SAT แง้มปีหน้าแผนเพิ่มทุนอาจเกิด พร้อมเพิ่มฟรีโฟลหุ้นในตลาด หากสิ้นปีได้รับออร์เดอร์ลูกค้ารายใหญ่มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าเจรจาพันธมิตรใหม่ธุรกิจยานยนต์ ต่อยอดธุรกิจได้ข้อสรุปสิ้นปี มั่นใจปีนี้รายได้โต 18% เนื่องจากออร์เดอร์สินค้ามีต่อเนื่อง แต่ยอมรับกำไรขั้นต้นหดจาก 20% เหลือ 18-19% เหตุต้นทุนพุ่งปรับราคาขายไม่ทัน พร้อมแย้มข่าวดีผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลสูงกว่าระหว่างกาลที่อนุมัติแล้วหุ้นละ 0.20 บาท

นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการอำนวยการ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการการเจรจาลูกค้ารายใหญ่ 3 ราย ซึ่งคาดว่าลูกค้ารายแรกจะได้ข้อสรุปจากการรับออเดอร์ใหม่เข้ามาภายในเดือนตุลาคม 49 มูลค่า 1,000 ล้านบาท และอีก 2 ราย มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

จากผลของการรอออร์เดอร์จากลูกค้านั้น ทำให้ SAT ชะลอแผนการเพิ่มทุนไว้ก่อน จนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากลูกค้ารายใหม่ทั้ง 3 รายดังกล่าว ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาและศึกษารายละเอียดกับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจเพิ่มอีก 1 ราย เพื่อช่วยในการยอดธุรกิจภายในอนาคต โดยธุรกิจดังกล่าวเป็นบริษัทที่ดำเนินการในกิจการยานยนต์เช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน

"ตามนโยบายของเรา ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่เพิ่มทุนเนื่องจากคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้น แต่หากได้ออเดอร์ใหม่จากลูกค้า 3 รายมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาท ก็จำเป็นต้องเพิ่มทุนซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปถึงความชัดเจนในสิ้นปีนี้ และอาจเพิ่มทุนได้ปีหน้า" นายวีระยุทธกล่าว

โดยราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่ายังต่ำกว่าพื้นฐานธุรกิจ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากนักลงทุนถือระยะยาวหลังจากเห็นว่าบริษัทมีศักยภาพดีจึงไม่มีการเทขาย ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 22.5% จากช่วงก่อนเข้าระดมทุนในตลาดฯ ที่มีสัดส่วนการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเพียง 2-3% เท่านั้น และ SAT มีแผนจะเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นบนกระดานเนื่องจากพบว่าสภาพคล่องยังต่ำ ซึ่งขณะนี้ศึกษาหลายแนวทาง ทั้งการเพิ่มทุน รวมไปถึงการปล่อยหุ้นในมือออกมา ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้สรุปเรื่องดังกล่าวชัดเจน

สำหรับผลงานปี 49 บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโตในระดับ 18% จากเดิมที่คาดว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และกำไรขั้นต้น (margin) ปีนี้จะอยู่ที่ 18-19%ลดลงจากปีก่อนที่มี margin อยู่ที่ 21% เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานขยับเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถปรับราคาขายตามได้ทัน

อย่างไรก็ตาม ปีหน้า SAT คาดว่าการเติบโตของรายได้ของบริษัทจะสูงกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะลูกค้ารายใหม่ และคาดว่าภายในปีการเมืองจะมีความชัดเจนมากขึ้น จากที่ภายในปีนี้จะต้องมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

ขณะที่นโยบายการจ่ายเงินปันผลภายปีนี้สิ้นปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลมากกว่าระหว่างกาล จากก่อนหน้านี้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากที่บริษัทมีแผนการปรับกลยุทธ์การบริหารต้นทุนของบริษัทดีขึ้น รวมทั้งบริษัทได้มีการหาแหล่งวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่าเดิม ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนหลักของบริษัทได้

นายวีระยุทธ กล่าวต่อว่าบริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการในบริษัทฯ ที่ดำเนินการในกิจการยานยนต์ เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาและศึกษารายละเอียดซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้