|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"แม้ว" ท่องกติกา คลังโบ้ยให้กระทรวงพลังงานชี้แจงศาลปกครองสู้คดีแปรรูปปตท. ขณะที่ “ประเสริฐ” ยันพร้อมให้ความร่วมมือ เชื่อไม่กระทบแผนธุรกิจของบริษัท ด้านนักลงทุนขวัญผวากลัวหุ้นยักษ์ใหญ่ถูกเพิกถอน เทขายหุ้นเครือปตท.ร่วงยกแผง ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงระนาว 9.40 จุด โดย PTT หนักสุดวันเดียวรูด 5% มาอยู่ที่ 226 บาท ต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนมูลค่าเกือบ 2 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ชี้ต่างชาติไม่มั่นใจหุ้นโยงการเมือง รมช.คลัง รับระทบแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจอื่น ด้านผู้ฟ้องปตท.ทั้งหมด องค์กรสนับสนุนและสภาทนายความ นัดหารือถึงรายละเอียดประเด็นคำฟ้องที่จะยื่นข้อมูลต่อศาลเพิ่มเติมวันนี้
ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งลงวันที่ 4 ก.ย. 2549 รับคำฟ้องกรณีที่มูลนิธิคุ้มครองเพื่อผู้บริโภคยื่นหนังสือเพื่อให้ ศาลมีคำสั่งเพิกถอนพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดอำนาจสิทธิประโยชน์ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) พ.ศ. 2544 และพ.ร.ฎ.กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมาย ว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 โดยกำหนดให้เป็นคดีหมายเลขดำที่ฟ.47/2549 ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างรุนแรง
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (7 ก.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดการซื้อขาย เนื่องจากมีแรงเทขายหุ้นออกมาอย่างหนักในเครือปตท. เนื่องจากนักลงทุนค่อนข้างกังวลต่อปัจจัยดังกล่าว ส่งผลทำให้ดัชนีปิดที่ 692.56 จุด ลดลง 9.40 จุด หรือ 1.34% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 694.28 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 690.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,313.76 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 461.50 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 31.45 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 492.95 ล้านบาท
สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในเครือปตท. ทั้ง 7 บริษัท ปรับตัวลดลงทุกบริษัท โดยหุ้น PTT ราคาปิดที่ 226 บาท ลดลง 12 บาท หรือ 5.04% โดยราคาต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 224 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,937.67 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน โดยนอกเหนือความกังวลในกรณีศาลรับคำร้องให้เพิกถอนแล้ววานนี้ยังเป็นวันแรกที่หุ้นบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผล) โดยบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 5 บาทต่อหุ้น
หุ้น PTTEP ราคาปิดที่ 108 บาท ลดลง 3 บาท หรือ 2.70% มูลค่าการซื้อขาย 391.71 ล้านบาท, หุ้น TOP ราคาปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 1.63% มูลค่าการซื้อขาย 498.03 ล้านบาท, หุ้น RRC ราคาปิดที่ 19.40 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.52% มูลค่าการซื้อขาย 335.83 ล้านบาท, หุ้น PTTCH ราคาปิดที่ 77.50 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 1.27% มูลค่าการซื้อขาย 79.48 ล้านบาท, หุ้น TPI ราคาปิดที่ 7.25 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 1.36% มูลค่าการซื้อขาย 169.99 ล้านบาท และหุ้น ATC ราคาปิดที่ 34.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.74% มูลค่าการซื้อขาย 86.29 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติแหยงหุ้นการเมือง
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดรับคำร้องของมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคให้เพิกถอน บมจ.ปตท. (PTT) ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะส่งผลต่อบรรยากาศในการลงทุนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะเชื่อว่าเมื่อผ่านไปซักระยะบรรยากาศในการลงทุนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ทั้งนี้ กรณี ปตท. ต่างจากกรณีบริษัทการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จำกัด (มหาชน) หรือ กฟผ. เพราะยังไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และยังอยู่ในช่วงที่เตรียมแปลงสภาพจากรัฐวิสาหกิจเพื่อเข้าจดทะเบียน รวมทั้งเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจก็ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าบมจ.ปตท.ไม่น่าจะถูกถอดจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่จดทะเบียนมานานแล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลต่อตลาดทุน
