|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กันยายน 2549
|
|
Edmonton กำลังอยู่ระหว่างความพยายามสร้างภาพพจน์ให้ผู้คนทั่วโลกเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และสร้างฐานชีวิตใหม่ ทำให้ช่วงนี้ไม่ว่าเดินไปจุดใด หรือท่องไปในโลกไซเบอร์ หลายคนอาจพบเห็นกับแคมเปญของเมืองนี้แล้วก็ได้
สาเหตุใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เขียนไว้เมื่อฉบับที่ผ่านมา ทำให้หลายหน่วยงานของแอลเบอร์ตา ขยันขันแข็งกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Alberta Economic Development และ City of Edmonton หันมาจับมือกันและร่วมสร้างพันธมิตรกับหน่วยงานเอกชนและชุมชนท้องถิ่น เช่น Edmonton Economic Development Corporation (EEDC) ในนามของ Edmonton Workforce Connection (EWC) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเดินทางมาที่เมืองนี้
Tell Somebody เป็นแคมเปญแรกที่กลุ่มพันธมิตรนี้สร้างขึ้น เพื่อให้ชาว Edmonton หรือผู้ที่สนใจพบเห็นโลโกนี้ส่งอีเมลแนะนำสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือคนที่รู้จักเข้าไปเปิดเว็บไซต์ move to Edmonton ซึ่งเป็นแคมเปญที่สอง โดยมี Ipod nano ให้เป็นกำลังใจกับผู้ร่วมสนุกด้วยการจับรางวัลให้ทุกเดือน จนถึงเดือนธันวาคม 2006
หากเปิดเว็บไซต์ move to Edmonton แล้วจะมีข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจให้กับผู้ตั้งถิ่นฐาน (immigrant) เช่น ขั้นตอนการมาตั้งถิ่นฐานในแคนาดา ตลาดแรงงาน ระบบ การศึกษา การเรียนภาษา การฝึกอบรมวิชาชีพ วัฒนธรรม สังคม ภูมิอากาศ และ การช่วยเหลือของหน่วยงานรัฐและท้องถิ่นของแคนาดา โดยมีการนำเสนอในรูปแบบ audio ถึง 6 ภาษาได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส แมนดาริน อารบิก สเปนนิช และรัสเซียน
รายงานทางด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจของเมืองนี้ระบุว่า EEDC มีการสำรวจความพึงพอใจต่อบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจในปี 2005 จำนวน 247 บริษัท พบว่า โดยเฉลี่ยเก้าในสิบบริษัทมีความพึงพอใจในขั้นดีถึงดีมาก จำนวนสามในสี่บริษัทพบว่ามีรายได้ทางธุรกิจเพิ่มขึ้น
จำนวนมากกว่า 37% มีการวางแผนเพื่อขยายฐานทางเศรษฐกิจ และเป็นครั้งแรกที่ทำการสำรวจที่บริษัทเหล่านั้นบอกว่าไม่มีแผนในการย้ายฐานธุรกิจไปยังเมืองอื่นๆ
ส่วนปัญหาที่นักธุรกิจพบว่าเป็นปัญหาในอนาคต ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ 52% ปัญหาด้านพลังงาน 32% และปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 18%
นอกจากการสร้างแรงจูงใจดังกล่าวแล้วทาง EEDC ยังอ้างถึงอัตรารายได้เฉลี่ยของครอบครัวที่ระบุว่า Edmonton มีรายได้ครอบครัวเฉลี่ย 16,819 เหรียญ/ปี ซึ่งถือว่ามากกว่ารายได้เฉลี่ยของชาวแคนาเดียนทั่วไป 5.9% ส่วนรายได้ส่วนบุคคลอยู่ที่ 30,468 เหรียญ/ปี
ตัวเลขที่ Edmonton ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มจำนวน immigrant อยู่ที่ 10% ในอีก 3 ปีข้างหน้าทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานที่รายงานทางเศรษฐกิจระบุว่าต้องการปีละ 12,000 คน ไม่เช่นนั้นแล้ว Edmonton จะสูญเสียรายได้ทางเศรษฐกิจไปอย่างน่าเสียดาย
Siham EL Saghir จากดินแดนอียิปต์ เล่าให้ฟังว่า เหตุที่เลือก Edmonton เป็นที่พักถาวร เพราะน้องสาวแนะนำเธอว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ปลอดภัย สวยงาม ซึ่งถ้าคนเราคิดจะย้ายถิ่นฐานของตัวเองไปอยู่ที่ใดแล้ว คนส่วนใหญ่มักเชื่อใจญาติสนิท หรือเพื่อนที่ไว้ใจรู้จักกันมานานเป็นคนแนะนำแล้วจะได้ผลมาก
