Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 กันยายน 2549
สยามฯราคาที่ดินขึ้นแท่นแพงอันดับ1รับอิทธิพลรถไฟฟ้า-การแข่งขันเชิงพาณิชย์             
 


   
search resources

โสภณ พรโชคชัย
Real Estate




AREA เผยผลสำรวจราคาที่ดินรอบกรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่า สยามสแควร์ขึ้นครองแชมป์อันดับหนึ่งราคาตรว.ละ 640,000 บาท จากอิทธิพลรถไฟฟ้าและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ล้มแชมป์เยาวราชร่วงไปอยู่อันดับสอง ราคาตร.ว.ละ 630,000 บาท เหตุมีข้อจำกัดในการขยายตัว ส่วนที่ดินรอบสุวรรณภูมิราคาพุ่ง 46.8% ชี้ปี 50 ราคาที่ดินไม่สดใสขยับเพิ่มเพียง 3.1%

นายโสภณ พรโชคชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ได้ทำการสำรวจการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลประมาณ 200 จุด เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงทุก 1 ปี ย้อนหลังไปถึงปี 2528 โดยพบว่าราคาที่ดินใน 2541 ถือเป็นปีที่มีราคาตกต่ำสุดขีด และที่ผ่านมาได้กระเตื้องขึ้นตามลำดับ และในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีการชะลอตัวลงเพราะปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง

ทั้งนี้การวิเคราะห์มูลค่าตลาดของที่ดิน เป็นแปลงมาตรฐานขนาด 4 ไร่ 16 ไร่ และ 36 ไร่ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบบนฐานเดียวกันทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนในย่านใจกลางเมืองที่ดินส่วนใหญ่เป็นแปลงเล็ก ดังนั้นการเปรียบเทียบจึงตั้งอยู่บนฐานเดียวกันในทุกบริเวณ

สำหรับ ทำเลที่แพงที่สุดในขณะนี้กลายเป็น บริเวณสยามสแควร์ หากเป็นที่ดินเปล่าขนาด 4 ไร่ (หน้ากว้าง 40 เมตร คูณ 160 เมตร) ราคาตรว.ละ 640,000 บาท เพราะอิทธิพลของรถไฟฟ้าและการพัฒนาเชิงพาณิชย์อย่างเข้มข้นในบริเวณดังกล่าว อันดับสองเป็นเยาวราช ตร.ว.ละ 630,000 บาท โดยเยาวราชครองแชมป์อันดับหนึ่งมาตลอด เนื่องจากมีการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ประเภทอาคารพาณิชย์ และอันดับที่สามก็คือ สีลม ตรว. 560,000 บาท อันดับที่สี่มี 2 บริเวณคือ ที่ดินติดถนนวิทยุ และที่ดินติดถนนสาทร โดยมีราคาตร.ว.ละ 450,000 บาท ซึ่งทั้งสองแห่งเหมาะสมกับการพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานหรือ อาคารชุดพักอาศัยราคาแพงเป็นพิเศษ

โดยปกติมักเข้าใจว่าสีลมเป็นอันดับหนึ่งอยู่เสมอ เพราะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก แต่ความเป็นจริงการพัฒนาที่เข้มข้นกว่ากลับเป็นในเยาวราชที่เป็นศูนย์รวมการค้า ราคาตึกแถวย่านเยาวราช สำเพ็ง อาจมีราคาสูงถึง 40 ล้านบาท ทำให้ที่ดินในย่านนั้นบางแปลงมีราคาสูงกว่าล้านบาทต่อตารางวา แต่เนื่องจากเยาวราชมีข้อจำกัดในการขยายตัว ราคาที่ดินจึงมีแนวโน้มลดลง จนในปี 2549 พื้นที่บริเวณสยามสแควร์ ซึ่งในช่วงก่อนมีราคาเป็นอันดับสาม กลับมีราคาสูงเป็นอันดับหนึ่งเพราะมีศักยภาพสูงกว่า มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เข้มข้น ประกอบกับมีระบบขนส่งมวลชนผ่าน ในทางตรงกันข้ามสำหรับราคาที่ดินที่ต่ำที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลราคาไร่ละเกือบ 1 บาท ซึ่งอยู่ในย่านชานเมือง

นับจากปี 2541-2549 ราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 29.7% หรือหนึ่งในสามจากราคาปี 2541 การคำนวณนี้เริ่มจากปีที่ถือว่าตกต่ำสุดคือ ปี 2541 และราคาก็ค่อย ๆ ขยับตัวอย่างช้า ๆ จนมาถึงในปัจจุบัน อัตราการเพิ่มขึ้นนี้ถือว่าไม่มากนัก เพราะในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำคือ พ.ศ. 2539-2541 ปรากฏว่า ราคาที่ดินลดลงไปถึง 20% แสดงว่าขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้นกว่าปี 2539 ไม่มากนัก อัตราการเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2546-2547 และ 2547-2548 เป็นประมาณ 5.6% และ 5.8% แต่อัตราการเพิ่มขึ้นในปี 2548-2549 เป็นเพียงประมาณ 4.0% ซึ่งน้อยกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้คงเป็นเพราะเศรษฐกิจในปี 2549 ไม่สดใสเท่าปีก่อน ๆ ประกอบกับมีปัญหาอึมครึมทางการเมืองด้วย

