โตชิบาสบช่องทางโรงแรมตีปีกรับกระแสแอลซีดีบูม เปลี่ยนซีอาร์ทีทีวี สู่แอลซีดี คุยมีลูกค้าในมือไม่ต่ำกว่า 50 ราย ครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 50 % ด้านผู้นำตลาด ค่ายโซนี่ ไม่สนกลุ่มโปรเจกต์ มองหากโรงแรมเปลี่ยนหมดก็หยุดโต ขณะที่ทั้งปีคาดตลาดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท

นายณรงค์ ผสมทรัพย์ ผู้จัดการ แผนกขายโครงการพิเศษ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า กระแสเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทจอแอลซีดีกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มโรงแรมต่างๆในขณะนี้ ทำให้หลายๆโรงแรมกำลังทยอยเปลี่ยนจากจอโทรทัศน์จากกลุ่มซีอาร์ทีทีวี มาเป็นแอลซีดีทีวีเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ขนาด 26นิ้ว – 32 นิ้ว ส่งผลให้ตลาดโปรเจกต์ปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 60%

ในขณะที่ทางบริษัทฯเองมองว่าตลาดโปรเจกต์เป็นตลาดที่มีความสำคัญ จึงได้หันมาให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้เติบโตจากจากตลาดโปรเจกต์กว่า 12-15% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากการที่บริษัทฯมีรายชื่อลูกค้ากลุ่มโรงแรมในกรุงเทพฯประมาณ 20 โรงแรม จำนวนห้องพักประมาณ 8,000 ห้อง และอีก 30 โรงแรมในต่างจังหวัด

ล่าสุดทางกลุ่มโรงแรมแพนแปซิฟิก ได้มอบหมายให้ทางบริษัทฯเป็นผู้ให้บริการเปลี่ยนแอลซีดีให้ทั้งหมด จากจำนวนห้องพักประมาณ 300 ห้อง ที่โรงแรมแพนแปซิฟิก สีลม คิดเป็นมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท จากเดิมที่ทางแพนแปซิฟิกจะมอบหมายให้ทางชาร์ปเป็นผู้ได้โครงการนี้ไป นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเชนโรงแรมระดับ 5 ดาวที่กำลังจะเข้ามาเป็นลูกค้าอีกเช่น กลุ่มโรงแรมเชอราตัน กลุ่มโรงแรมอมารี ที่เมื่อรวมจำนวนห้องแล้ว คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ห้อง รวมไปถึงกลุ่มโรงแรมมิราเคิล แกรนด์ และสยามซิตี้

“ตลาดโปรเจกต์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้มองว่าจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรม โดยคาดว่าราคาจะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการดึงลูกค้า ขณะที่ทางโตชิบาเอง ไม่หนักใจเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีโรงงานการผลิตในไทย ดังนั้นราคาจึงสามารถแข่งขันกับรายอื่นๆได้อย่างแน่นอน ในขณะที่รายอื่นๆยังต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศอยู่”

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการจัดแพกเก็จ การเปลี่ยนจอซีอาร์ทีทีวี มาเป็นแอลซีดีทีวี แก่งลูกค้าอีกด้วย อาทิ เช่น แพกเก็จแอลซีดีพร้อมกับโน๊ตบุ๊ก แพกเก็จแอลซีดีร่วมกับมินิบาร์ หรือตู้เย็น จึงส่งผลให้โตชิบามีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มตลาดโปรเจกต์เซกเม้นท์โรงแรมกว่า 50% ครองความเป็นผู้นำในขณะนี้

โซนี่เมินกลุ่มโรงแรม เหตุตลาดเล็ก

ด้านผู้นำตลาดทีวี ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 25% จากค่ายโซนี่ กลับมองว่า ตลาดโปรเจกต์จากกลุ่มโรงแรมนั้น ยังเป็นตลาดที่เล็กอยู่ ขอเน้นกลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักต์มากกว่า

นายคาซูโอะ ซูยาม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า ถึงแม้ตลาดโปรเจกต์กลุ่มโรงแรมจะมีอัตราการเติบของแอลซีดีทีวีมากขึ้นนั้น บริษัทฯกลับมองว่า เป็นตลาดที่ยังมีขนาดเล็กอยู่ และเป็นตลาดที่มีการขยายตัวลำบาก ดูจากประเทศไทยมีโรงแรมเพียงไม่กี่แห่ง หากวันหนึ่งทุกโรงแรมหันมาใช้แอลซีดีทีวีหมดแล้ว ตลาดก็จะหยุดการเติบโตลงเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับตลาดคอนซูเมอร์โปรดักส์มองว่าเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับคอนซูเมอร์โปรดักส์มากกว่า

นายคาซูโอะ กล่าวต่อว่า ราคามิใช่ปัจจัยสำคัญที่บริษัทไม่เข้าไปเล่นในตลาดโปรเจกต์แต่อย่างไร และบริษัทฯเองก็มิได้ละทิ้งตลาดโปรเจกต์กลุ่มโรงแรมด้วย ซึ่งในขณะนี้ได้มีกลุ่มเชนโรงแรมระดับ 5 ดาว 3-4 ราย ติดต่อเข้ามาให้ทางบริษํทฯดูแลเกี่ยวกับการเปลี่ยนมาใช้แอลซีดีทีวีดังกล่าว โดยทางบริษัทฯได้ตกลงกับทางโรงแรมคอนราด ในการเปลี่ยนซีอาร์ทีวีมาเป็นแอลซีดีไปเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีทางกลุ่มหน่วยงานที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ติดต่อเข้ามาเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมจอภาพในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 22,000-25,000 ล้านบาท แบ่งเป็น จอซีอาร์ทีทีวี 70% แอลซีดีทีวี 20% และ อื่นๆ คือ พลาสม่าทีวี และโปรเจกชั่นทีวี อีก 10%