ภาพของซิคเว่ เบรคเก้ ยืนโดดเด่นเพียงลำพังบนเวทีแถลงข่าวของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กลายเป็นภาพที่ค่อนข้างติดตาและเคยชินยิ่งขึ้น จนสามารถเข้ามาแทนที่ภาพการยืนเคียงข้างวิชัย เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ที่ตัดสินใจทิ้งหุ้นที่มีอยู่ในดีแทคและทิ้งตำแหน่งใหญ่ที่สุดในดีแทคออกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ปีที่แล้ว

และภาพการแถลงข่าวว่าเขาได้รับมติเอกฉันท์จากที่ประชุมให้รับแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี หรือยูคอม แทนบุญชัย เบญจรงคกุล ผู้พี่ของวิชัยในวันเดียวกัน ถือเป็นภาพที่แทนความเปลี่ยนแปลงของซิคเว่ในรอบปีที่ผ่านมาได้ดีที่สุด นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมในดีแทคตั้งแต่ปี 2545

ซิคเว่เป็นผู้บริหารต่างชาติที่สามารถลบภาพลักษณ์การเข้าถึงตัวยากของผู้บริหารระดับสูงออกไปได้อย่างสิ้นเชิง

เขากลายเป็น Idol ของดีแทคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่เคยแม้แต่จะปฏิเสธที่จะลงไปคลุกคลีตั้งแต่แถลงข่าวบนเวทีด้วยตนเอง หรือแม้แต่การเบียดเวลาประชุม เพื่อถ่ายภาพยนตร์โฆษณา และแสดงหนังที่ดีแทคสนับสนุนเอง และลงทำกิจกรรมนอกสถานที่เองทุกครั้งที่มีโอกาส

การเป็นคนที่เข้าถึงง่าย และการลงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในกิจกรรมการตลาดของดีแทค ทำให้เขามีชื่อติดอยู่ใน 50 Role Model อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2547

อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารชาวต่างชาติเพียงผู้เดียวในไทย ที่ได้รับการยอมรับในบทบาทอย่างต่อเนื่องมากที่สุด

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ภายหลังการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของเทเลนอร์ในยูคอม อันดับ Role Model ของซิคเว่ในปีนี้ (2549) กลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากอยู่ที่ 19 เมื่อปีที่แล้วขึ้นมาถึงอันดับ 4 ในปีนี้

ปีที่ผ่านมาซิคเว่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมในการแข่งขันหลายครั้ง ทั้งกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เอไอเอส หรือแม้แต่กับทรูเอง และมักเป็นข่าวใหญ่ในหน้าข่าวการสื่อสารและโทรคมนาคมทุกครั้งที่เขาให้สัมภาษณ์

ข่าวคราวสำคัญอีกครั้งในรอบปีที่ทำเอาซิคเว่ต้องวิ่งรอบเพื่อให้สัมภาษณ์และปรากฏตามสื่อมากมายหลายแขนง ก็คือการแถลงจุดยืนการเป็นผู้นำองค์กรสื่อสารสัญชาติไทยที่ถูกค่ายสื่อสารยักษ์ใหญ่จากนอร์เวย์อย่างเทเลนอร์เข้ามาถือหุ้นใหญ่จากผลพวงของการขายหุ้นของวิชัยนั่นเอง