แม้ชื่อของศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จะได้รับการเลือกจากผู้อ่าน "ผู้จัดการ" ให้ติดเป็น 1 ใน 50 Role Model อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นให้มีการโหวตครั้งแรกเมื่อปี 2545 แต่ทุกปี ชื่อของเขาจะต้องมาเคียงคู่ และอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือ ซี.พี.ผู้เป็นพ่อของเขา

ปีนี้เป็นปีแรกที่ชื่อของธนินท์หายออกไปจากอันดับ 50 Role Model คงเหลือแต่ชื่อของศุภชัยเพียงคนเดียว

รางวัล "บุคคลดีเด่นด้านโทรคมนาคม" หรือ Telecom Man of The Year 2006 โดย สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ศุภชัยได้รับเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไม่ได้สำคัญที่การมอบโล่รางวัล แต่กลับสำคัญที่ว่า มันเป็นสัญลักษณ์และเครื่องหมายการันตีได้เป็นอย่างดีว่า ชายผู้นี้มีบทบาทสำคัญและโดดเด่นอย่างไรบ้างในวงการโทรคมนาคมในเวทีไทยและอาจจะพาดไปถึงเวทีสากลด้วยแล้วในเวลาเดียวกัน

ศุภชัยถือเป็นคนหนุ่มที่รั้งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทสื่อสาร ที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่าก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยได้อย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่มีการรีแบรนด์จากทีเอมาเป็นทรู เมื่อหลายปีก่อนจากการตัดสินใจของเขา

หลายต่อหลายครั้งสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปจะพบเห็นผู้บริหารคนนี้ปรากฏตัวในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นชนิดถี่ยิบจนได้รับการขนามนามว่า "ทรูรายวัน" เขาแทรกเข้าไปมีส่วนกับทุกการเปิดตัวบริการใหม่สารพัดรูปแบบครอบคลุมทุกบริการที่มีในบริษัทในเครือ

การรีแบรนด์ออเร้นจ์มาเป็น ทรู มูฟ การตัดสินใจซื้อยูบีซีคืนกลับมา และนำยูบีซีออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น หรือแม้แต่การพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมในการแข่งขัน โดยเฉพาะกรณีปัญหาผลการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการที่ตัดสินให้ทรูเป็นฝ่ายชนะบริษัททีโอทีในการฟ้องร้องเรียกค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (access charge) ด้วยมูลค่า 9,175 ล้านบาท ล้วนแล้วแต่เป็นคำตอบที่ดีที่สื่อให้เห็นนัยสำคัญที่ว่า ทำไมบทบาทของเขาผู้นี้จึงได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ใน 50 Role Model แต่เพียงผู้เดียวของตระกูล "เจียรวนนท์"