ผู้บริหาร "ซีฮอร์ส" แจงข้อมูลการปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจและการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2.6 พันล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ 2 ราย ระบุช่วงเริ่มแรกรายได้หลักยังมาจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง พร้อมยืนยันผู้ถือหุ้นใหม่ "วรเจตน์ - สมโภชน์" มีวิสัยทัศน์และศักยภาพที่จะผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในอนาคต

จากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งให้บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ SH ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจดทะเบียน 2,600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 0.63 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ 2 ราย คิดเป็นสัดส่วนกว่า 93% รวมทั้งการขยายไลน์กิจการสู่ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจผลิต จำหน่าย และบริการเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง (High technology) นั้น

นายชาตรี มหัทธนาดุลย์ กรรมการ บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ SH ชี้แจงว่า ในช่วงเริ่มแรกบริษัทจะดำเนินธุรกิจใหม่ควบคู่กับการขยายธุรกิจใหม่ โดยรายได้หลักจะยังคงมาจากธุรกิจเดิมคืออาหารทะเลแช่แข็ง เนื่องจากการขยายธุรกิจธุรกิจใหม่อาจยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างเต็มที่ แต่ในระยะยาวบริษัทคาดว่าโครงสร้างรายได้หลักจะมาจากธุรกิจใหม่

สำหรับรูปแบบและวิธีการลงทุนนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษายังไม่สามารถสรุปรูปแบบและวิธีการลงทุนที่ชัดเจนได้ แต่บริษัทมั่นใจว่าการขยายการลงทุนครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนบริษัทจะชี้แจงข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และนักลงทุนรับทราบต่อไป

ส่วนประเด็นกำหนดการรับชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน และวิธีการชำระเงินเพิ่มทุน เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะได้รับชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนภายในเดือนตุลาคม 2549 นี้ โดยการชำระค่าหุ้นจะต้องชำระเป็นเงินสด

สำหรับเหตุผลในการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในกับนักลงทุนใหม่ทั้ง 2 ราย คือ นายวรเจตน์ อินทามระ และนายสมโภชน์ อาหุนัย จะถือหุ้นในสัดส่วน 78.38% และ15.14% นั้น เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงวิสัยทัศน์ ความสัมพันธ์และเครือข่ายในแวดวงธุรกิจ รวมถึงศักยภาพที่จะช่วยผลักดันให้การขยายการลงทุนของบริษัทประสบผลสำเร็จได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นในอนาคต

"ผู้ถือหุ้นใหม่ทั้ง 2 ราย จบการศึกษาด้านวิศวกรรม เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล โดยเฉพาะนายสมโภชน์ อาหุนัย ยังมีประสบการณ์ด้านการเงินและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมาก่อน ทำให้ผู้บริษัทมั่นใจว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ประสบความสำเร็จต่อไป"

ขณะที่เงื่อนไขของการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนนั้น ไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพิ่มเติมอีก นอกจากนักลงทุนทั้ง 2 ราย จะไม่มีกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้น (Silent period) เท่านั้น

ส่วนการจัดทำคำเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นทั่วไป (Tender Offer) จากการสอบถามผู้ถือหุ้นดังกล่าวยินดีจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ฯ