จากอุตสาหกรรมเก่าแก่ ที่มีการขยายตัวอย่างไม่เป็นระบบ ณ วันนี้ ซีพีกลายเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สามารถปรับตัวสอดรับการเปลี่ยนแปลงของโลกการค้ายุคใหม่ได้อย่างผสมกลมกลืนที่สุด
เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ธนินทร์ เจียรวนนท์ ได้ใช้เวลาในการคิด เพื่อหาบทสรุปที่ลงตัวสำหรับเครือซีพี
ที่เขาเป็นประธานอยู่ ว่าจะมีทางออกอย่างไร ในภาวะที่ธุรกิจของไทยมีการปรับโครงสร้างขนาดใหญ่
ภายหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เป็นต้นมา
บทสรุปที่เขาค้นพบ นำมาสู่การตัดสินใจจัดกระบวนทัพของกลุ่มซีพีใหม่ทั้งหมด
ให้เน้นหนักไปใน 3 ธุรกิจหลัก คือ อาหาร ค้าปลีก และโทรคมนาคม
การตัดสินใจของเขาแม้ว่าจะดูยาก เพราะเครือซีพีเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
มีการแตกแขนงธุรกิจออกไปอย่างกว้างขวาง และบริษัทในเครือหลายแห่ง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร
มีการฝังรากที่ลึกมาอย่างยาวนาน
แต่มาถึง ณ วันนี้ ภาพโครงสร้างใหม่ของกลุ่มซีพี เริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้น
ในธุรกิจอาหาร แกนนำหลักอยู่ที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร : CPF (เดิมชื่อเจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์)
ในธุรกิจค้าปลีก ธงนำอยู่ที่เซเว่น อีเลฟเว่น
และธุรกิจโทรคมนาคม มีเทเลคอมเอเซีย เป็นแกนนำ
ทั้ง 3 ธุรกิจ มีองค์ประกอบรวมกันอยู่ระหว่างธุรกิจดั้งเดิมของเครือซีพี
คือ อุตสาหกรรมการเกษตร กับธุรกิจใหม่ อย่างค้าปลีก และโทรคมนาคม ซึ่งดูอย่างผิวเผิน
ธุรกิจทั้ง 3 น่าจะแยกกันอย่างเอกเทศ ไม่สามารถเชื่อมโยงนโยบายไปด้วยกันได้
แต่ภายใต้แนวคิดใหม่ที่ธนินท์ได้ใช้เวลาศึกษาอย่างยาวนานจนตกผลึก ทั้ง
3 ธุรกิจ มีจุดที่สามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนที่สุด
ธุรกิจอาหาร เป็นธุรกิจที่ซีพีมีการปรับตัวให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจากการให้เจริญโภคภัณฑ์อาหารเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเกษตรทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งในและต่างประเทศ
"Kitchen of the World"คือ คอนเซ็ปต์ที่ธนินท์ตั้งความหวังให้ซีพีต้องทำให้ได้
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถใช้ระดมเงินทุนได้หากมีความจำเป็น
การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่า เพื่อเป็นการจัดองค์กรให้เกิดความชัดเจน
ไม่สับสน เพราะก่อนหน้านี้ ซีพีมีการขยายกิจการออกไปเป็นจำนวนมาก จนบางครั้งเป็นอุปสรรคต่อการวิเคราะห์ของนักลงทุน
และสถาบันการเงิน ที่มีความสามารถจะให้เงินกู้
การที่นำบริษัทลูกทั้งหมด มารวมอยู่ภายใต้องคาพยพเดียวกันในเจริญโภคภัณฑ์อาหาร
ทำให้ภาพของซีพี ดูมีความโปร่งใสมากขึ้น เป็นการสร้างความได้เปรียบสำหรับการแสวงหาเงินทุน
ที่สถาบันการเงินในยุคนี้จะเน้นความชัดเจนขององค์กรเป็นหลัก
"บริษัทต่างๆ เอามารวมอยู่ใต้ CPF เพื่อให้คนติดภาพ CPF ว่าเป็นเรื่องอาหาร
ทำให้คนที่จะมาลงทุน โดยเฉพาะกองทุน เราจะแยกให้ชัดออกไป" ธนินท์กล่าวกับ "ผู้จัดการ"
