Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2549








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2549
กินหัว กินหาง กินกลางตลอดตัว             
 


   
www resources

โฮมเพจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

   
search resources

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บมจ.
Musics
คลีน คาราโอเกะ, บจก.
มิวสิค พาวิลเลียน




เหมือนกับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าที่ผ่านมาได้แต่นั่งมองผู้ประกอบการคาราโอเกะเก็บเกี่ยวรายได้และผลกำไรจากธุรกิจนี้ไปไม่น้อย ทั้งๆ ที่แกรมมี่เป็นเจ้าของสิทธิ์ในเพลงที่ลูกค้าร้องกันอยู่ทุกวัน แต่กลับมีรายได้จากส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลังจากจดๆ จ้องๆ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว มาปีนี้แกรมมี่ก็เลยประกาศรุกเข้าสู่ธุรกิจคาราโอเกะอย่างจริงจังเสียที โดยการควบรวมกิจการระหว่างคลีน คาราโอเกะ ที่เป็นบริษัทในเครือเข้ากับกลุ่มมิวสิค พาวิลเลียน ผู้ประกอบการตู้คาราโอเกะในตลาดโมเดิร์นเทรดที่มีจำนวนตู้มากที่สุดในขณะนี้ และธัญญะ ดาวเรือง ผู้ผลิตตู้คาราโอเกะ รายใหญ่ เพื่อหวังสร้างธุรกิจ Singing Business อย่างเป็นเรื่องเป็นราว

"ที่ผ่านมาแกรมมี่ผลิตเพลงขายเราได้ค่าลิขสิทธิ์ครั้งเดียว แต่ใน Singing Business ทุกครั้งที่มีการร้องเพลงเราได้ค่าลิขสิทธิ์ทุกครั้ง ในบางประเทศธุรกิจนี้มีตลาดใหญ่กว่าธุรกิจเพลงจริงๆ เสียอีก" สุเมธ ดำรงชัยธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสนับสนุนกลาง และพัฒนาธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ให้เหตุผลถึงการเข้าสู่ธุรกิจนี้

คลีน คาราโอเกะ ตั้งขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท และได้มีการเพิ่มทุนเป็น 200 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยหลังจากเพิ่มทุนสัดส่วนการถือหุ้นประกอบด้วยจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 71% ทวีชัย ตรีธารทิพย์ (กลุ่มมิวสิค พาวิลเลียน) 24% และธัญญะ ดาวเรือง 5%

การร่วมหุ้นระหว่างแกรมมี่และมิวสิค พาวิลเลียน ถือเป็นการรวมจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันเพลงของแกรมมี่มีส่วนแบ่งในตลาดคาราโอเกะประมาณ 70% ขณะที่กลุ่มมิวสิค พาวิลเลียนมีตู้คาราโอเกะตั้งอยู่ในโมเดิร์นเทรด ทั้งที่เป็นห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์สโตร์กว่า 1,500 ตู้ทั่วประเทศ เมื่อร่วมทุนกันแล้วทำให้คลีน คาราโอเกะกลายเป็นผู้ประกอบการคาราโอเกะรายใหญ่ที่สุดในทันที

แกรมมี่วางตำแหน่งคลีน คาราโอเกะ สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวและคนรุ่นใหม่ เน้นการตกแต่งทันสมัย นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบันทึกข้อมูลการใช้เพลงของลูกค้า เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบการใช้งานเพลง ซึ่งจะส่งผลไปถึงการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของเพลงอย่างถูกต้องตามการใช้งานจริง โดยนอกจากแกรมมี่แล้วขณะนี้มีค่ายเพลงเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับคลีน คาราโอเกะแล้วกว่า 30 ค่ายด้วยกัน

"ที่ผ่านมาการเก็บค่าลิขสิทธิ์เป็นแบบเหมาจ่าย ซึ่งไม่ได้คิดตามจำนวนที่มีการใช้จริงและยังไม่สะดวกสำหรับค่ายเพลงขนาดเล็ก แต่ระบบของเราเก็บค่าลิขสิทธิ์ตามการใช้งานจริง ลูกค้าร้องเพลงไหนจ่ายเพลงนั้น" ยงศักดิ์ เอกปรัชญาสกุล กรรมการผู้จัดการ คลีน คาราโอเกะกล่าว

ข้อดีอีกประการหนึ่งของระบบดังกล่าวคือ ข้อมูลเพลงทุกเพลง ที่มีการร้องจะถูกบันทึกเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเวลา สถานที่และจำนวนครั้ง ช่วยให้แกรมมี่สามารถวิเคราะห์ความนิยมจากการออกอัลบั้มแต่ละชุดได้เป็นอย่างดี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปใช้สำหรับสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดเพิ่มเติม หรือแม้แต่การออกอัลบั้มชุดต่อไป

"ถ้าเพลงรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงมีการร้องกันมาก ผมก็อาจจะเอาติ๊ก ชิโร่ ไปจัดกิจกรรมร้องเพลงกับลูกค้าที่ร้านก็ได้ หรือมองว่า ได้รับความนิยมก็เตรียมการจัดคอนเสิร์ตและเตรียมตัวทำอัลบั้มชุดใหม่ได้" สุเมธกล่าวถึงรูปแบบการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากการขยายสาขาที่คลีน คาราโอเกะจะดำเนินการเองแล้ว ยังเปิดรับผู้ประกอบการรายอื่นที่สนใจจะใช้ระบบของคลีน คาราโอเกะอีกด้วย ซึ่งแกรมมี่คาดว่าภายในปีนี้น่าจะทำรายได้จากธุรกิจนี้ถึง 100 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ในปีหน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us