นายพิชัย รัตตกุล ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังพาคณะสื่อมวลชนขึ้นเครื่องบินเที่ยวพิเศษ บินชมโครงการของบริษัทฯ ในทำเลรอบสุวรรณภูมิว่า แนวทางในการพัฒนาเมืองมหานครสุวรรณภูมินั้นมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากในประเทศที่มีการสร้างสนามบินขนาดใหญ่ อาทิ ประเทศเกาหลีใต้ที่มีการสร้างสนามบินอินซอน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงออกมา ก็มีการสร้างสนามบินและพัฒนาเมืองบริวาร ในพื้นที่ใกล้กับสนามบิน และขยายเป็นเมืองขนาดใหญ่ได้
ในขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิถือว่ามีขนาดใหญ่กว่า มีความทันสมัยมากกว่า จึงมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาเมืองบริวารในการรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต
ด้านนายวิชัย สิงห์วิชา รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า การขยายตัวของเมืองรอบสนามบินสุวรรณภูมิในอนาคตจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่า ปัจจุบันพื้นที่รอบสนามบินมีการพัฒนาโครงการและเปิดขายอยู่รวมทั้งสิ้น 249 โครงการ มูลค่าการขายรวม 100,185 ล้านบาท แบ่งออกเป็นที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านเดี่ยวจำนวน 46% คิดเป็นมูลค่าขาย 78% ของมูลค่าโครงการรวมทั้งหมด
โครงการคอนโดมิเนียมหรืออาคารชุดจำนวน 26% คิดเป็นมูลค่าขาย 6% จากมูลค่าตลาดในพื้นที่รวม โครงการทาวน์เฮาส์จำนวน 23% คิดเป็นมูลค่าขายจากตลาดรวมในพื้นที่ประมาณ 11%
ส่วนที่เหลือเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด จำนวน 3% คิดเป็นมูลค่าขายจากตลาดในพื้นที่ 2% และเป็นโครงการที่ดินจัดสรร 1% โดยผู้ประกอบการที่มีการพัฒนาโครงการขายมากที่สุด 2 อันดับแรก มีมูลค่าขายรวมกันคิดกว่า 50% ของโครงการที่เปิดขายทั้งหมดในพื้นที่ คือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีโครงการเปิดขายอยู่ 11 โครงการ จำนวน 5,017 หน่วย มูลค่าขายรวม 33,891 ล้านบาท โดยมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 6.76 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 3,136 หน่วย เหลือขายอยู่ 1,881 หน่วย และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ฯ มีจำนวนโครงการที่เปิดขายในพื้นที่รวม 5 โครงการ มูลค่าขาย 25,130 ล้านบาท จำนวน 5,042 หน่วย ราคาเฉลี่ย 4.98 ล้านบาทต่อหน่วย มียอดขายแล้ว 2,407 หน่วย คงเหลือ 2,635 หน่วย
ส่วนที่เหลือเป็นโครงการของผู้ประกอบการรายอื่นๆ อาทิ บริษัท กฤษดานคร จำกัด (มหาชน) 2 โครงการ จำนวน 1,344 หน่วย มูลค่า 8,749 ล้านบาท ขายแล้ว 768 หน่วย คงเหลือ 576 หน่วย, บริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด 3 โครงการมูลค่า 6,587 ล้านบาท จำนวน 1,170 หน่วยขายแล้ว 975 หน่วยคงเหลือ 195 หน่วย, บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) 7 โครงการมูลค่า 6,431ล้านบาท จำนวน 2,052 หน่วย ขายแล้ว 1,473 หน่วย คงเหลือ 579 หน่วย และบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ส่งผลให้สต็อกของที่อยู่อาศัยในพื้นที่คงเหลือทั้งหมดขณะนี้มีทั้งสิ้น 8,458 หน่วย
ทั้งนี้ บริษัทมีที่ดินสะสมในโซนนี้ทั้งหมด รวม1,414 ไร่ คิดมูลค่าหลังการพัฒนาขายประมาณ 25,130 ล้านบาท โดยได้มีการเปิดตัวโครงการที่พัฒนาบนที่ดินในบางส่วนไปแล้วประมาณ 12,353 ล้านบาท แบ่งเป็น ที่ดินในโครงการ เพอร์เฟค เพลส สุขุมวิท 77 เฟส1-2 จำนวน 150 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,110 ล้านบาท ขายไปแล้ว 797 ล้านบาท, โครงการเพอร์เฟค เพลส รามคำแหง 680 ไร่ มูลค่าขาย 12,620 ล้านบาท ขายไปแล้ว 1,414 ล้านบาท และโครงการเพอร์เฟคพาร์ค รามคำแหง 44 ไร่ มูลค่าขาย 800 ล้านบาท ขายแล้ว 541 ล้านบาท
ที่ดินส่วนที่เหลือบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ประกอบด้วยโครงการเพอร์เฟค เพลส ร่มเกล้า 200 ไร่ มูลค่า 3,600ล้านบาท โครงการทาวน์เฮาส์พัฒนาการ 200 ไร่มูลค่า 2,000 ล้านบาท และโครงการ เพอร์เฟค เพลส สุขุมวิท 77 เฟส 3-4 จำนวน 140 ไร่ มูลค่า 4,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามการเปิดตัวโครงการใหม่ในโซนสนามบินสุวรรณภูมินี้ บริษัทฯ จะเน้นเจาะกลุ่มตลาด 3-5 ล้านบาท และเน้นกลยุทธ์สำคัญๆ ประกอบด้วย การเลือกทำเลที่ตั้งโครงการเป็นหลัก ซึ่งจากการศึกษาของบริษัทพบว่าโครงการที่มีทำเลที่ตั้งดี สามารถประสบความสำเร็จได้สูงถึง 60% การให้สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ การเน้นให้พื้นที่สีเขียวในโครงการ และสุดท้ายคือเรื่องความหลากหลายของตัวสินค้าในโครงการ
สำหรับสัดส่วนสินค้าที่บริษัทพัฒนาในปีนี้ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมเมทโทรพาร์ค ราคา 1-2 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1-2 ล้านบาท 38% บ้านเดี่ยวเพอร์เฟคเพลส และเพอร์เฟคพาร์ค 29% บ้านเดี่ยวมาสเตอร์พีส 15% ส่วนที่เหลือจะเป็นกลุ่มบ้านนิวเทรด ซึ่งจะเปิดตัวในปลายปีนี้ คาดว่าจะช่วยให้บริษัทมียอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท โดยในช่วง8เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้ว 4,500ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้า
|