Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 สิงหาคม 2549
เอสเอฟรีวิวแผนตลาดบุกปีหน้า ปั้นสาขาเซ็นทรัลเวิลด์แชร์เพิ่ม 15%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด - SF Cinema City

   
search resources

เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้, บจก.
Theatre




เอสเอฟเตรียมปรับกลยุทธ์ตลาดบุกใหม่ในปีหน้า พร้อมทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท ผุดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 30 จอ เล็งปั้นสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ขึ้นเป็นสาขาเรือธงสร้างรายได้หลักเกินกว่า 15% ของทั้งกรุ๊ป คาดหวังสาขานี้จะแชร์ 8% ของตลาดรวม 3,600 ล้านบาท และผลักดันให้เอสเอฟมีแชร์ตลาดรวมมากกว่า 30% มั่นใจปีนี้ รายได้แตะ 1,800 ล้านบาท

นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปีหน้าเอสเอฟจะทำการรุกตลาดเต็มที่หลังจากที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อยู่ระหว่างการปรับปรุงสาขาเดิมและการขยายสาขาใหม่ โดยเฉพาะการปรับปรุงโบว์ลิ่งหลายสาขา โดยปีหน้าจะมีการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ทั้งในแง่ของการทำโปรโมชั่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนและกลยุทธ์ต่างๆ คาดว่าจะสรุปรายละเอียดได้ในสิ้นปีนี้ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้ชัดเจนมากขึ้น แต่ไม่มีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์ใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว เพราะจะทำให้ตลาดสับสน จากปัจจุบันที่มีเอสเอฟซีเนม่า เอสเอฟเอ็กซ์ และล่าสุดเอสเอฟเวิลด์ที่เซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับเอสเอฟเวิลด์ที่เซ็นทรัลเวิลด์นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะผลักดันให้เป็นสาขาที่ทำรายได้สูงที่สุดในกลุ่ม โดยคาดว่าหลังจากเปิดให้บริการแล้วจะมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 15% จากรายได้ของบริษัทฯ จากปัจจุบันสาขาหลักที่ทำรายได้หลักคือ บางกะปิ มี 14 โรงมากที่สุด มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 15% จากรายได้ร่วมของบริษัทฯ รองลงมาคือ สาขาเอ็มบีเคและลาดพร้าวประมาณ 12% เท่ากัน และคาดว่าสาขาเซ็นทรัลเวิลด์นี้จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 8% จากมูลค่าตลาดโรงหนังรวม อีกทั้งจะเป็นสาขาที่ทำให้เอสเอฟมีส่วนแบ่งทางตลาดเพิ่มขึ้นอีก 15% จากเดิมที่มี 28-30% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 3,600 ล้านบาท ซึ่งตลาดรวมปีหน้าคาดว่าจะโตประมาณ 5%

ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ มั่นใจศักยภาพของทำเลเซ็นทรัลเวิลด์ อีกทั้งเป็นสาขาที่ลงทุนมากกว่า 700 ล้านบาท มีจำนวน 15 โรงและบริการอื่นๆ และมี 1 โรงที่เป็นมัลติเพอร์โพสขนาด 900 ที่นั่งรองรับการจัดการแสดงต่างๆ ได้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดบริการได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน ส่วนสาขาใหม่ที่จะเปิดในปีนี้อีกเช่น เซ็นทรัลรามอินทรา ที่เข้าไปปรับปรุงโรงหนังเดิมของยูเอ็มจี จากเดิม 3 โรง จะเพิ่มเป็น 6 โรงและบริการอื่นๆ งบลงทุน 150 ล้านบาท คาดเปิดบริการเดือนธันวาคมปีนี้

ส่วนปีหน้ามีแผนลงทุนด้วยงบประมาณรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาอีกไม่ต่ำกว่า 3 แห่งรวมกว่า 30 โรง เช่นที่ เดอะมอลล์ท่าพระ เข้าไปเทคโอเวอร์โรงหนังเดิมของเอ็นเค จากเดิมมี 4 จะขยายเป็น 9 โรง และโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ สาขาที่จังซีลอนภูเก็ต และอยู่ระหว่างเจรจาอีก 1 แห่งในกรุงเทพฯ ที่เป็นชอปปิงคอมเพล็กซ์ ส่วนแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นขณะนี้ได้ชะลอไว้ก่อนเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นยังไม่ดี และบริษัทฯ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินลงทุน

ด้านผลประกอบการของเอสเอฟนั้น ช่วงไตรมาสแรกตกลง 15% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง แต่ปัจจัยหลักคือไม่มีหนังฟอร์มใหญ่ แต่ไตรมาสสองเริ่มกลับมาดีขึ้นเติบโต 2% โดยครึ่งปีแรกนี้มีรายได้ประมาณ 856 ล้านบาท สัดส่วนรายได้แบ่งเป็น ขายตั๋วหนัง 65% ขายโฆษณา 8% สแนกและเครื่องดื่ม 7% ที่เหลือเป็นพื้นที่ให้เช่า โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ อื่นๆ รวม 20% โดยปีนี้คาดว่าจะมีผลประกอบการรวม 1,800 ล้านบาท หรือขายตั๋วได้กว่า 10 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้วที่รายได้ 1,500 ล้านบาท

"ผมมองว่าในปีหน้าตลาดรวมหนังน่าจะดีและเติบโตมากกว่าปีนี้ เนื่องจากว่าจะมีหนังฟอร์มใหญ่เข้ามาฉายตลอดทั้งปี อีกทั้งโรงหนังใหม่หลายแห่งก็จะเปิดบริการเต็มตัวในปีหน้ามากขึ้น ทำให้มีช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นด้วย ปีนี้หนังไทยที่มีรายได้เกิน 100 ล้านบาท ก็น้อยมากแทบไม่มีเลย แต่สิ้นปีก็จะมีหนังนเรศวรที่เป็นฟอร์มใหญ่" นายสุวิทย์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us