ทุกวันนี้ Siham มีงานประจำทำที่ Edmonton Mennonite Centre for Newcomers โดยมีหน้าที่ Employment counsellor หรือเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาทางด้านแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในแคนาดานั่นเอง
Siham มาจากครอบครัวมีอันจะกินในอียิปต์ มีแม่บ้าน คนขับรถ คนทำงานภายในบ้าน แต่เมื่อต้องมาอยู่ที่แคนาดาเมื่อปี 1979 ความสะดวกสบายพาสหายไป เธอต้องทำงานทั้งในและนอกบ้านเอง โดยสามีมีงานประจำที่ City of Edmonton ด้าน Planning Development ส่วนลูกชายสองคนวัย 18 และ 21 ปีกำลังอยู่ในวัยทำงานต่างมีความเป็นตัวเองตามสังคมตะวันตกของที่นี่
Siham พยายามรักษาความเป็นตัวตนของชาติอาหรับอย่างเหนียวแน่นด้วยการพูดคุยถึงวัฒนธรรมของครอบครัว สื่อสารกับบุตรชายด้วยภาษาอารบิกสวดคัมภีร์ และพยายามกลับไปเยือนบ้านเกิดเท่าที่โอกาสอำนวย เพราะเธอยังเชื่อมั่นถึงความสำคัญของรากฐานครอบครัวชาวอาหรับนั่นเอง
"In my country we always have somebody, family or neighbor for you. In here nobody stick in your business. For me, I am not sure 100% I am Egyptian or Canadian I try the best in both culture"
ผู้จัดการ The Path to Employment เช่น Jolanta Slaska มาอยู่ที่ Edmonton เพราะเธอติดตามสามีที่มีดีกรีจากโปแลนด์ และได้รับการติดต่อจาก University of Alberta เข้ามาทำงานวิจัย และอยู่ในทีมงานของ Alberta Register Research Council จนถึงทุกวันนี้
Jolanta ยอมรับว่าแรกเริ่มเธอไม่ได้สนใจเมือง Edmonton มากนัก เพราะอากาศหนาวเย็นมากในฤดูหนาวแต่เมื่อเธอและสามีเริ่มมีบุตรคนที่สอง ทำให้ครอบครัวของเธอตัดสินใจมาสร้างชีวิตใหม่ที่เมืองนี้ แทนที่จะไปเมือง Vancouver, Toronto หรือ Montreal
"ครอบครัวของฉันเดินทางไปหลายเมืองในแคนาดา เรากลับพบว่า Edmonton น่าจะเป็นบ้านของเรามากที่สุด เพราะจำนวนประชากร ปัญหาการจราจร และระบบสาธารณสุข อยู่ในอันดับที่น่าพอใจมากกว่าเมืองใหญ่ๆ"
ถ้าพิจารณาแคมเปญ move to Edmonton ของเมืองนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า กลุ่มเป้าหมายหลักมุ่งไปที่ immigrant ซึ่งถือว่า Edmonton เป็นเมืองที่กลุ่มคนต่างชาติดังกล่าวให้ความสนใจเข้ามาตั้งถิ่นฐานเพียง 27% ในปี 2002 เมื่อเทียบกับเมือง Calgary มีตัวเลขถึง 61% ถือได้ว่า แอลเบอร์ตาอยู่ในอันดับ 5 ของประเทศ หรือเพียง 6% จากจำนวน immigrant ทั้งสิ้น 228,616 คน
ทั้งนี้สังเกตได้ว่าเมืองนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ไม่ว่าจะมีปัญหาที่ผู้คนมักกล่าวขวัญถึงอากาศที่หนาวเย็นมากกว่าเมืองอื่นๆ ประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงานทั่วไป เกษตรกร จนหลายคนมักกล่าวว่าเมืองนี้เป็นเมืองหัวโบราณ ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร
แคมเปญของเมืองนี้จะได้ผลมากน้อยเพียงใดนั้น น่าคำนึงถึงแผนการจัดการอย่างมีวิสัยทัศน์ มากกว่ารางวัลล่อใจ หรือหวังเพียงการสร้างภาพให้ immigrant เข้ามา "ขุดทอง" จากพลังงานมหาศาลที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในแอลเบอร์ตาแล้วย้ายถิ่นฐานไปยังเมืองอื่นๆ เหมือนที่ผ่านมา
www.edmonton.com/tellsomebody
www.edmonton.com/movetoEdmonton
www.edmonton.com/ewc
|
|
|
|
|