|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไอศกรีมวอลล์ ระดมกำลัง เติมเต็มตลาดไอศกรีม เน้นนวัตกรรม ขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มความถี่ในการบริโภครับมือการแข่งขันตลาดไอศกรีมที่เติบโต 30 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีการเติบโต เพียง 23% และคาดการณ์ว่าความถี่ของอัตราการบริโภคไอศกรีมที่มีเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยแล้ว 30 ครั้งต่อคนต่อปี หรือมีการซื้อถึง 3 แท่งต่อเดือน จะส่งผลให้ตลาดไอศกรีมมูลค่า 6,500 ล้านบาท ที่ครึ่งปีแรกเติบโต 51% ในครึ่งปีหลังจะเติบโตอีกประมาณ 49% และตลาดรวมโต 18%
ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาดไอศกรีม แต่ตรงกันข้าม เพราะการบริโภคไอศกรีมแล้วทำให้ "ทำให้มีความสุข"โดยตามผลวิจัยของห้องปฎิบัติการยูนิลีเวอร์ ซึ่งก็ทำเป็นสินค้าที่ขายดิบ ขายดีมียอดขายเติบโตอย่างมาก
ตัวเลขของตลาดรวมที่ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณให้ค่ายยักษ์ใหญ่ในตลาดไอศกรีมต้องเปิดฉากรุกอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ยูนิลิเวอร์ ไทย ส่งไอศกรีมวอลล์ออกมาเคลื่อนไหวทางการตลาดด้วยรูปแบบต่างๆเพื่อถล่มคู่แข่งไอศกรีมเนสท์เล่ แบบหมัดต่อหมัด
ส่งแบรนด์ใหม่จับตลาดเด็กเล็ก
แม้ว่าการแข่งขันในตลาดไอศกรีมในช่วงที่ผ่านมา จะผลัดกันทำตลาดแบบรุก และเกมรับบ้างก็ตาม แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ไอศกรีมวอลล์นั้น ขยันออกหมัดชกมากกว่า
ล่าสุดเปิดตัวไอศกรีมที่มีรูปทรง ลวดลายและโลโก้เป็นรูปวัว ภายใต้แบรนด์ "มอ" ไอศกรีมเสริมแคลเซียมสำหรับเด็ก นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ในราคาแท่งละ 12 บาท โดยเป็นการแตกซับแบรนด์ในเซกเมนต์ใหม่ของตลาดไอศกรีมเพื่อสุขภาพ ที่สอดคล้องไปกับพันธกิจของยูนิลีเวอร์ คือ"การเติมพลังให้แก่ชีวิต" ของผู้บริโภค เน้นจับกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุระหว่าง 6-14 ปี
สำหรับตลาดไอศกรีมกลุ่มเด็ก เป็นตลาดที่มีขนาดตลาดใหญ่มากที่สุด ในสัดส่วนถึง 45% ของตลาดรวม ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีแพดเดิลป๊อป เป็นแบรนด์หลักที่เจาะกลุ่มลูกค้า แต่การออกซับแบรนด์ "มอ" จะเป็นเด็กการออกสินค้าใหม่ ที่ช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่เจาะจงกลุ่มเด็กอายุ 6-7 ปี เพราะเป็นวัยที่ต้องการแคลเซียมเพื่อการเจริญเติบโต อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความถี่ในการบริโภค ด้วยการวางตำแหน่งสินค้าให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ปกครองในการเลือกไอศกรีม "มอ" ให้เป็นเหมือนของว่าง หรือการดื่มนมในยามบ่ายของลูกอีกด้วย
รวมถึงจะมีการดึงจุดเด่นของสินค้าที่มีแคลเซี่ยมในไอศกรีม ปริมาณ 185 มิลลิกรัม หรือมีค่าสารอาหารร้อยละ 25 ของสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน เท่ากับการดื่มนมแก้วที่ 3 มาใช้ในการจัดกิจกรรมให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องคุณประโยชน์ของแคลเซี่ยมกับเด็ก โดยจัดทำเอกสารให้ความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการและการรับประทานอาหารแคลเซี่ยมสูงและโปสเตอร์ลวดลายการ์ตูนไอศกรีม "มอ" เพื่อแจกจ่ายตามโรงเรียนระดับประถม 30 แห่งในกรุงเทพฯ
