บัตรอีลิทฉาวเจอฟ้องข้อหาหลอกลวง, ตัวแทนเชิด เรียกค่าเสียหาย 104 ล้านบาท ด้านผู้บริหารทีพีซี แถลงข่าวด่วน เตรียมตั้งเรื่องสู้กลับเอเยนต์เถื่อนลักลอบขายบัตร “อีลิท” พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเชิงลึกเจาะพฤติกรรมพนักงานในองค์กร หากจับเจอทุจริตมีส่วนรู้เห็นฟันไม่เลี้ยงถึงขั้นไล่ออก เผยก่อนหน้านี้มีการรับรู้ด้วยวาจาถึงการตั้งซับเอเยนต์ แต่ทีพีซีกลับเฉย ไม่ตรวจสอบ หวังเพียงยอดจำหน่าย

นายโชคศิริ รอดบุญพา ผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เป็นตัวแทนในการสู้คดีและฟ้องกลับนางสาวปาริชาติ แซ่เฉิน ผู้บริหาร บริษัท ไทยอาร์ซี ทราเวล ในข้อหาทำให้บริษัทฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง ต่อกรณีที่นางสาวปาริชาติ ได้ยื่นฟ้องทีพีซี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ใน 3 ข้อหา คือ 1.ผิดสัญญา 2.ตัวแทนเชิด และ 3.เรียกค่าเสียหาให้ทีพีซีชดใช้เป็นวงเงิน 104 ล้านบาท

โดยฟ้องเอาผิดกับจำเลย 5 ราย ได้แก่ บริษัท ทีพีซี, นายโชคศิริ รอดบุญพา ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี, นายชาญศักดิ์ ชูประสิทธิ์ รองผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี, บริษัท ฟลายไฮ ทราเวล เซอร์วิส (ในฐานะตัวแทนจำหน่ายบัตรอีลิท) และ นางกุลภัสสรณ์ เต็มศักดิ์สง่า ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ฟลายไฮ

ตอกกลับไม่เคยตั้งฟลายไฮเป็นตัวแทน

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจาก นางสาวปาริชาติ ได้ขายสมาชิกบัตรอีลิทให้แก่ชาวไต้หวัน 4 ราย เมื่อเดือนพฤษภาคม 49 แล้วส่งเรื่องผ่านมาทางบริษัท ฟลายไฮ ทราเวล เซอร์วิส ซึ่งบริษัท ฟลายไฮฯ ได้แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายบัตรให้แก่ทีพีซี แต่ในความเป็นจริง บริษัทฟลายไฮฯ ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของทีพีซีแต่อย่างใด เพราะทีพีซีไม่เคยทำสัญญาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา ทีพีซีเคยทำธุรกรรมกับบริษัทดังกล่าวด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินเท่านั้น ต่อมาสืบทราบว่า บริษัท ฟลายไฮฯ มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ทีพีซีจึงทำหนังสือขอยกเลิกการทำธุรกรรมกับบริษัท ฟลายไฮฯ

“ก่อนหน้านี้ ทีพีซีเคยรับทราบจากบริษัท แพทโก้ จำกัด ซึ่งเคยเป็นตัวแทนจำหน่ายในไต้หวันว่า ต้องการจะแต่งตั้ง บริษัท ฟลายไฮฯ เป็นซับเอเยนต์ ซึ่งตรงนั้นทีพีซีได้รับรู้ แต่แพทโก้ก็ไม่ได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึงทีพีซีว่าจะขอแต่งตั้งบริษัทฟลายไฮอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้ทีพีซีรู้สึกสับสนว่า นาวสาวปาริชาติจะฟ้องทีพีซีด้วยเรื่องอะไร เพราะเขาไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายของทีพีซี อีกทั้งแพทโก้ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของทีพีซีแล้ว โดยถูกปลดออกตั้งแต่เดือนมีนาคม 49 เนื่องจากยอดขายไม่เข้าเป้า โดย 2 ปี มียอดขายเพียง 30 ราย และได้แต่งตั้ง บริษัทแอคทีฟ เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไต้หวันแทน” นายโชคศิริ กล่าว

โดยขณะนี้ ทีพีซีกำลังให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทตรวจสอบเอกสารและจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับนางสาวปาริชาติ และบริษัท ฟลายไฮฯ ที่ทำให้ทีพีซีเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกิดความเสียหาย

หวั่นคนในทุจริตเร่งสอบด่วน

นอกจากนั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบเชิงลึก ทีพีซีจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาตรวจสอบพนักงานในองค์กรของทีพีซีเองด้วย ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับกรณีนี้หรือไม่ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดถึงขั้นไล่ออก พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้ออกมาตรการเยียวยาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและประเทศชาติ ด้วยการเข้าไปดูแลชาวไต้หวันทั้ง 4 ราย โดยเบื้องต้นได้ให้สิทธิ์ในการทดลองใช้สิทธิประโยชน์เสมือนเป็นสมาชิกบัตรอีลิทมาแล้วระยะหนึ่ง ได้แก่ บริการฟาสแทรกค์ ที่สนามบินเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการบัตรอีลิทกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท ฟลายไฮฯ ได้ติดต่อมาทางทีพีซีเพื่อขอผ่อนชำระเงิน 4 ล้านบาท จากผู้สมัครชาวไต้หวันทั้ง 4 รายที่ได้จ่ายเงินมาแล้ว โดยจะขอผ่อนชำระ 2 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ เพราะทีพีซีไม่เคยมีกฎระเบียบนี้ ขณะที่นางสาวปาริชาติ ก็เคยเข้ามาขอร้องให้ทีพีซีช่วยดูแลลูกค้าทั้ง 4 รายให้ก่อน แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด จึงกลับมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายบริษัทฯ

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า อาจเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจมีคนในของทีพีซีรู้เห็นและทุจริตในหน้าที่ เพราะมีการให้ข้อมูลผิดๆแก่ผู้สนใจเป็นสมาชิกบัตรอีลิท คือ เมื่อมีผู้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามถึงบริษัทฟลายไฮฯ กลับไม่ยอมปฏิเสธว่า ฟลายไฮฯไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายของทีพีซีอย่างเป็นทางการ และก่อนหน้านี้มีผู้ซื้อบัตรอีลิทจากผู้ที่ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายอยู่เกือบ 10 ราย รวม 4 รายที่เป็นชาวไต้หวันนี้ด้วย แต่ทีพีซีก็ได้เคลียร์เรื่องให้เกือบหมดแล้ว และมาเกิดปัญหากับ 4 รายที่เป็นชาวไต้หวันดังกล่าว