ในธุรกิจค้าปลีก ซีพีได้ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ในห้างโลตัสซูเปอร์เซ็นเตอร์ออกไปให้กับกลุ่มเทสโก้จากประเทศอังกฤษ
และยังคงลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 10%
แต่ซีพีกลับไปเน้นการขยายสาขาของเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขาในประเทศไทยมากถึงกว่า
1,000 สาขา ถือเป็นเครือข่ายการค้าที่ครอบคลุมและเข้าถึงประชาชนมากที่สุด
เพราะทุกสาขาของเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งเครือข่ายนี้ก็จะมีส่วนสำคัญในการเป็นช่องทางกระจายสินค้าประเภทอาหาร ที่ผลิตโดยซีพีลงไปถึงผู้บริโภค
และซีพียังสามารถใช้เครือข่ายดังกล่าว เชื่อมโยงเข้ากับรูปแบบการค้ายุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับอินเตอร์เน็ต
"เซเว่นอีเลฟเว่น จะเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งของอินเตอร์เน็ต เพราะเงินออนไลน์ในอากาศได้
แต่ของออนไลน์ไม่ได้ ของที่จะไปถึงบ้านต้องผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น เพราะเรามีอยู่
1,000 กว่าสาขา ตัวนี้เป็นตัวสำคัญพื้นฐาน คุณจะไปซื้อขายกันอย่างไรก็ตาม
ผมมารับจ้างบริการ" เขาอธิบายถึงแนวคิด
ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม เป็นธุรกิจที่ซีพีเข้าไปเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด เพราะทั้งเทเลคอมเอเซีย
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานจำนวน 3 ล้านเลขหมาย และยูไนเต็ดบรอดคาสติ้ง
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเคเบิลทีวีรายใหญ่รายเดียวของประเทศไทย มีการจัดองค์กรที่ชัดเจน
และทั้ง 2 บริษัท เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่แล้ว
แต่โดยส่วนตัวของธนินท์ กลับให้ความสำคัญ โดยเมื่อปลายปี 2542 ที่ผ่านมา
เขาได้ตัดสินใจย้ายห้องทำงานอย่างเป็นทางการของเขา จากอาคารซีพีทาวเวอร์
ถนนสีลม มาอยู่ที่อาคารเทเลคอมทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก
ที่อาคารแห่งนี้ เป็นตึกสูง 30 ชั้น มีการจัดทำระบบสื่อสารภายใน เพื่อให้เป็นอาคารอัจฉริยะ
โดยมีห้องหนึ่งในอาคาร ที่ถูกใช้เป็นห้องปฏิบัติการควบคุม และบริหารเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานของกรุงเทพ
ซึ่งถือเป็นหัวใจของกิจการโทรคมนาคมทั้งหมดของซีพี
เครือข่ายดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญ เมื่อการค้าโดยผ่านทางอินเตอร์เน็ตเริ่มถูกใช้แพร่หลายมากขึ้น
ทั้งธุรกิจอาหาร ซึ่งผลิตโดย CPF ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นเครือข่าย
และโทรคมนาคม ที่มีเทเลคอมเอเซียเป็นผู้ควบคุมระบบ ถูกกำหนดบทบาทให้มีการดำเนินงานที่สอดคล้องและเกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้อย่างกลมกลืน
ธนินท์ต้องทุ่มเทเวลาและสมองไปเป็นอันมาก กว่าจะตกผลึกแนวคิดดังกล่าวออกมาจะสามารถมองเห็นเป็นรูปธรรม
แต่แนวคิดนี้ ก็สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่บีบบังคับให้กลุ่มอุตสาหกรรมเก่าแก่อย่างซีพีจำเป็นตัองปรับตัวตาม
เพื่อรักษาสถานะของตนเองเอาไว้ให้ได้
ถือเป็นบทเรียนทางธุรกิจที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง