Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 สิงหาคม 2549
จัดสรรคุมความเสี่ยงศก.ขาลงกำลังซื้อลด ศุภาลัยย่อยโครงการผุดบ้าน 1 ล. NC ปรับราคาลง             
 


   
www resources

โฮมเพจ เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง
โฮมเพจ ศุภาลัย
โฮมเพจ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ศุภาลัย, บมจ.
กฤษดามหานคร, บมจ.
เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง, บมจ.
Real Estate




สินค้าพุ่งค่าใช้จ่ายเพิ่ม กดดันกำลังซื้อลดของผู้บริโภคลดฮวบ 20-25% จัดสรรเร่งปรับแผนลดขนาดบ้าน หันสร้างบ้านถูกลงรองรับกำลังซื้อ “ศุภาลัย” เล็งพัฒนาบ้าน 1 ล้านบาท พร้อมแนะผู้บริโภคซื้อบ้านราคาถูกลงป้องกันขอสินเชื่อไม่ผ่าน วอนแบงก์ผ่อนเกณฑ์ปล่อยกู้กระตุ้นตลาด ด้านเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งฯ ชิมลางบ้านแฝด 1.8 ล้านบาท จากเดิมราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวการณ์ชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน ราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาท และตลาดระดับกลางชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ปัจจัยลบด้านอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน ได้ส่งผลกระทบให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงประมาณ 20-25%

นอกจากนี้ สถาบันการเงินต่างๆ มีนโยบายที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยเพิ่มคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ ทำให้อัตราการถูกปฏิเสธการปล่อยกู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ซื้อบ้านเองจะต้องคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน และควรซื้อบ้านในราคาที่ถูกลงกว่าในอดีต

“อย่างไรก็ดี เพื่อให้ตลาดไม่แย่ลงไปกว่าที่เป็นอยู่ แบงก์ควรมีการผ่อนคลายเกณฑ์การพิจารณาขอสินเชื่อลงบ้าง หรือใช้เกณฑ์อย่างอื่น เช่นให้ดาวน์มากขึ้นหรือไม่ต่ำกว่า 10% เพราะคนที่วางเงินดาวน์สูงๆ จะไม่เบี้ยว เพราะลูกค้าอยากได้บ้านจริงๆ หรือในกลุ่มที่ผ่านดาวน์และไม่มีประวัติเสีย ก็แสดงว่าลูกค้าต้องการบ้านจริงๆ และหากสามารถผ่อนดาวน์มาจนบ้านสร้างเสร็จซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 ปี ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดฯ แสดงว่าลูกค้ารายนั้น มีความสามารถผ่อนได้จนจบ”

ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจึงมีแผนที่จะพัฒนาบ้านหลังเล็กลง ให้สามารถขายได้ในระดับราคาที่ถูกลง แต่คุณภาพยังคงเท่าเดิม เพื่อให้สอดรับกับกำลังซื้อของผู้ประชาชนที่ลดลง รวมถึงปรับแผนการพัฒนาโครงการที่มีขนาดเล็กลง แบ่งพัฒนาเป็นเฟสๆ มากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน และความผันผวนของตลาด ขณะเดียวกันยังช่วยให้ในเฟสถัดไปสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือการหากลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามาเสริมได้ รวมถึงจะทำให้เฟสต่อเนื่องมีราคาที่ดีขึ้น ปัจจุบันระดับราคาบ้านเดี่ยวของบริษัทศุภาลัยฯ อยู่ระหว่าง 2-16 ล้านบาท คาดว่าจะลงมาพัฒนาบ้านระดับ 1 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาคาดว่าจะได้ข้อสรุปๆ เร็วนี้

“ในส่วนของผู้ประกอบการที่มีจำนวนสินค้าสต๊อกมากๆ จะลำบาก เพราะนอกจากมีสินค้ามากแล้ว ยังขายไม่ออกอีก ต้นทุนการเงินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีค่าใช้จ่ายการดูแลสต๊อกบ้านในแต่ละหลัง คำนวณแล้วต่อเดือนถือเป็นต้นทุนที่มาก โดยเฉพาะบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะมีการส่งเสริมการตลาดแบบรุนแรง เพื่อระบายสต็อกออกไป” นายอธิปกล่าว

