Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 สิงหาคม 2549
โนเบิลอานิสงค์ยอดขายคอนโดฯพุ่งปรับเป้ารายได้ทั้งปี 4,500 ล้านโต 100%             
 


   
www resources

โอมเพจ โนเบิล ดีเวลอปเม้นท์

   
search resources

โนเบิล ดีเวลอปเม้นท์, บมจ.
Real Estate




"โนเบิล" สวนกระแสตลาด ได้อานิสงส์ยอดขายคอนโดฯ พุ่งเล็งปรับเป้าขายทั้งปีเป็น 4,500 ล้านบาท จากเป้าเดิมตั้งไว้เพียง 2,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 100% เตรียมงบซื้อที่ดินครึ่งปีหลังเกือบพันล้าน เพื่อพัฒนาในปีหน้า เผยอยู่ระหว่างเจรจานักลงทุนซื้อบ้านในโครงการโนเบิล ธารา พัฒนาการแบบยกล็อต 20 หลัง ไปปล่อยเช่าต่อ เพื่อรองรับเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ

นายธงชัย บุศราพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ "โนเบิล โซโล" คอนโดมิเนียมบนถนนทองหล่อ ภายใต้คอนเซปต์ "สเปชของคุณชีวิตของคุณ" คอนโดดีไซน์ 1 ชีวิต 1 ห้องนอน ขนาด 33-122 ตร.ม.จำนวน 408 ยูนิต มูลค่า 1,775 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยยูนิตละ 66,000 บาท/ตร.ม. โดยบริษัทได้เปิดขายเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมาปัจจุบันมียอดขายแล้ว 160 ยูนิต มูลค่า 600 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการที่บริษัทหันมาเน้นเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการโนเบิลรีมิกซ์ ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 93%, โนเบิล 09 ยอดขาย 97% และล่าสุด โนเบิล โซโล ทำให้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายทั้งปีที่ 4,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท และยอดขายบ้านเดี่ยวประมาณ 1,000 ล้านบาท จากเดิมที่เมื่อต้นปีบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,300 ล้านบาทเท่านั้น หรือมีอัตราการเติบโตกว่า 100% ส่วนยอดรับรู้รายได้ตั้งเป้าไว้ที่ 2,500 ล้านบาท และมียอดรอรับรู้รายได้อีกจำนวน 3,054 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัททำยอดขายไปแล้ว 3,422 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดรับรู้รายได้ที่ 1,076 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.7% ที่มียอดรับรู้รายได้ 914 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 166.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงปีก่อน 4.1% ที่มีกำไร 173.5 เนื่องจากปีที่แล้วได้รับส่วนลดภาษีเพราะมีขาดทุนสะสม สำหรับกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40% และมีกำไรสุทธิ 13.5%

นางธงชัยกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้ารอขายมูลค่า 5,693 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 448 ยูนิต มูลค่า 2,737 ล้านบาท คิดเป็น 51% และ คอนโดมิเนียมจำนวน 316 ยูนิต มูลค่า 2,956 ล้านบาท คิดเป็น 49% ราคาเฉลี่ยที่ 5.6 ล้านบาท/ยูนิต

ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 600-700 ล้านบาท มีหนี้สินต่อทุนที่ 0.59 ต่อ 1 นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการในปีหน้า โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้งบซื้อที่ดินไปแล้ว 400 ล้านบาท จากงบที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินส่วนที่เหลือ 600 ล้านบาท นั้นคาดว่าจะไม่เพียง เพราะโครงการที่เปิดใหม่ขายเกือบหมดแล้ว ดังนั้นบริษัทจะต้องซื้อที่ดินเพิ่มโดยคาดว่าจะต้องใช้งบเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท

ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังไม่มีแผนเปิดโครงการใหม่ แต่จะใช้เวลาพัฒนาโครงการที่ขายไปแล้วให้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ และส่วนหนึ่งจะต้องหาซื้อที่ดินเข้ามาเพื่อเตรียมเปิดขายในปีหน้า เพราะมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงน่าลงทุนในที่ดิน เนื่องจากผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กมีความลำบากในการพัฒนา เพราะสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการรายใหญ่

นายธงชัยกล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมายอมรับว่าตลาดบ้านเดี่ยวมีการชะลอตัวไปพอสมควร เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าตัดสินใจซื้อ อย่างไรก็ดีอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับสูงสุด น่าจะปรับตัวลดลงอีกเล็กน้อย และหากไม่มีปัจจัยลบอื่นเข้ามากระทบ จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นกำลังซื้อกลับมา

อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีสินค้าบ้านเดี่ยวที่สร้างเสร็จพร้อมขายประมาณ 250 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะสามารถระบายออกได้หมดภายใน 1 ปีครึ่ง ซึ่งสต๊อกดังกล่าวบริษัทไม่ได้มีภาระในเรื่องเงินกู้เพราะใช้เงินทุนของบริษัท แต่เป็นข้อดีในเรื่องของต้นทุนเดิมก่อนราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลบ้านเดือนละ 3,000 บาท/หลัง หรือค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 750,000 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนรายหนึ่ง ที่ต้องการซื้อบ้านในโครงการ โนเบิล ทารา พัฒนาการ โดยเป็นการซื้อแบบยกล็อตซึ่งโครงการดังกล่าวมีจำนวนยูนิตเหลือขายจำนวน 20 ยูนิต มูลค่า 300 ล้านบาท เพื่อนำไปปล่อยเช่ารองรับการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us