ยุทธศาสตร์ "อีริคสัน" ไทย หลังดำเนินการครบ 100 ปี เตรียมก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่ท้าทาย สนุก บนโอกาสทางธุรกิจในยุคเน็กซ์เจเนอเรชั่นเทเลคอม ที่พร้อมต่อยอดไปสู่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ สนองผู้บริโภคยุคข้อมูลความเร็วสูง ภายในกลยุทธ์การนำเสนอประสบการณ์แบบ End to End โซลูชั่นที่ครบวงจรระดับโลกให้กับคู่ค้าไทย

"โอกาสการเติบโตของธุรกิจเทเลคอมในเมืองไทยยังมีอีกมาก และธุรกิจเทเลคอมกำลังขโมยส่วนแบ่งจากธุรกิจอื่นๆ ด้วยการก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจนั้น" ฮันส์ คาร์ลสัน ประธานและผู้จัดการ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มและทิศทางของธุรกิจเทเลคอมในประเทศไทย

สิ่งที่อีริคสันมองคือการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่าในอีก 3-5 ปี ข้างหน้าผู้ใช้โทรศัพท์ในเมืองไทยจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 70% ส่วนการใช้งานเรื่องของฟิกซ์ไลน์หรือโทรศัพท์พื้นฐานนั้น การเติบโตจะอยู่ที่การใช้งานบรอดแบนด์ ซึ่งขณะนี้ก็มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี

สำหรับการที่ธุรกิจเทเลคอมได้ก้าวไปสู่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ นั้น เป็นผลจากการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ทำให้ธุรกิจโดยเฉพาะด้านมีเดียมีการปรับตัวรับเรื่องเทคโนโลยีค่อนข้างมาก จึงเห็นธุรกิจเทเลคอมก้าวไปในธุรกิจบรอดคาสติ้งมากขึ้น ในอนาคตบริการอย่างการดูทีวีบนโมบาย หรือการดูทีวีผ่านบรอดแบนด์จะเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเทคโนโลยีมีความพร้อมที่ทำให้การรับชมไม่แตกต่างจากการรับชมในปัจจุบันนี้

โอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ "อีริคสัน" จับตามองและคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีผลดีต่อธุรกิจของอีริคสัน แม้ว่าขณะนี้การแข่งขันในเชิงธุรกิจกับคู่แข่งขันในตลาดอีริคสันจะต้องเผชิญกับทั้งค่ายยักษ์ใหญ่ที่มีแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น โนเกีย ซีเมนส์ หรือจะเป็นแบรนด์จีนจากเอเชียที่ทำตลาดโดยเน้นเรื่องของราคาเป็นหลัก

ยุทธศาสตร์ที่อีริคสันวางไว้จึงเป็นการมองไปสู่เน็กซ์เจเนอเรชั่นของธุรกิจเทเลคอม ด้วยการต่อยอดกลุ่มลูกค้าสนองความต้องการผู้บริโภคยุคข้อมูลความเร็วสูง และเชื่อมต่อประสานโครงข่ายสู่เทอร์มินอล ด้วยวิสัยทัศน์ "The Prime Driver in an all Communicating World" ที่พร้อมนำประสบการณ์ระดับโลกถ่ายทอดสู่กลุ่มลูกค้า คู่ค้าในไทย แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนธุรกิจ เลือกโซลูชั่นที่เหมาะสม และแจ้งเกิดการให้บริการใหม่ๆ สู่ผู้บริโภค

ธุรกิจของอีริคสันจึงเน้นอยู่บน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. Network Infrastructure ที่รวมเรื่องของฟิกซ์เน็ตเวิร์ก โมบายเน็ตเวิร์ก และทรานสมิชชั่น 2. การบริการ และ 3. มัลติมีเดียโซลูชั่น

ทั้งนี้ในส่วนเน็ตเวิร์กอีริคสันมุ่งเน้นการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงทั้งโครงการพื้นฐานและโครงข่ายไร้สาย บรอดแบนด์ และ 3G ซึ่งที่ผ่านมาอีริคสันได้มีการควบรวมกิจการของ "มาร์โคนี" ทำให้อีริคสันแข็งแกร่งขึ้นในธุรกิจโครงข่ายส่งผ่านข้อมูล

ในด้านการบริการนั้นอีริคสันมีบริการให้คำปรึกษาทั้งลูกค้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโทรคมนาคม รวมทั้งวางแผนธุรกิจ การออกแบบ การให้บริการ การให้คำปรึกษาทางการเงินและการลงทุน การจัดเก็บรายได้จากการให้บริการ

คาร์ลสัน กล่าวว่า ทิศทางของโทรคมนาคมในประเทศไทยต่อจากนี้ไป มีแนวโน้มที่เทคโนโลยีการสื่อสารแบบโครงข่ายพื้นฐานหรือแบบดั้งเดิม จะเปลี่ยนมาเป็นโครงข่ายสมัยใหม่หรือเน็กซ์เจเนอเรชั่นเน็ตเวิร์ก ที่จะเพิ่มมูลค่าในการให้บริการรูปแบบใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้มากขึ้น ซึ่งเป็นความต้องการการสื่อสารความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ ด้านโครงข่ายไร้สายจะมุ่งเน้นไปที่ 3G และมีทิศทางการรวมกันของเทคโนโลยีการสื่อสารจะมีรูปธรรมเพิ่มขึ้น

"เราพร้อมรองรับการให้บริการของโลกแห่งการสื่อสารยุคมัลติมีเดียที่สามารถให้บริการอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเสียง ข้อมูล และวิดีโอสตรีมมิ่ง ซึ่งต้องอาศัยโครงข่ายความเร็วสูงมากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ หรือยุคปัจจุบัน" คาร์ลสัน กล่าวและว่า

"การดำเนินธุรกิจของอีริคสันในปัจจุบันครบ 100 ปีในประเทศไทย ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย และสนุกแม้จะเหนื่อยก็ตาม ขณะนี้การตัดสินใจทางด้านธุรกิจจึงต้องเร็วให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยี"

และในช่วงที่ธุรกิจของอีริคสันไทยดำเนินการมาครบ 100 ปีในปีนี้ อีริคสันได้มีการจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ ไปจนถึงกลางปี 2550 โดยในช่วงแรกอีริคสันได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ภายใต้โครงการอีริคสันแบ่งปันความรู้ และในช่วงต้นเดือนตุลาคมจะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาใหญ่ เพื่อชี้เทรนด์ของเทเลคอม รวมทั้งการให้ทุนเด็กไทยได้ไปศึกษาระดับปริญญาโทและเอกในมหาวิทยาลัยที่ประเทศสวีเดน