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC ระบุว่า บริษัทมีแผนการขยายฐานทางการตลาดให้ครอบคลุมทุกเซกเมนท์เพื่อลดความเสี่ยง จึงวางแผนที่จะพัฒนาบ้านขนาดเล็กราคาล้านกว่าบาท บนทำเลพหลโยธิน-รังสิต ออกสู่ตลาดในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้จะมีสินค้าเข้าสู่ตลาดประมาณ 14,000-15,000 ยูนิต จากยอดสินค้าที่อยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 78,000 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยของสินค้าคอนโดมิเนียมช่วงวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ที่ 10,000 ยูนิต/ปี และก่อนวิกฤตเศรษฐกิจมีสินค้าออกสู่ตลาดประมาณ 30,000-40,000 ยูนิต สาเหตุที่คอนโดฯได้รับความนิยม เนื่องจากราคาน้ำมันได้ส่งผลให้ค่าเดินทางของลูกค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่เช่น รถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้ามีการเปิดให้บริการ ทำให้การเดินทางในเมืองสะดวกมากขึ้น จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้อบ้านในเมืองมากหรือใกล้เมืองมากขึ้น

สำหรับแผนดำเนินงานในปลายปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการศุภาลัย พาร์คคอนโดฯ อีกแห่งบนถนนศรีนครินทร์ ตรงข้ามโรงแรมโนโวเทล ศรีนครินทร์ บนพื้นที่เกือบ 14 ไร่ ประกอบด้วยคอนโดฯสูง 30 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 1,700 ยูนิต ขนาดยูนิตเริ่มต้น 35 ตร.ม. ราคา 1.2 ล้านบาท มูลค่า 3,000 ล้านบาท

ด้านบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เตรียมที่จะปรับตัวครั้งใหญ่ในการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับล่างมากขึ้น โดยแนวทางดังกล่าว นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยมีการขยับสูงขึ้นนั้นส่งผลให้บ้านราคาแพงนั้นความต้องการเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็หันมาพิจารณาเลือกซื้อคอนโดฯ ที่อยู่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการก่อสร้างบ้านในช่วงปลายไตรมาส 3 โดยได้เริ่มทดลองลดขนาดของโครงการลง เนื่องจากโครงการบ้านแฝดที่เปิดขายในเฟสก่อนหน้านี้ เหลือขายเพียง 20 ยูนิต ขณะเดียวกันก็เป็นการทดสอบตลาดด้วยว่า ตลาดจะให้การตอบรับดีในสินค้าของบริษัทมากหรือน้อยแค่ไหน ซึ่งจะพิจารณาไปใช้ในโครงการอื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่ 1-2 แห่ง โครงการบ้านแฝดและทาวน์เฮาส์ โครงการละ 300-400 ยูนิต โดยจะมีการทดลองลดขนาดของบ้านแฝด ในโครงการบ้านฟ้าปิยะรมย์ เฟส 7 ลง จากเดิมที่ขายในราคา 2 ล้านต้น มาเป็นยูนิต ราคายูนิตละ 1.8 ล้านบาท ซึ่งขนาดของบ้านจะมีการลดลงเล็กน้อย

นายสมเชาว์ กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ตลาดในครึ่งปีหลังนั้น ได้รับผลดีจากภาวะอัตราดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง ขณะเดียวกันสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจนขึ้นว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้น สำหรับเป้ายอดขายถึงสิ้นปี ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท และจะมียอดโอนโครงการ 2,000 ล้านบาท

น.ส.สรินทร์ลดา ตันติสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พรไพลิน ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง 2 โครงการ ได้แก่โครงการพรไพลิน ธรธารา บ้านเดี่ยวราคา 3.9 ล้านบาท จำนวน 129 ในย่านสมุทรปราการ และโครงการพรไพลิน สุขุมวิท 107 พัฒนาเป็นบ้านแฝด 140 ยูนิต ราคา 3.8 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมีที่ดินในซอยอ่อนนุช 46 จำนวน 12 ไร่ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดฯ หรือบ้านเดี่ยวในปีหน้า ก่อนหน้านี้เพิ่งปิดการขายโครงการพรไพลินสุขุมวิท 101 บ้านเดี่ยวราคา 7.5-12 ล้านบาท จำนวน 126 ยูนิต และเตรียมปิดการขายโครงการลาซาล พาร์ค คอนโด ราคา 7 แสน-1.5 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือ 3-4 ยูนิต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us