นอกจากการเข้าไปให้ความรู้ในโรงเรียน ชัชญา รอดรักขวัญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการตลาดผลิตภัณฑ์ไอศกรีม บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ไอศกรีม "มอ" ยังจัดกิจกรรมในห้างสรรพสินค้า และทำการการตลาดแบบครบวงจร โดยใช้งบประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ผ่านสื่อโฆษณาทีวี และกิจกรรมมอแคมป์ที่ต่างจังหวัด ตั้งเป้าครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 3 ล้านคน จัดจำหน่ายผ่านตู้แช่ไอศกรีมวอลล์ 5 หมื่นตู้ ในช่องทางไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อทั่วไป และรถไอศกรีมวอลล์ 1 หมื่น
รักษาฐาน เพิ่มความถี่ตลาดวัยรุ่น + นำกลับบ้าน
ทว่าก่อนหน้าจะเปิดฉากส่ง "มอ" ลุยตลาดไอศกรีมเด็กนั้น ทางค่ายยูนิเวอร์ก็บุกหนักในไอศกรีมกลุ่มอื่นๆด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่การเปิดฉากเพื่อรักษาบัลลังค์ในตลาดไอศกรีมโคน ที่เน้นจับกลุ่ม และเป็นสัดส่วน 30% ของตลาด โดยออกคอร์นเนตโต รอแยล และจัดกิจกรรม"Gig A Bite Photo Contest" ตามมาด้วย วอลล์คอร์นเนตโต จัด ไพรเวท ครีมโฟมปาร์ตี้กลิ่นวนิลาที่จบไปเมื่อเร็วๆนี้
ส่วนไอศกรีมกลุ่มนำกลับบ้าน ที่มีขนาดสัดส่วนตลาด 20% ของตลาดรวม และปัจจุบันวอลล์เป็นผู้นำในตลาดไอศกรีมแบบนำกลับบ้าน มีส่วนแบ่งตลาดทั้งสิ้น 57% ของตลาดรวมที่มีมูลค่าประมาณ 460 ล้านบาทนั้น เมื่อเร็วๆนี้เดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มความถี่ และโอกาสการบริโภคไอศกรีมทั้งที่บ้าน และในระหว่างวันให้มากขึ้น ด้วยการแตกไลน์สินค้าของไอศกรีมคอร์นเนตโตแบบเดิม ที่เจาะกลุ่มวัยรุ่นมาเป็น
ไอศกรีม "มินิ คอร์นเนตโต" ที่ดึงความสะดวกง่าย และรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เพราะเป็นไอศกรีมขนาดเล็กมีขนาดที่พอเหมาะมาเป็นจุดขาย พร้อมทั้งวางตำแหน่งให้เป็นหวังเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค โดยเข้าแข่งขันกับสินค้าคู่แข่งนอกตลาดกลุ่มสแน็กขนมขบเคี้ยว และมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายผู้หญิงทำงานสมัยใหม่ทำงานนอกบ้านและดูแลครอบครัว อายุระหว่าง 25-40 ปี โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีพฤติกรรมรับประทานของว่างในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ หรือกลับบ้าน ซึ่งก็สอดคล้องกับไอศกรีมมินิ คอร์นเนตโตที่อยู่ในกลุ่ม สินค้าที่ตอบสนองช่วงเวลาพักผ่อน
ก่อนหน้านี้ ลออิค ทาร์ดี้ ประธาน กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย กล่าวไว้ว่า "การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการทำตลาดไอศกรีมวอลล์ ภายในปีนี้ จะทุ่มเม็ดเงินจำนวนถึง 1,000 ล้านบาท มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา จากเดิมที่ปี 2548 ใช้งบการทำตลาด 600 ล้านบาท รวมถึงมุ่งให้ความสำคัญกับการทำตลาดไอศกรีมกลุ่มนำบ้าน หรือ "เทกโฮม” ภายใต้ซับแบรนด์ ซันเดย์ วอลล์ ซีเล็กมากขึ้น "
ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเพราะตำแน่งความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดที่ค้ำคออยู่ ในปัจจุบัน โดยไอศกรีมวอลล์ เป็นผู้นำตลาด และในครึ่งปีแรกมียอดขายเติบโต 34% โดยข้อมูลดัชนีค้าปลีกจากเอซีลนีลเส็น สำหรับตลาดไอศกรีมในปี 2549 (มกราคม-เมษายน) วอลล์เป็นผู้นำตลาด มีส่วนแบ่งตลาด 52% ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับสองที่มีส่วนแบ่งตลาด 18%
ดังนั้นเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้ได้อย่างยาวนานนั้น จะต้องเข้ามาเป็นผู้เข้ามากำหนดเกมในตลาดมากกว่าเป็นผู้ตาม ด้วยการเปิดฉากออกสินค้าใหม่ที่หยิบนวัตกรรมใส่ลงไปในไอศกรีมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างตลาดให้มีความตื่นเต้นตลอดเวลาด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นกลยุทธ์การตลาด ที่ไอศกรีมวอลล์ นำมาสร้างจุดขายให้มีความแตกต่างจากคู่แข่ง
|
|
|
|
|