บริเวณที่มีการเพิ่มขึ้นมากที่สุดก็คือ พื้นที่แถวสยามสแควร์ เพิ่มขึ้นถึง 16.4% คือเมื่อปี 2548 ยังประเมินเป็นเงินไร่ละ 550,000 บาท แต่ปี 2549 ประเมินใหม่เป็น 640,000 บาท ส่วนบริเวณอื่น ๆ ที่มีการเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษในรอบปีที่ผ่านมา ได้แก่ ถนนกาญนาภิเษก ฝั่งตะวันตก ถนนบางขุนเทียนชายทะเล ถนนเพชรหึงส์ ถนนกัลปพฤกษ์ เป็นต้น ส่วนบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ บริเวณตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ถนนประชาร่วมใจ ถนนรังสิต-นครนายก ช่วง กม. 37 ถนนสมเด็จ-สวนพริกไท กม.5 ถนนเลียบคลองรพีพัฒน์ ถนนประชาสำราญ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยู่ไกล อีกเหตุผลหนึ่งก็คือไม่มีโครงการสาธารณูปโภคที่จะพัฒนาใหม่ในระยะเวลาใกล้เคียงนี้

คาดว่าในปี 2550 ราคาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% ซึ่งการนี้แสดงให้เห็นว่า ปี 2550 อาจจะไม่สดใสนักสำหรับราคาที่ดิน อย่างไรก็ตามราคาที่ดินก็ยังเพิ่มขึ้น เพียงแต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราสูงเท่าเดิม อาจกล่าวได้ว่าราคาที่ดิน คงขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มสดใส ตลาดที่ดินก็เติบโตประเทศก็มั่งคั่งขึ้น

สำหรับที่ดินบริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้นถึง 46.8% แสดงว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีผลต่อราคาที่ดิน ส่วนการที่ราคาที่ดินรอบสนามบินสูงขึ้น ไม่ใช่เพราะสนามบินทำให้บริเวณนั้นดีขึ้นโดยตรง แต่เป็นเพราะว่าสนามบินได้นำสาธารณูปโภคต่าง ๆ เข้ามา เช่น ทางด่วน รถไฟฟ้า จึงเป็นการเปิดทำเลใหม่ให้กับแหล่งที่อยู่อาศัยหรือแหล่งธุรกิจ แต่ทั้งนี้การอยู่ใกล้สนามบินจะมีปัญหาสำคัญก็คือมลภาวะทางเสียงซึ่งผู้ซื้อบ้านและนักลงทุนควรพิจารณาให้ดี

ทั้งนี้ราคาที่ดินรอบสนามบินจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยเพียงใดหลังเปิดใช้สนามบิน ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ส่งผลกระทบ คือ มลพิษทางเสียงแม้ว่าที่อยู่อาศัยบางโครงการจะไม่ได้อยู่แนวเส้นเสียงขึ้นลงของเครื่องบิน แต่ก็เชื่อว่าจะมีโครงการจัดสรรได้รับผลกระทบจากมลพิษทางเสียงจำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามองคือมูลค่าของบ้านจัดสรรจะลดลงโดยเฉพาะโครงการบ้านแพงระดับราคาตั้งแต่ 4-5 ล้านบาท

ส่วน พื้นที่ที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงบางนา-ตราด กม.24 ที่ในช่วง 2541-2549 เพิ่มขึ้นถึง 80% รองลงมาคือกิ่งแก้ว 64% ถนนศรีนครินทร์ (บริเวณห้างซีคอนสแควร์) 62% และลาดกระบัง ด้านเหนือสนามบิน 61%

นอกจากนี้บริเวณใกล้รถไฟฟ้าทั้งสองสายในปัจจุบัน พบว่าราคาที่ดินตลอดแนวรถไฟฟ้านั้น มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าบริเวณอื่นที่อยู่ห่างไกลรถไฟฟ้าออกไป การที่ราคาที่ดินริมแนวรถไฟฟ้าปรับเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าการสร้างสาธารณูปโภคทำให้เกิดโอกาสและศักยภาพ อาคารชุดพักอาศัยใกล้สถานีรถไฟฟ้าจะเป็นแนวการอยู่อาศัยแบบใหม่ที่มีความต้องการมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นการเก็งกำไร และที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงก็มีจำนวนมากเนื่องจากปัญหาการจราจรติดขัด ค่าเดินทางสูงเพราะราคาน้ำมันแพง และ ยังพบว่า หากมีการก่อสร้างถนนสายใหม่ ที่ดินริมถนนสายใหม่นั้น จะมีราคาเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us