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า การปรับตัวลดลงในวานนี้เหตุผลหลักคงมาจากความวิตกกังวลในกรณีศาลรับคำร้อง รวมถึงการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกจึงเป็นแรงกดดันให้มีการขายหุ้นในกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะในกลุ่มปตท.ออกมาค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ในสภาวการณ์เช่นนี้การเลือกลงทุนนักลงทุนจะต้องเลือกลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่กระหน่ำตลาดหุ้นในขณะนี้ เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มส่งออก เนื่องจากรับรู้เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่คงที่มาระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในวันนี้ คาดว่ายังมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลดลงได้อย่างต่อเนื่องแต่คงไม่รุนแรงเหมือนในวันนี้ เนื่องจากน่าจะเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่ราคาปรับลดลงไปค่อนข้างมากแล้วก่อนหน้านี้
นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง หรือ BLS กล่าวว่า กรณีการยื่นถอด PTT จะส่งผลกระทบกับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลว่าจะมีความมั่นคงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้การเข้ามาลงทุนต้องมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆ มากขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทพบปะนักลงทุนสถาบันขณะนี้ยังไม่ได้มีมุมมองในด้านลบแต่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าการรับคำร้องเป็นเพียงขั้นตอนการดำเนินงาน แต่บริษัทมองว่าหากมีการถอนปตท.ออกจะมีความยุ่งยากและจะมีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แน่นอน
สำหรับการนำหุ้นรัฐวิสาหกิจที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากเกิดกรณี บริษัทการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ กฟผ. ทำให้การผลักดันการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต้องทำด้วยความระมัดระวัง ประกอบกับรัฐบาลขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการทำให้การผลัดดันให้เข้าจดทะเบียนทำได้ลำบาก
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลจริงที่มีความชอบธรรมเข้ามาบริหารจัดการอย่างจริงจังต่อไป เพราะการแปรรูปรัฐวิสาหกิจก็มีข้อดี โดยต้องนำจุดอ่อนที่เป็นปัญหาไปแก้ไขและปรับปรุง
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเตรียมที่จะจัดสัมมนาเกี่ยวกับการแปรรูปของบมจ.ปตท. แต่หลังจากที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้องจึงต้องมีการยกเลิกการจัดสัมมนาเพื่อจะให้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนตามกระบวนการพิจารณา แต่ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะมีการยื่นหนังสือเพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ปตท.ยันไม่กระทบธุรกิจ
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า หากศาลปกครองสูงสุดประสงค์จะได้ข้อมูล ข้อเท็จจริงเอกสารหรือหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี ปตท.ก็ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปตท.จะติดตามความคืบหน้าของคดีและแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไป รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป
“ปตท.ยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ และมุ่งมั่นในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสดังเช่นที่ผ่านมา”
นายอนนท์ สิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บมจ.ปตท. กล่าวว่า ผลกระทบจากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดรับคำฟ้องคดี ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับพวก ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ส่งผลต่อราคาหุ้นปตท.และบริษัทในเครือปรับลดลง แต่ส่วนหนึ่งมาจากสภาพตลาดที่ไม่ค่อยดี และหุ้น PTT ก็ขึ้นเครื่องหมาย XD ด้วย
ส่วนผลกระทบทางธุรกิจรวมถึงสัญญาการร่วมทุนในอนาคตนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ ทุกอย่างยังเดินหน้าไปตามแผนงานที่กำหนดไว้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งในคดีดังกล่าวอย่างไรก็ตาม ทางปตท.ได้เตรียมเอกสารข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนให้กับกระทรวงพลังงาน
