เปิดใจกับภารกิจแรกของ "วิเชียร เมฆตระการ" แม่ทัพใหม่เอไอเอส ต้องสร้างเครดิตเอไอเอสกลับมาให้ได้ พร้อมกับการเป็นจิ๊กซอว์ใหม่ที่ "สมประสงค์ บุญยะชัย" นำมาเชื่อมโยงการทำงานภายในองค์กรเอไอเอสทั้งหมดร่วมกับ "ฮุย เวง ชอง" ผู้บริหารมากประสบการณ์สิงเทล พลิกรูปโฉมสินค้าและบริการของเอไอเอสสู่ยุคต่อไปของการสร้างรายได้ในอนาคต

หลังจากใช้เวลาเกือบ 6 เดือนในการสรรหากรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ทดแทนตำแหน่งของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่ลาออกไปหลังจากการเข้ามาซื้อหุ้นชินคอร์ปของกลุ่มเทมาเส็ก ชื่อของ "วิเชียร เมฆตระการ" ซึ่งดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวย สายงานปฏิบัติการ เอไอเอส ได้รับเลือกเป็นกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ จากการพิจารณาสรรหาผู้บริหารจากทั้งภายในองค์กรและนอกองค์กรเอไอเอส

"ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก จึงต้องใช้เวลาหาคนที่เหมาะสมที่สุดเข้ามาทำงานในหน้าที่นี้" เป็นคำกล่าวของ สมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร เอไอเอส

นอกจากเอไอเอสจะมีการประกาศตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่แล้ว ยังมีการประกาศตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสขึ้นมาอีกหนึ่งตำแหน่ง คือ "ฮุย เวง ชอง" ผู้บริหารจากสิงคโปร์เทเลคอม จึงถือเป็นช่วงเวลาที่เอไอเอสจะมีการจัดทัพใหม่อีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญก็คือการจัดทัพในครั้งนี้ สมประสงค์ มองว่าจะทำให้เอไอเอสแข็งแกร่งขึ้น และจะเป็นการยกระดับของเอไอเอสไปสู่ยุคต่อไป หลังจากที่ผ่านช่วงการดำเนินธุรกิจต่างๆ

"โครงสร้างการทำงานของเราเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วต่อสินค้าบริการ" สมประสงค์ เน้นย้ำ

การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของเอไอเอสใหม่ ได้มีการมอบหมายให้รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสรับผิดชอบสายงานการตลาด ส่วนงานบริการธุรกิจสื่อสารไร้สาย และทีมงานแอดวานซ์ เอ็มเปย์ รายงานตรงต่อกรรมการผู้อำนวยการ เพื่อให้เป็นทีมงานที่มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมโยงระหว่างฐานลูกค้าทั้งหมดของเอไอเอสเข้ากับบริการเสริมต่างๆ ที่หลากหลายและมีความพลิกแพลง โดยเฉพาะโมบายไลฟ์และบริการที่สนองพฤติกรรมในวิถีชีวิตสังคมยุคใหม่ อย่างเอ็มเปย์ ให้สามารถหลอมรวมเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้ใช้บริการ

"ต้องยอมรับว่า สิงเทลมีแอดวานซ์เซอร์วิสที่ล้ำหน้ากว่าเรา เอไอเอสจะอาศัยประสบการณ์เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้เป็นบริการในประเทศไทยเพื่อสร้างรายได้หลักในอนาคต"

ทั้งนี้ ฮุย เวง ชอง ถือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานด้านการพัฒนาสินค้าบริการ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ที่จะสามารถเชื่อมโยงและประยุกต์เทคนิคต่างๆ เข้ากับการพัฒนาบริการได้เป็นอย่างใด รวมทั้งยังเป็นผู้ที่เคยทำงานในประเทศไทย มีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย หลังจากที่เคยร่วมงานในบริษัท แอดวานซ์ เพจจิ้ง จำกัด

เครดิตเอไอเอสต้องกลับมา

ในการเปิดตัวครั้งแรกต่อสื่อมวลชนของ วิเชียร เมฆตระการ เขายอมรับว่าไม่ใช่เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านมาร์เกตติ้ง แต่มั่นใจว่าจะสามารถทำงานในตำแหน่งนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการทำงานในเอไอเอสจะเป็นการทำงานเป็นทีม การที่เขาเข้ามาก็จะเหมือนตัวเชื่อมโยงส่วนต่างๆ เข้าหากันมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการประสานงานมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา

"ผมถือเป็นความท้าทายในการทำงาน เพราะต้องรับผิดชอบด้านปฏิบัติการทั้งหมด ทั้งด้านเครือข่าย การพัฒนาบริการ การตลาด งานบริการลูกค้า คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงส่วนงานปฏิบัติการในภูมิภาค ให้ทุกอย่างราบรื่น รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"

วิเชียร เน้นย้ำว่า เอไอเอสจะต้องส่งบริการไปถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงใจ บนเครือข่ายที่ต้องมีคุณภาพทั้งในด้านความครอบคลุมและสัญญาณ ความสามารถและประสิทธิภาพในการใช้งานและความน่าเชื่อถือของเครือข่ายที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัสและเข้าถึงได้ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจและเชื่อมั่นในการใช้บริการเอไอเอส

"เป้าหมายแรกของผมคือต้องสร้างเครดิตเอไอเอสกลับมาให้ได้" เป็นสิ่งที่วิเชียรถือเป็นภารกิจแรกที่สำคัญที่สุดหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากช่วงการแข่งขันทางด้านธุรกิจที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของเอไอเอสอย่างหนัก จนเครือข่ายมีปัญหา และต้องใช้เวลาแก้ไขหลายเดือนที่ผ่านมา

ไทย-สิงคโปร์คล้ายกัน

จุดเติมเต็มทางด้านมาร์เกตติ้งของเอไอเอสนอกจากทีมงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน การก้าวเข้ามาของ ฮุย เวง ชอง นั้น ถือได้ว่าน่าจะเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เอไอเอสขาดได้เป็นอย่างดี ซึ่ง ฮุย เวง ชอง ถือเป็นความท้าทาย โดยเขามองว่าสภาพตลาดของไทยและสิงคโปร์มีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน คือตลาดกำลังเข้าใกล้จุดอิ่มตัวของตลาดโทรคมนาคม แต่เขาซึ่งรับผิดชอบสายงานธุรกิจคอนซูเมอร์ของสิงเทล ก็สามารถฝ่าฟันและบรรลุความสำเร็จทางการตลาดมาได้

"ผมสามารถนำประสบการณ์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในเอไอเอสได้เป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการพัฒนาบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการสร้างความเชื่อถือในคุณค่าของสินค้าและบริการแก่ผู้ใช้บริการ" ฮุย เวง ชอง กล่าว