|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
แม้ว่ากระแสข่าวที่เคยออกมาเป็นระลอกๆ เกี่ยวกับแผนการครั้งใหม่ของกลุ่มก่อการร้ายระดับโลก แต่นักการตลาดก็ไม่ค่อยกังวลนัก เพราะไม่เห็นมีหลักฐานที่จริงจังอะไรในเรื่องนี้ จนกระทั่งมีการจับขบวนการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่วางแผนจะสร้างความเสียหายให้กับเที่ยวบินจากลอนดอนไปสหรัฐฯ ทำให้สถานการณ์และแนวโน้มของการดำเนินธุรกิจของร้านค้าตามแอร์พอร์ตเปลี่ยนแปลงไปอย่างเฉียบพลันทันที
ความเสี่ยงต่อการเกิดการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในสนามบินในประเทศชั้นนำ ทำให้ทางการของหลายประเทศสร้างมาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มงวดกวดขันมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นสนามบินฮีธโรลที่อังกฤษ หรือในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และคาดว่าจะขยายวงกว้างออกไปยังประเทศอื่นๆ ด้วยในไม่ช้านี้
ผลกระทบในเชิงการตลาดจากการมีมาตรการและกฎเกณฑ์ต่างๆ ด้านการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกบริเวณปลอดภาษีหรือ Duty Free Shop ที่ดำเนินธุรกิจตามสนามบิน ต้องทำการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่เป็นการเร่งด่วน
ร้านค้าที่เป็นกลุ่มแรกที่ทำการประกาศนโยบายทางการตลาดใหม่ ด้วยการเตรียมเลิกจำหน่ายสินค้าไปแล้ว คือ กลุ่มร้านค้าที่ขายสินค้ากลุ่มที่มีแอลกอฮอล์ กลุ่มร้านค้าที่ขายเครื่องสำอาง และน้ำหอม กลุ่มร้านค้าปลีกของเดอะ บอดี้ ชอป
กฎเกณฑ์ใหม่ที่ทำให้ร้านค้าเหล่านี้ต้องทำการปรับตัวครั้งใหญ่ก็คือ กฎที่ว่าไม่อนุญาติให้ผู้โดยสารพกพาในลักษณะถือติดมือบรรดาของเหลว หรือเจล แม้แต่โลชั่นสำหรับใช้หลังโกนหนวด ยาสีฟัน ซันสกรีน โคโลจญ์ หรือขวดเหล้า น้ำเปล่า และแม้แต่เครื่องดื่ม ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามปกติของผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องที่นิยมช้อปครั้งสุดท้าย หาของติดไม้ติดมือ
ดูจากรายชื่อของสิ่งของต้องห้ามซื้อหาและหิ้วติดตัวขึ้นเครื่องแล้วคงเห็นได้ชัดว่า แทบไม่มีสินค้าใดที่สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้ในพื้นที่ขายของ Duty Free Shop ตามสนามบินทุกแห่งในโลก ยกตัวอย่างเช่น ร้านเดอะ บอดี้ ชอป มีร้านค้าถึง 14 แห่งตามสนามบินในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว ได้ตัดสินใจเหลือร้านค้าปลีกไว้เพียง 7 แห่งที่ขายสินค้าที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น สบู่ ซึ่งที่จริงแล้ว บอดี้ ชอป ได้ทำการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจตามสนามบินมาครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายตึกเวิลด์เทรด หรือ 911 แต่การปรับเปลี่ยนครั้งนั้นยังไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจมากเท่ากับครั้งนี้
นอกจากนั้น กลุ่มของฮัตสัน กรุ๊ป ซึ่งเป็นกิจการที่มีเครือข่ายจำหน่ายสินค้าตามสนามบินสำคัญๆ มากกว่า 500 ร้านในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มร้านค้าที่จะมีผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดแบบไม่ตั้งตัวดังกล่าว
ผลพวงที่เกิดขึ้นจากความตื่นตัวในการรักษาความปลอดภัยจากภาวะความเสี่ยงจากการก่อการร้ายตามสนามบินยังกระทบต่อไปถึงร้านจำหน่ายอาหาร และร้านค้าประเภทอื่นด้วย อย่างเช่น กลุ่มร้านอาหารเดลาแวร์ที่มีร้านค้ากว่า 350 แห่งในสนามบิน 25 แห่งก็เริ่มแสดงความวิตกในเรื่องนี้
ยิ่งกว่านั้น โดยทั่วไปแล้วสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าตามร้าน Duty Free Shop ตามสนามบินต่าง ๆ ราว 60% มาจากการจำหน่ายสินค้าประเภทมีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และเครื่องสำอาง
นักการตลาดส่วนใหญ่ประเมินสถานการณ์ในอนาคตต่อไปจากนี้ว่า ทางการของหลายประเทศในโลก อาจจะมีการออกมาตรการอื่นๆ ที่ทำให้มั่นใจอย่างเพียงพอว่าการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินน่าจะเพียงพอ
ดังนั้น ผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจในร้านค้าปลีกตามสนามบินที่ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการจำหน่ายสินค้าจะมีผลทำให้รายได้ลดลงไปมากน้อยเพียงใด เพราะผลกระทบอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงของการจับตา และประเมินสถานการณ์ที่จะมีความคืบหน้าต่อไป
ในส่วนของผู้โดยสารที่ใช้บริการเดินทางด้วยเครื่องบินผ่านทางสนามบินต่างๆ ก็เกิดการปรับตัวไปด้วย เพราะต้องเดินทางไปถึงสนามบินเร็วขึ้น เผื่อว่าจะต้องมีปัญหาความยุ่งยากจากมาตรการค้นหาปัจจัยเสี่ยงต่อการก่อการร้าย ไม่ว่าจะด้วยการผ่านกระเป๋าตามเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่อาจนานขึ้น ละเอียดขึ้น การตรวจสอบด้วยการเปิดกระเป๋าสำรวจ หรือต้องรื้อของที่เป็นรายการของต้องห้ามตามกฎระเบียบใหม่ ออกจากกระเป๋าที่เคยหิ้วติดมือขึ้นเครื่องบิน หากบริหารเวลาในการเดินทางไม่ดี ผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยมีสิทธิที่จะตกเครื่องบินได้ง่ายๆ
ซึ่งหากมีสัดส่วนของผู้โดยสารดังกล่าวสูง รวมไปถึงอาจเกิดความล่าช้าของเวลาบินที่แตกต่างจากตารางบินตามปกติทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการใช้บริการท่าอากาศยาน ซึ่งจะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสายการบินต่างๆไม่น้อย และยังไม่อาจประมาณได้ว่าผลกระทบที่ว่านี้จะมากน้อยแค่ไหนด้วย
แน่นอนว่าผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายย่อมไม่พอใจ และไม่เป็นสุขนักกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเกินเหตุ แถมยังดูไร้เหตุผลอันสมควร เพราะผู้โดยสารจำนวนหนึ่งต้องนำเครื่องสำอางที่ซื้อไปทิ้งไว้ที่สนามบิน เนื่องจากถูกห้ามไม่ให้หิ้วสินค้าดังกล่าวขึ้นเครื่องบินด้วย
|
|
 |
|
|