วิชัย ทองแตง ปรับแผนยกเลิกควบรวม"พญาไท-เปาโล" ดัน 3 โรงพยาบาลในเครือเปาโลระดมทุนเอง คาดเข้าจดทะเบียนได้ปีหน้า เผยผลดำเนินงานของธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ชี้แม้ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเหมือนกันแต่ไม่แย่งลูกค้ากันแน่เพราะกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม ขณะที่ DAIDOคาด 3-4 เดือนพ้นแผนฟื้นฟู เตรียมสรุปพันธมิตรร่วมทุนใหม่

นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ประสิทธิพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ PYT และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่โรงพยาบาลเปาโล กล่าวถึงความคืบหน้าในการนำโรงพยาบาลเปาโลเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนที่จะควบรวมโรงพยาบาลในเครือพญาไทกับโรงพยาบาลในเครือเปาโล แต่ในช่วงที่ผ่านมาการดำเนินการในเรื่องการฟ้องร้องเกี่ยวกับการออกจากแผนฟื้นฟูระหว่างอดีตผู้ถือหุ้นของบริษัทกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ทำให้แผนในการควบรวมต้องชะงักไป

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการเปลี่ยนแผนจากการควบรวมเป็นการนำโรงพยาบาลในเครือเปาโล 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลเปาโล สาขา โชคชัย 4, สาขาสมุทรปราการ และสาขาสะพานควาย รวมกันเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้มีการตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุน

สำหรับขั้นตอนในขณะนี้อยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษาทางการเงินศึกษาธุรกิจและการดำเนินการเพื่อเตรียมยื่นแบบเแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. โดยคาดว่าจะสามารถยื่นได้ทันปีนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุการนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนได้เนื่องจากจะต้องรอการพิจารณาของสำนักงานก.ล.ต.ก่อนว่าจะใช้เวลาในการพิจารณามากเพียงใด แต่เชื่อว่าภายในปีหน้าหุ้นโรงพยาบาลเปาโลน่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้

ในส่วนของการดำเนินงานของโรงพยาบาลเปาโลในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตค่อนข้างดีมากโดยตลอด เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์น่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจของนักลงทุนบริษัทหนึ่ง

"แม้ว่าจะเป็นธุรกิจโรงพยาบาลเหมือนทั้งพญาไท และเปาโล แต่กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการของทั้ง 2 โรงพยาบาลต่างกัน เราไม่มีความกังวลในเรื่องการแข่งขันกันเองเพื่อสร้างผลงานซึ่งอาจจะกระทบต่อผู้ถือหุ้น แต่ในทางตรงข้ามกลับจะทำให้เรามีฐานลูกค้าที่มากขึ้นด้วย"นายวิชัยกล่าว

อย่างไรก็ตามการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาขยายธุรกิจ รวมถึงการซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อให้ทันสมัยมากขึ้นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร โดยเชื่อว่าภาพการแข่งขันระหว่างกลุ่มพญาไทกับกลุ่มเปาโลจะไม่เกิดขึ้นเพราะกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามารักษาพยาบาลของทั้ง 2 แห่งเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน

นายวิกรานต์ ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขั้นตอนในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจของโรงพยาบาลเปาโล ซึ่งยังคงต้องมีการเข้าหารือกับผู้บริหารบริษัทในเรื่องการต่างๆ รวมถึงการกำหนดช่วงเวลาที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

"อาจจะต้องใช้เวลาทั้งในเรื่องการศึกษาธุรกิจ รวมถึงการหารือเพื่อกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แต่เชื่อว่ายังไม่ใช่ในเร็วๆนี้"นายวิกรานต์

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินงานในบริษัทไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAIDO คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนเพื่อออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ รวมถึงการสรุปกลุ่มพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมทุน โดยในขณะนี้มีการเจรจากลุ่มผู้ทีจะเข้ามาร่วมทุนประมาณ 3-4 ราย ซึ่งมีบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการร้านเอ็มเค สุกี้ เป็นรายหนึ่งที่เข้ามาเจรจาด้วย

ทั้งนี้ ลักษณะการขายหุ้นให้กับกลุ่มพันธมิตรที่จะเป็นการนำหุ้นในส่วนที่ตนเองถืออยู่มาขายเนื่องจากธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่ตนเองไม่มีความถนัด โดยปัจจุบัน กลุ่มของนายวิชัย ทองแตง ถือหุ้น DAIDO กว่า 70% โดยมีน.ส.วิอร ทองแตง บุตรสาวถือหุ้นใหญ่ 19% ซึ่งเข้ามาบริหารงานที่บริษัทด้วย

"ดีลนี้ผมถือว่าเป็นความผิดพลาดดีลหนึ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีการเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทก่อนที่จะเข้ามาลงทุนที่สำคัญผมไม่มีความถนัดในธุรกิจอาหารจึงเปิดให้มีการเจรจาเพื่อร่วมกับพันธมิตรที่มีความสนใจจะร่วมทำธุรกิจ"นายวิชัยกล่าว