แหล่งข่าวจากบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่นหรือทศท.กล่าวว่าจากการที่บอร์ดทศท.ชุดใหม่มีความต้องการที่จะเป็นเพียงผู้กำหนดแนวนโยบาย
กำหนดยุทธศาสตร์ รวมทั้งจะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการหรือเวิร์กชอปในวันที่ 2
ก.พ.ที่จะถึงนี้ เนื่องจากยุทธศาสตร์เดิมของทศท.เป็นการกำหนดก่อนที่แนวทางการแปรสัญญาสัมปทานจะเป็นในรูปเปลี่ยนส่วนแบ่งรายได้เป็นภาษีสรรพสามิต
ซึ่งผู้บริหารทศท.จะต้องประชุมร่วมกับบอร์ดเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกัน โดยเฉพาะในมุมมองที่ต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับเอกชน
ประเด็นสำคัญของทศท.ประการหนึ่งคือการเพิ่มรายได้ต่อเลขหมาย ซึ่งที่่ผ่าน มาทศท.ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งคือฝ่ายพัฒนาธุรกิจของทศท.ที่มีนางสุพร กองพุฒ เป็นผู้จัดการฝ่าย
ขาดความกระตือลือร้นในสร้างสรรหาธุรกิจใหม่ๆเพื่อเพิ่มรายได้ ในขณะเดียวกันกลับดองโครงการต่างๆที่เอกชนเสนอมา
ทั้งๆที่เป็นประโยชน์โดยตรงกับทศท.
แหล่งข่าวกล่าวว่านายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ทศท.มีความคิดที่จะโยกย้ายนางสุพรออกจากตำแหน่งดังกล่าว
เพราะรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้บริหารไม่สามารถปรับตัวเข้ากับทิศทางใหม่ของทศท.ที่ต้องการสร้างศักยภาพในการแข่งขัน
แต่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจกลับทำงานแบบประเภทถ้าไม่มีเจ้าภาพก็ไม่นำเรื่องขึ้นมาพิจารณา
“ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือโทรศัพท์สาธารณะดิมบอร์ดชุดเก่าอนุมัติแค่ 8 ราย
แต่ปรากฏว่าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ก็พัฒนาให้เพิ่มเป็น 11 รายจนประธานบอร์ดศุภชัยตอนนั้นรู้สึกไม่พอใจ
การที่จาก 8 รายสามารถเพิ่มเป็น 11 รายได้เพราะรายการนี้มีเจ้าภาพ”
ความบกพร่องร้ายแรงของฝ่ายพัฒนาธุรกิจที่ทำให้ทศท.เสียโอกาสทางการแข่งขันรวมทั้งเสียโอกาสด้านการตลาดเช่นโครงการที่เอกชนเสนอระบบ
Fixed Line SMS เพื่อให้บริการกับผู้เช่าเลขหมายโทรศัพท์ของทศท.ซึ่งเดิมเอกชนเสนอโครงการมามากกว่า
6 เดือนที่แล้ว แต่ปรากฏว่าถูกฝ่ายพัฒนาธุรกิจดองเค็มเรียบร้อย เพราะเป็นโครงการที่เรียกว่าไม่มีเจ้าภาพ
ระบบที่เอกชนเสนอให้ทศท.ประกอบด้วย 1.Fixed Line SMS ซึ่งมีความสามารถในการส่ง
600,000 ข้อความต่อชั่วโมง 2.Interface to Voice Mail System ซึ่งจะใช้เชื่อมต่อระหว่างระบบ
Fixed Line SMS กับระบบ Voice Mail System ของทศท.เพื่อใช้ในการส่ง SMS ไปบอกกับผู้เช่าเลขหมายโทรศัพท์ว่ามีผู้ฝาก
Voice Mail ไว้ให้
3.E-mail Module ซึ่งจะทำการแปลงข้อมูล ในลักษณะข้อความให้อยู่ในรูปของ E-Mail
เพื่อที่จะส่งผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่ E-mail Module จะรองรับการใช้งานของผู้ใช้ได้มากถึง
10 ล้านคน 4.Fax Module ซึ่งจะทำการแปลงข้อมูลในลักษณะข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูล
Fax แล้วจึงไปที่เครื่อง Fax
5.Text To Speech Module จะทำหน้าที่แปลงข้อความเป็นเสียงทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ซึ่งจะใช้ในกรณีที่ผู้รับไม่มี SMS Phone และมีข้อความส่งมาให้ ดังนั้นจึงต้องใช้เครื่องแปลงจากข้อความเป็นเสียง
6.Mobile Gateway เป็นส่วนที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เช่นเอไอเอส
ดีแทค ทีเอออเร้นจ์และไทยโมบายและ7. Content Provider Gateway เป็นส่วนที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการข้อมูล
ระบบดังกล่าวสามารถให้บริการรับส่งข้อความผ่านโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานโดยใช้ SMS
Phone ทำให้โทรศัพท์พื้นฐานสามารถรับส่งข้อความกับโทรศัพท์มือถือและอีเมล์ได้ โดยที่สามารถรับส่งข้อความระหว่างโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานด้วยกัน,สามารถรับส่งข้อความระหว่างโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานกับโครงข่ายโทรศัพท์มือถือและสามารถรับส่งข้อความระหว่างโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานกับอีเมล์
“เอกชนเสนอโครงการมาให้ทศท.ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจจับใส่ลิ้นชักไม่สนใจ
ทำให้คู่แข่งอย่างทีทีแอนด์ที ที่ให้บริการในภูมิภาคชิงเปิดบริการนี้ไปก่อนหน้าตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
ถือเป็นการตบหน้าผู้บริหารสูงสุดทศท.อย่างมาก ทั้งๆที่ทศท.อยู่ในธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานมานาน
และยังมีพันธมิตรไฮเทคชั้นนำอยู่กับตัว แต่เพราะวิชันที่พอๆกับความสูงของฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
ทำให้ทศท.เสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย”แหล่งข่าวกล่าวและย้ำว่าผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจดังกล่าวได้ขั้นพิเศษติดต่อกันมาถึง
5 ปี แต่ในปีนี้เมื่อมีกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่แล้ว เหตุการณ์เปลี่ยนไป เพราะเมื่อพิจารณาตามเนื้อผ้าไม่ได้ดูว่าเป็นเด็กในคาถาใครทำให้ปีนี้ไม่ได้ขั้นพิเศษ
ทำให้ถึงกับเกิดอาการร้องห่มร้องไห้กับรองกรรมการผู้จัดการบางคน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ไม่เพียงทำให้ทศท.เสียโอกาสทางธุรกิจเท่านั้น แต่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจยังทำให้ทศท.เป็นทาสในสัญญาโครงการโทรศัพท์นอกข่ายสายในระบบ
WLL โดยเขียนในสัญญาให้ทศท.ต้องจ่ายค่าเช่าอย่างน้อย 80% ของจำนวนเลขหมายทั้งๆที่ไม่ได้ระบุไว้ในทีโออาร์
ซึ่งโครงการนี้ถือว่าทศท.เสียเปรียบเอกชนมากเพราะค่าเช่าเลขหมายละ 685 บาท ในขณะที่มีรายได้เพียง
2-300บาทต่อเลขหมายเท่านั้น
นอกจากนี้ฝ่ายพัฒนาธุรกิจยังทำการทำร้ายภาพลักษณ์ขององค์กรมากขึ้น จากการที่เอกชนรายหนี่งต้องการขอเลขหมาย
4 หลัก เพื่อใช้เป็นเลขหมายติดต่อสถานศึกษาทั่วประเทศ ในการติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ
ซึ่งรวมถึงการที่ผู้ปกครองสอบถามผลการเรียนของลูกหลาน ซึ่งถือเป็นเรื่องธุรกิจที่อิงภาพลักษณ์ในแง่สังคม
ทศท.ได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่อง
แต่ปรากฏว่าเมื่อเอกชนเสนอขอเลขหมาย 4 หลักมา เพราะเดิมเคยให้บริการผ่านออดิโอเท็กซ์
1900 ก็มีความไม่สะดวก และภาพลักษณ์ไม่ค่อยดี เมื่อคิดถึง 1900 คนมักคิดเลยเถิดไปเรื่องการพนันบอล
แต่เอกชนรายนี้ต้องการให้บริการเกี่ยวกับด้านการศึกษา แต่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจที่แสนดี
ก็ช่วยคิดปกป้องผลประโยชน์เอกชนรายอื่นทันที โดยอ้างว่าหากให้เลขหมาย 4 หลักไป
จะเหมือนบริการ BUG 1133 ของกลุ่มสามารถ เลยดองเรื่องตามระเบียบ
“เห็นได้ชัดว่าถึงเวลาโล๊ะฝ่ายพัฒนาธุรกิจได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาพัฒนาแต่ธุรกิจที่มีเจ้าภาพ
โดยลืมมองทศท.เป็นหลัก คงต้องหาผู้จัดการคนใหม่ที่มีส่วนสูงมากพอที่จะมีสายตากว้างไกลและมีวิชัน”