นัดประชุมเดินหมากทวงคืน ปตท.วันนี้
นางสาวสารี อ่องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า วันนี้ (8 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ผู้ฟ้องปตท.ทั้งหมด รวมถึงองค์กรสนับสนุนและทนายจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย จะประชุมร่วมกันที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อหารือถึงรายละเอียดประเด็นคำฟ้องที่จะยื่นข้อมูลต่อศาลเพิ่มเติม ซึ่งส่วนหนึ่งต้องรอดูข้อมูลจากฝ่ายผู้ถูกฟ้องมีอะไรบ้างด้วย นอกจากนี้แล้ว ยังจะพิจารณาด้วยว่ามีข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะเปิดเผยต่อสังคมประเด็นใดบ้างที่ทำได้และทำไม่ได้เพื่อไม่ให้ละเมิดต่อศาล
“ทักษิณ” ท่องกติกาอีกแล้ว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นในเรื่องที่ศาลปกครองสูงสุดรับคำฟ้องเพิกถอนการแปรรูปปตท. เพียงสั้นๆ ว่า ศาลห้ามวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่หรือ ก็ว่ากันไปตามกติกา
รมว.พลังงาน เตรียมข้อมูลชี้แจงศาล
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็นใดๆ ในเรื่องดังกล่าว แต่พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งศาล และขณะนี้ได้เตรียมข้อมูลชี้แจงเกี่ยวกับข้อฟ้องร้องดังกล่าวเพื่อส่งต่อศาลปกครองต่อไป ซึ่งเป็นการดำเนินการชี้แจงตามขั้นตอนปกติของวิธีการของศาล
ส่วนกรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคตั้งข้อสังเกตว่า ในส่วนของตน ซึ่งเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ไม่สามารถรับหุ้นได้นั้น เรื่องนี้เป็นการได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.ทุนฯ ตามมาตรา 18 ที่การห้ามถือหุ้นไม่ให้ใช้บังคับกับกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัท ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ หรือผู้แทนพนักงานของรัฐวิสาหกิจสามารถถือหุ้นได้ โดยข้อมูลเหล่านี้ก็จะมีการชี้แจงต่อศาลปกครองด้วย
คลังชี้กระทบแผนแปรรูป รสก.อื่น
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวย่อมมีกระทบต่อการแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจแห่งอื่นๆ แน่นอน แต่นโยบายการแปรรูปยังต้องเดินหน้าต่อไป แม้จะไม่สำเร็จได้ในรัฐบาลรักษาการก็ตาม สำหรับการที่ศาลปกครองรับคำฟ้อง และถ้ามีความวินิจฉัยออกมา จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินการแปรรูป มีความชัดเจนมากขึ้น เช่นเดียวกับกรณีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
“เรื่องนี้ต้องให้กระทรวงพลังงานในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก็จะต้องร่วมพิจารณาการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ร่วมกันต่อไป”
คตง.ร่อนหนังสือแจงตั้งที่ปรึกษา กม.
สำหรับความคืบหน้าในการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาทางกฎหมายของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) รายงานข่าวจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) แจ้งว่า วานนี้ (7 ก.ย.) คตง. ได้มีหนังสือชี้แจงกรณีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ คตง. ว่า เป็นการแต่งตั้งจากผู้มีประสบการณ์ในสาขาต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบอำนาจ ที่กำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 เพื่อเป็นแนวทางไม่ให้ คตง. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กระทำการเกินขอบเขตที่กฎหมายให้อำนาจ หรือประเด็นกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน ต้องการความคิดเห็นจากผู้ชำนาญการด้านกฎหมายในสาขาต่างๆ
“ดังนั้นการแต่งตั้งอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย จึงเป็นอำนาจของ คตง. ไม่ได้เกี่ยวกับ สตง. และเป็นการแต่งตั้งตามลำดับขั้นตอน ที่ได้เริ่มพิจารณาตั้งแต่ปี 2548 ก่อนที่ คตง.จะได้มีมติแต่งตั้ง”
ทั้งนี้ หนังสือของ คตง. ดังกล่าวยังได้ชี้แจงด้วยว่า การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายนี้ ไม่ได้ต้องการบิดเบือนผลสอบของ สตง. เกี่ยวกับกรณีที่กรมสรรพากรไม่เก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เนื่องจาก คตง.จะพิจารณาข้อเท็จจริงตามผลสอบของ สตง.
ขณะเดียวกัน คตง. ยังได้ตอบโต้ข่าวที่โจมตีการทำงานของ คตง. ว่าเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองนั้น ถือว่าเป็นเรื่องไม่ชอบธรรม เพราะการวินิจฉัยของ คตง. มีความโปร่งใสและยุติธรรม
|
|
|
|
|