คณะกรรมการเจ้าหนี้ให้ NSM ออกหุ้นสามัญเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนของหนี้อย่างต่ำ 20% โดยเจ้าหนี้เงินกู้แต่ละรายจะถูกแปลงเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในราคาหุ้นละ 0.42 บาท และ 22 สิงหาคม 49 เป็นวันครบกำหนดตามระยะเวลา 45 วันตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะที่ Lucid Issuer Services แนะขยายระยะเวลาวันปิดบัญชีออกไปเป็น 12 กันยายนนี้ เพื่อความเหมาะสมตามกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุน

นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง บริษัท มหาราช แพลนเนอร์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน)(NSM) แจ้งคณะกรรมการเจ้าหนี้ (คณะกรรมการเจ้าหนี้) ของบริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน) มีมติที่ประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้ ครั้งที่ 5/2549 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 49 เกี่ยวกับการออกหุ้นสามัญเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนของหนี้เงินกู้จำนวนอย่างน้อย 20% ของหนี้เงินกู้ที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ของเจ้าหนี้แต่ละรายดังนี้

ตามที่ได้กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ (ในข้อ 6.1 (ก-2)) ว่า ภายใน 45 วันนับแต่วันที่เงื่อนไขมีผลสมบูรณ์ (วันที่บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุน) หนี้เงินกู้ 20% ของหนี้เงินกู้ที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ของเจ้าหนี้แต่ละรายจะต้องถูกแปลงเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในราคา 0.42 บาทต่อหุ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 49

ดังนั้นวันครบกำหนดตามระยะเวลา 45 วันข้างต้น จะเป็นวันที่ปิดบัญชียอดหนี้และรายชื่อเจ้าหนี้เพื่อการแปลงหนี้เป็นทุนซึ่งจะตรงกับวันที่ 22 สิงหาคม 49 (วันปิดบัญชี)

อย่างไรก็ตาม Lucid Issuer Services ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้บริหารแผนในการแปลงหนี้เป็นทุนของบริษัทมีความเห็นว่า เนื่องจากในขณะนี้มีเจ้าหนี้หลายรายเกิดความสับสนในเรื่องวันที่เงื่อนไขมีผลสมบูรณ์ และก่อให้เกิดความยุ่งยากกับเจ้าหนี้ที่มิได้มีสำนักงานหรือตัวแทนในประเทศไทย ในการที่จะทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับวันที่บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนที่ถูกต้อง เจ้าหนี้บางรายแจ้งว่าเจ้าหนี้ไม่สามารถทราบได้ว่าวันใดคือวันสุดท้ายที่จะต้องแจ้งบริษัทในกรณีที่มีการโอนหนี้ไปยังผู้รับโอนเพื่อที่จะให้ผู้รับโอนเป็นผู้มีสิทธิได้รับหุ้นที่ออกใหม่ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เนื่องจากเมื่อออกหุ้นสามัญใหม่ให้กับเจ้าหนี้รายใดแล้ว หุ้นสามัญดังกล่าวจะติดข้อจำกัดการโอน ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถโอนหุ้นสามัญดังกล่าวได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน

นอกจากนี้ เจ้าหนี้ควรที่จะต้องได้รับแจ้งในเรื่องของกระบวนการในการแปลงหนี้เป็นทุน การกระจายหุ้น หรือการส่งเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นสามัญดังกล่าว รวมถึงเอกสารและข้อมูลต่างๆ ที่ต้องจัดหาโดยเจ้าหนี้ ด้วยเหตุนี้ Lucid Issuer Services จึงมีความเห็นว่าเพื่อให้กระบวนการเป็นไปตามความเหมาะสม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาวันปิดบัญชีออกไปอีก 3 สัปดาห์

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าผู้บริหารแผนสามารถตรวจสอบสิทธิของเจ้าหนี้แต่ละราย และเจ้าหนี้ทั้งหมดได้รับแจ้งล่วงหน้าถึงวันปิดบัญชีตามสมควร กระบวนการในการแปลงหนี้เป็นทุน และเอกสารข้อมูลต่างๆ ที่ต้องจัดหาโดยเจ้าหนี้ให้กับผู้บริหารแผนเพื่อตรวจสอบสิทธิและเพื่อการกระจายหุ้นหรือเงินที่ได้จากการขายหุ้นคณะกรรมการเจ้าหนี้ได้พิจารณาและอนุมัติ ดังนี้

1) บริษัทออกหุ้นใหม่ในนามของผู้บริหารแผนและผู้บริหารจะต้องดำเนินการตรวจสอบสิทธิของเจ้าหนี้แต่ละราย และกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ คือกระจายหุ้นใหม่ให้เจ้าหนี้ทีมีสิทธิได้รับหรือ และสำหรับเจ้าหนี้ที่ไม่มีสิทธิได้รับให้ผู้บริหารแผนขายหุ้นนั้นในตลาดหลักทรัพย์และการส่งเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญหลังจากหักค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและภาษีให้แก่เจ้าหนี้ที่ไม่มีสิทธินั้น 2) เลื่อนวันปิดบัญชีเป็นวันที่ 12 กันยายน 2549