Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 สิงหาคม 2549
ปตท.ปรับโครงสร้างธุรกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปตท., บมจ.
Chemicals and Plastics
Stock Exchange
พีทีที โพลีเอทิลีน, บจก.
ปตท. เคมิคอล, บมจ.
พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง, บจก.




นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 8/2548 อนุมัติให้ ปตท. ปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ ด้วยการจำหน่ายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดของบริษัท พีทีที โพลิเอทิลีน จำกัด (PTTPE) จำนวน 11.50 ล้านหุ้น และบริษัท บางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด (มหาชน) (BPE) 85 ล้านหุ้น ให้แก่บริษัทปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTCH) ในวงเงินประมาณ 1,750 ล้านบาท และประมาณ 2,000 ล้านบาท ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 3,750 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ปตท. จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (PTTPM) ที่ BPE ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 100,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25% จาก BPE ในวงเงิน 10,000,000 บาท

นายประเสริฐ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่จะตั้งให้ PTTCH เป็นบริษัทหลัก (flagship) ในการลงทุนด้าน Gas Based Olefins สายเอทิลีนภายใต้กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นของปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันในระดับสากล เพิ่มความชัดเจนทางโครงสร้างธุรกิจ และเป็นการต่อยอดธุรกิจก๊าซธรรมชาติของกลุ่ม ปตท. รวมทั้ง PTTPE เป็นโครงการขนาดใหญ่ปตท.ยินดีให้ความสนับสนุนหาก PTTCH มีความประสงค์จะดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการ PTTPE ต่อไป

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการซื้อหุ้นของ PTTPE และ BEP ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น โดยกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 ในวันที่ 28 กันยายน 2549 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมดังกล่าวในวันที่ 8 กันยายนเป็นต้นไป

โดยบริษัทได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นในการพิจารณาลงมติเกี่ยวกับการซื้อหุ้น PTTPE และ BEP จากปตท.เนื่องจากเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน

พร้อมกันนี้ PTTCH ได้อนุมัติเพิ่มงบประมาณลงทุนในส่วนทุนของบริษัทใน PTTPE จากเดิม 960 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 52,000 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 100%

นายอดิเทพ กล่าวว่า บริษัทได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 11,601,410,000 บาท เป็น 15,191,153,000 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 358,974,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม 3,589,743,000 บาท โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) ในอัตราส่วน 3.151 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 27,999,995,400 บาท

โดยวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในโครงการลงทุนในระยะ 4 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2550 - 2553) เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยการลงทุนขยายกำลังการผลิตด้วยเงินลงทุนต่ำ และการขยายธุรกิจสู่ธุรกิจขั้นต่อเนื่องที่นอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังช่วยรักษาเสถียรภาพของรายได้บริษัทในระยะยาวตามแผนกลยุทธ์บริษัทได้อีกด้วย

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้อนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มเติมจากเดิมที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นไปแล้วจำนวน 20,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินไปลงทุนตามแผนการลงทุนของบริษัทและบริษัทในกลุ่ม หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือเพื่อ Refinance เงินกู้เดิม รวมทั้งเป็นการรักษาระดับหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับพีทีที โพลิเอทิลีน จำกัด (PTTPE) เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินโครงการอีเทนแครกเกอร์ ขนาดกำลังการผลิต 1 ล้านตันต่อปี โรงผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (Low Density Polyethylene - LDPE) ขนาดกำลังการผลิต 3 แสนตันต่อปี และโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น (Linear Low Density Polyethylene - LLDPE) ขนาดกำลังการผลิต 4 แสนตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปลายปี 2552 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 2,300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 23 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 100 บาท ถือหุ้นโดย ปตท. และ PTTCH ในสัดส่วนร้อยละ 50:50

BPE ดำเนินธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอททีลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ด้วยกำลังการผลิต 2.5 แสนตันต่อปี ทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 1,700 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 170 ล้านบาท ราคาพาร์ 10 บาท ถือหุ้นโดย ปตท. และ PTTCH ในสัดส่วนร้อยละ 50:50

PTTPM ดำเนินธุรกิจด้านการตลาดทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ของกลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 40 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 4 แสนหุ้น ราคาพาร์ 100 สัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง ปตท. PTTCH และ BPE ที่ร้อยละ 50:25:25 ตามลำดับ ทั้งนี้ภายหลังจาก ปตท. ดำเนินการซื้อหุ้น PTTPM จาก BPE ดังกล่าว ปตท. และ PTTCH จะถือหุ้นใน PTTPM ในสัดส่วนร้อยละ 75:25

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PTT และ PTTCH วานนี้ (24 ส.ค.) ราคาหุ้น PTTCH ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายช่วงเช้า หลังจากที่มีการประกาศเพิ่มทุนจำนวน 358,974,300 หุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในราคาหุ้นละ 78 ล้านบาท โดยมีราคาสูงสุดที่ 86.00 บาท ต่ำสุด 82.50 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขาย 84.00 บาท ลดลงจากวันก่อน 4.00 บาท หรือ 4.55% มูลค่าการซื้อขาย 199.47 ล้านบาท ขณะที่ PTT ปิดที่ 242 บาท มูลค่าการซื้อขาย 829.34 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us