-70% ทั้งนี้เป็นเพราะกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่เป็นประชากรที่มีกำลังซื้อ มีความใส่ใจในเรื่องของภาพลักษณ์และสุขภาพ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมใส่ใจสุขภาพ และการดำรงชีวิตมีความเร่งรีบ อาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่

แผนขยายฐานกลุ่มวัยทำงานรุ่นใหม่ บริษัทฯได้ปรับแนวทางในการสื่อสาร โดยการใช้อีโมชันนัล มาร์เก็ตติ้ง หรือการกระตุ้นด้วยอารมณ์และความรู้สึก ภายใต้คอนเซปต์ของความรัก โดยให้แบรนด์รังนกเป็นสื่อแทนความรัก ความห่วงใยและความรู้สึกดีๆ ที่ทุกคนมีต่อกันทุกวัน หลังจากก่อนหน้านี้การทำตลาดแบรนด์รังนกจะเน้นฟังก์ชันนัล หรือประโยชน์ของสินค้าเป็นหลัก ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งมีอายุน้อยลงมา อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ตราสินค้าเป็นที่เข้าใจและได้รับการยอมรับได้ง่ายมากขึ้น โดยบริษัทฯได้วางเป้าหมายขยายฐานลูกค้าอายุ 24-25 ปี เป็น 50% ส่วนกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปเหลือเป็น 50% ภายใน 2-3 ปีนี้

ล่าสุดได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัว “แบรนด์ เลิฟ แอมบาสเดอร์” หรือตัวแทนในการสื่อถึงความรักห่วงใยของแบรนด์รังนกไปสู่วัยทำงานรุ่นใหม่ “แพท-สุธาสินี พุทธินันท์” ภายใต้การสื่อสารอีโมชันนัลตอกย้ำภาพลักษณ์ “เติมเต็มคุณค่า แห่งรัก” เป็นเวลา 2 ปี นับเป็นพรีเซ็นเตอร์คนที่ 3 ต่อจากเบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่สร้างภาพลักษณ์สินค้าไว้อย่างชัดเจน และคนแรกคือ ม.ล.สราลี กิตติยากร พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวสื่อโฆษณาอย่างครบวงจร นำร่องด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “เติมเต็มรัก” ความยาว 45 วินาที เริ่มออกอากาศกลางเดือนกันยายน นี้

ทั้งนี้การทำแบรนด์ แอคทิเวชั่น (Brand Activation) ของแบรนด์รังนกที่ผ่านมา จะสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย อย่างการเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนละครเวทีทวิภพ ในช่วงวันแม่ เนื่องจากต้องการให้แบรนด์เป็นสื่อกลางตัวแทนแห่งความรักระหว่างแม่และลูก สำหรับการเลือกพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ เพราะมองว่าแพท-สุธาสินี พุทธินันท์ เป็นตัวแทนของกลุ่มวัยทำงานรุ่นใหม่ ที่มีสุขภาพและผิวพรรณดี อีกทั้งยังสะท้อนความเป็นพรีเมียมได้เป็นเพราะอย่างดี เนื่องจากสินค้าแบรนด์รังนกเป็นพรีเมี่ยม โดยจำหน่ายขวดละ 80 บาท นอกจากนี้บริษัทยังสร้างกระแสด้วยการนำเอากลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง โดยนำเพลง”เติมเต็มรัก”ของบอย โกสิยพงศ์มาประกอบโฆษณา

สำหรับแนวโน้มตลาดอาหารเสริมสุขภาพมูลค่า 3,000 ล้านบาท ยังคงเป็นทิศทางการเติบโตที่ดีอยู่ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยจะชะลอการขยายตัวลง โดยปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และเปลี่ยนการกินอาหารเสริมเพื่อรักษามาเป็นกินเพื่อป้องกันมากกว่า

ส่วนตลาดรังนกมูลค่า 1,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักเช่นกัน ซึ่งจากการสำรวจของเอซี นีลเส็น ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมา ในทุกช่องทางจำหน่าย พบว่าแบรนด์รังนกเป็นผู้นำตลาด ครองส่วนแบ่ง 60% และยอดขายสิ้นปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าโต 15% โดยปัจจุบันแบรนด์รังนกถือว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้เป็นอันดับ 2 มีสัดส่วนกว่า 20% รองจากสินค้าเรือธงแบรนด์ซุปไก่สกัด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us