Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 กันยายน 2549
เอสเอฟทุ่ม 2 พันล.บุกค้าปลีก             
 


   
www resources

โฮมเพจ สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์

   
search resources

สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์, บมจ.
Real Estate
Retail




สยามฟิวเจอร์ฯ (เอสเอฟ) รุกหนักพัฒนาค้าปลีกไม่ยั้งมือ ปีหน้าเตรียมทุ่มอีก 2,000 ล้านบาท ผุดสาขาเพิ่ม พร้อมเล็งบุกตลาดภูธรเพิ่มขึ้นด้วยตามหัวเมืองใหญ่ โดยนำรูปแบบเนเบอร์ฮูดเป็นเรือธง ลั่นปลายปีนี้เปิดบริการดิเอสพละนาดได้ในส่วนแรก คาดปีนี้รายได้เติบโต 100% เท่ากับปริมาณพื้นที่รวมสู่ 180,000 ตารางเมตร

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกการลงทุนในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนที่จะลงทุนอีกประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท เป็นอย่างต่ำ ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงค้าปลีกเพิ่มขึ้นอีกหลายโครงการ เช่น โครงการแบบเนเบอร์ฮูดชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ชื่อเดอะอเวนิวรัชโยธิน ที่ติดกับเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน และเดอะอเวนิวที่พัทยา

นอกจากนั้นยังให้ความสนใจในทำเลย่านถนนรามอินทราและถนนศรีนครินทร์อีกด้วย เนื่องจากเป็นถนนที่มีศักยภาพมีความเจริญอย่างมากในขณะนี้ ส่วนแผนการพัฒนารูปแบบอื่น คือ ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์จะมีอีกอย่างน้อย 2 แห่งในกรุงเทพฯ เช่นที่ถนนแจ้งวัฒนะ

ปัจจุบันบริษัทฯ มีรูปแบบการพัฒนาเชิงค้าปลีกถึง 4 รูปแบบแตกต่างกันไป เพื่อให้สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่, กลุ่มเป้าหมาย และขนาดของพื้นที่ที่มีอยู่ โดยประกอบด้วย 1.เนเบอร์ฮูดชอปปิ้งเซ็นเตอร์ 2.คอมมูนิตี้มอลล์เซ็นเตอร์ 3.ไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ และ 4.เพาเวอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดกว่าทุกรูปแบบ ทั้งนี้ในแต่ละรูปแบบบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนเองและมีพันธมิตรร้านค้าเข้ามาเช่าตลอดจนเซ้งพื้นที่ระยะยาวเพื่อทำการค้า

นอกจากการลงทุนอย่างหนักในกรุงเทพฯ แล้ว บริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดมากขึ้นด้วยในแต่ละรูปแบบที่มีความเหมาะสมในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ รูปแบบเนเบอร์ฮูดชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ซึ่งจังหวัดที่สนใจในเบื้องต้นนี้ คือ ขอนแก่น เชียงใหม่ ที่เป็นหัวเมืองใหญ่

สำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ที่ลงทุนไปคือ โครงการดิเอสพละนาด ที่ถนนรัชดาภิเศก มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท เป็นรูปแบบอาร์ตเทอร์เทนเม้นท์ เซ็นเตอร์แห่งแรกของเอเชียที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของศิลปะ 7 แขนงคือ ดนตรี ภาพวาด-ภาพเขียน ศิลปะการแสดง สถาปัตยกรรม วรรณกรรม ศิลปกรรม ประติมากรรม และศิลปภาพยนตร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 90% มีร้านค้าเข้าจองพื้นที่แล้วกว่า 95% คาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ในส่วนแรกภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และเปิดบริการเต็มรูปแบบในไตรมาสแรกปีหน้าแน่นอน

โครงการนี้มีเป้าหมายจับกลุ่มลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีรายได้ปานกลาง-สูง คนรุ่นใหม่ รักศิลปะความบันเทิงทุกรูปแบบ คาดว่าช่วงแรกที่เปิดบริการจะมีลูกค้าเข้าหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 30,000 คนต่อวัน ในวันธรรมดา และประมาณ 50,000 คนต่อวันในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์

ดิเอสพละนาดเป็นอาคารสูง 7 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน พื้นที่ขายกว่า 45,000 ตารางเมตร แม่เหล็กใหญ่ๆ เช่น อีเว้นท์ฮอลล์ 2,000 ตารางเมตร โรงหนังเอสพละนาด 20,000 ตารางเมตร โรงละครรัชดาลัยพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร แคลิฟอร์เนียว้าวเอ็กซ์พีเรียนซ์ฟิตเนสคลับพื้นที่ 3,660 ตารางเมตร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์มิวสิคเฮาส์ พื้นที่ 800 ตารางเมตร เคพีเอ็นมิวสิคอะเคดามี พื้นที่ 400 ตารางเมตร เป็นต้น และร้านค้าย่อยอีกจำนวนมาก

"เมื่อเราเปิดให้บริการดิเอสพละนาดแล้ว ผมคิดว่าคงจะสร้างาคึกคักได้มากขึ้นและจะทำให้ย่านถนนรัชดาภิเษกนี้เป็นย่านซีบีดีแห่งที่สองของกรุงเทพฯ ให้ได้ เพราะมีทุกอย่างครบในย่านนี้ทั้งค้าปลีก แหล่งบันเทิง ย่านธุรกิจและอื่นๆ เหมือนกับย่าน "ลปปงงิชอปปิ้ง" ที่ประเทศญี่ปุ่น" นายนพพรกล่าว

นายสมคิด ตันทัดวาณิชย์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการดิเอสพละนาด กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์ตลาดไว้ 4 ด้าน คือ เน้นการสร้างแบรนด์ เน้นการทำกิจกรรมหลักที่ส่งเสริมศิลปกรรม เน้นการทำซีอาร์เอ็มเช่นการทำบัตรอาร์เอฟไอดี คือบัตรสมาชิกของโครงการที่ทำขึ้นเป็นพิเศษโดยทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และการขายสื่อมัลติมีเดียภายในโครงการ ซึ่งประกอบด้วยจอพลาสม่าทีวี 300 เครื่อง

สำหรับผลประกอบการของบริษัทสยามฟิวเจอร์ฯ ในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 900 ล้านบาท เติบโต 100% ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตทางด้านพื้นที่รวมที่บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาและบริหารที่คาดว่าภายสิ้นปีนี้จะมีพื้นที่รวมเพิ่มเป็น 180,000 ตารางเมตร จากปีที่แล้วที่มีประมาณ 90,000 ตารางเมตร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us