การบินไทยเตรียมเปิดเที่ยวบินพิเศษ (ชาร์เตอร์ไฟล์) ไปญี่ปุ่นและจีน ซึ่งเป็นจุดบินปกติ ทดสอบระบบสุวรรณภูมิอีกครั้งก่อนเปิด เล็งช่วงก่อนเปิด 15-20 ก.ย. เปิดขายผู้โดยสารทั่วไปเพื่อประเมินผลจากประชาชนจริงๆ “วันชัย”เผยเตรียมทดสอบใหญ่ระบบเช็คอินและสายพานกระเป๋า แบบ 100% เป็นครั้งแรก 7 ก.ย.นี้ เพื่อวัดผลก่อนเปิดสายพานวิ่ง 24 ชม.ทดสอบในระดับต่อไป

นายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการทดสอบระบบการปฎิบัติการในส่วนของการบินไทยเที่ยวบินพิเศษระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2549 เส้นทางสุวรรณภูมิ-ฮ่องกงและสุวรรณภูมิ-สิงคโปร์ เบื้องต้นเป็นไปตามขั้นตอนไม่มีปัญหา โดยภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องการทดสอบระบบของสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อประเมินผลในภาพรวมอีกครั้ง โดยตามแผนภายหลังการบินไทยเริ่มย้ายเที่ยวบินภายในประเทศไปปฎิบัติการบินที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2549 จำนวน 3 เส้นทางแล้ว จะมีการบินทดสอบในเส้นทางระหว่างประเทศอีกครั้ง

โดยกำหนดเป็นเที่ยวบินพิเศษ (ชาร์เตอร์ไฟล์) ซึ่งจะเปิดขายตั๋วกับผู้โดยสารทั่วไป บินช่วงระหว่างวันที่ 15-20 ก.ย. เส้นทาง สุวรรณภูมิ –ญี่ปุ่น และสุวรรณภูมิ -จีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นเมืองเซี่ยงไฮ้ ส่วนญี่ปุ่นจะต้องประสานเรื่องตารางการบินอีกครั้ง เนื่องจากทั้ง 2 จุดบินดังกล่าวมีระยะทางเหมาะสม นักท่องเที่ยวนิยมไปและอากาศค่อนข้างดี การบินไทยสามารถจัดการใช้เครื่องบินได้เหมาะสม (Utilize) และเป็นการทดสอบระบบในเส้นทางที่การบินไทยบินจริง

นายวันชัยกล่าวว่า เพื่อความมั่นใจมากขึ้น ในวันที่ 7 ก.ย. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. จะร่วมกับการบินไทยและสายการบินต่างๆ ทำการทดสอบระบบเช็คอินและระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าแบบเต็มระบบ โดยเปิดเคาน์เตอร์เช็คอินทั้ง 460 เคาน์เตอร์และทำสอบกระเป๋าจำนวน 10,000 ใบต่อชม.เต็มขีดความสามารถเป็นครั้งแรกเพื่อดูการทำงานทั้งหมด จากนั้นจะประเมินผลเพื่อเพิ่มระดับการทดสอบเต็มระบบแบบ 24 ชม.ต่อไป ซึ่งการบินไทยจะจัดเจ้าหน้าที่ 260 คน ร่วมกับสายการบินอื่น ๆ ในขณะที่เคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทยมี 90 เคาน์เตอร์แบ่งเป็น เคาน์เตอร์เช็คอินพรีเมี่ยม 36 ช่อง เคาน์เตอร์เช็คอินชั้นประหยัด 36 ช่องและเคาน์เตอร์เช็คอินภายในประเทศ 18 ช่อง

“การบินไทยเป็นสายการบินหลักและมีผู้โดยสารมาใช้สนามบินมากที่สุด จึงต้องฝึกพนักงานและระบบการให้บริการให้พร้อมมากที่สุดเพื่อลดปัญหาในวันที่ 28 ก.ย.ให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งการเปิดเส้นทางบินพิเศษเป็นระยะๆ นั้นเป็นการทดสอบระบบของการบินไทยส่วนหนึ่งโดยเฉพาะเส้นทางที่มีการบินปกตินอกจากนี้จะต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์การเดินทางของผู้โดยสารด้วยและจะวัดผลในการบินวันที่ 15 ก.ย.และ เที่ยวบินพิเศษระหว่างประเทศช่วง 15-20 ก.ย.อีกครั้ง” นายวันชัยกล่าว

นกแอร์ขอบินเชียงราย-สุราษฎร์และอุบล

นายวันชัยกล่าวว่า สายการบินนกแอร์ได้ทำหนังสือมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อขอทำการบินในเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงราย ,กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี,กรุงเทพ-อุบลราชธานี ,กรุงเพท-กระบี่ เส้นทางละ 1 เที่ยวบินต่อวัน แต่เนื่องจากการบินไทยถือหุ้นในนกแอร์อยู่ 49%และได้ตกลงที่จะทำการบินร่วม (โค้ชแชร์) ในเส้นทางกระบี่ จึงให้นกแอร์ทำข้อเสนอมาใหม่ซึ่งจะเหลือเพียง 3 เส้นทางและให้กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) พิจารณาความเหมาะสมของจำนวนผู้โดยสารเพื่ออนุมัติการบินต่อไปภายใต้หลักการ เพื่อให้แข่งขันกันรุนแรงและให้ทุกสายการบินอยู่รอด โดยยืนยันว่าการบินไทยจะไม่มีการยกเลิกเส้นทางบินที่นกแอร์ขอมาแน่นอนเนื่องจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเส้นทางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น