Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 สิงหาคม 2549
AIS ปรับโครงสร้างรับอนาคตเชื่อปี 2010 ประชากรมือถือถึง 80%             
 


   
www resources

AIS Homepage

   
search resources

แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
สมประสงค์ บุญยะชัย
Mobile Phone




เอไอเอสเชื่อปี 2010 คนใช้มือถือกว่า 80% ของประชากร จากปัจจุบันที่ประมาณ 50กว่า% ปรับโครงดันวิเชียร เมฆตระการ เป็นกรรมการผู้อำนวยการ หวังสร้างความเชื่อมั่นด้านเครือข่าย เพื่อรักษาสมดุลระหว่างคุณภาพกับโปรแกรมการตลาด ดึงฮุย เวง ชอง ผู้บริหารสิงเทล มาประสานทีมการตลาดตั้งแต่บริการแมสแบบพื้นฐาน ไปสู่บริการล้ำหน้าอย่างโมบายไลฟ์ และบริการซับซ้อนอย่างเอ็มเปย์

นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสหรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงและโครงสร้างการทำงานใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต จากปัจจุบันที่ประชากรโทรศัพท์มือถือมีอยู่ประมาณ 50กว่า% และคาดว่าภายในปี 2010 คนใช้โทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ

เอไอเอสแต่งตั้งนายวิเชียร เมฆตระการ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานปฏิบัติการขึ้นเป็นกรรมการผู้อำนวยการ (President) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาหลังจากใช้เวลาประมาณ 5 เดือนครึ่งในการคัดเลือกทั้งผู้บริหารภายในและผู้บริหารภายนอก

เป้าหมายแรกกู้ชื่อเครือข่าย

นายวิเชียรกล่าวว่าถึงแม้จะไม่เชี่ยวชาญด้านการตลาดแต่สิ่งสำคัญคือการทำงานในเอไอเอสจะทำงานเป็นทีม ทำงานประสานร้อยเรียงกันตั้งแต่บริการระดับพื้นฐานจนถึงบริการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

“ในอนาคตการให้บริการและการแข่งขันของเอไอเอสจะต้องรักษาความสมดุลระหว่างคุณภาพเครือข่ายกับโปรแกรมด้านการตลาด”

เขาย้ำว่าเป้าหมายแรกในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการคือการสร้างความเชื่อถือและความเชื่อมั่น พร้อมทั้งคุณภาพเครือข่ายให้กลับมาอยู่ในใจลูกค้าอีกครั้ง ซึ่งเอไอเอสลงทุนเครือข่ายปีนี้ทั้งหมด 355 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งด้วยปริมาณการใช้งานขณะนี้ เครือข่ายจะรองรับการใช้งานได้มากถึง 20 ล้านราย จากปัจจุบันที่เอไอเอสมีลูกค้าอยู่ในระบบทั้งหมด 17.5 ล้านราย

“เป้าหมายลูกค้าใหม่ทั้งปี 1.2 ล้านรายขณะนี้เอไอเอสได้แล้ว 8 แสนราย ซึ่งด้วยคุณภาพเครือข่ายที่ดีขึ้น หากได้ลูกค้ามากกว่าอีก 4 แสนรายเพื่อให้เกินเป้าหมายก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้”

กทช.ยันจัดสรรความถี่ได้

ส่วนกรณีเรื่อง 3G นั้น เอไอเอสก็พร้อมที่จะยื่นขอความถี่ไปยังกทช.รอเพียงให้กทช.ประกาศเงื่อนไขอย่างเป็นทางการก่อน ในขณะที่นายสุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการกทช.ระบุว่าหากกทช.เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าสามารถจัดสรรคลื่นความถี่ได้ตามที่กฤษฎีกาวินิจฉัย ก็น่าจะเป็นไปตามนั้น โดยไม่จำเป็นต้องให้กทช.ทุกคนเห็นชอบด้วยหมด

ด้านนายเศรษฐพร คูศรีพิทักษ์ กรรมการกทช. กล่าวว่า เงื่อนไขใบอนุญาต 3G น่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้และเปิดให้เอกชนยื่นขอจัดสรรความถี่ได้ในกลางปีหน้า

“เอไอเอสเตรียมพร้อมเรื่อง 3G เสมอและมีการเตรียมเงินไว้ขั้นต้นสำหรับ 3G ประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ” นายสมประสงค์กล่าว

เอไอเอสยังแต่งตั้งนายฮุย เวง ชอง ผู้บริหารจากสิงเทล เข้ารับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ แทนนายลีออง ชิน ลุง รองประธานกรรมการบริหารเอไอเอสที่หมดวาระลงในวันที่ 1 ต.ค. โดยช่วงก่อนที่นายฮุย เวง ชองจะรับตำแหน่ง นายวิเชียรในฐานะกรรมการผู้อำนวยการจะทำหน้าที่รักษาการไปก่อน

“การแต่งตั้งฮุย เวง ชอง ไม่เกี่ยวข้องกับในส่วนของผู้ถือหุ้นของเทมาเส็กแต่อย่างใด เป็นการแต่งตั้งตามวาระปกติซึ่งมีสัญญาระหว่างเอไอเอสกับสิงเทลตั้งแต่ปี 2542” นายสมประสงค์กล่าวย้ำพร้อมทั้งชี้แจงว่าในกรณีบริษัท กุหลาบแก้ว ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาสถานะว่าเป็นกิจการสัญชาติไทยหรือไม่นั้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอไอเอสต้องแยกกัน 2 ส่วนระหว่างผู้บริหาร บริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งในส่วนของบริษัท ไม่มีอำนาจในการควบคุมผู้ถือหุ้นใดๆ เอไอเอสทำได้แต่เพียงดำเนินธุรกิจบนหลักการและความถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับในส่วนของผู้ถือหุ้น การที่เอไอเอสเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นเกิดได้ตลอดเวลา ในลักษณะนี้ยังเป็นการถือหุ้นซ้อนกันอีกทอดหนึ่งซึ่งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ถูกหรือผิดคุณสมบัติ ไม่ใช่อำนาจของบริษัทที่จะชี้หรือตัดสิน

“การแก้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ถ้าผู้ถือหุ้นผิดทำให้ถูก ก็ไม่มีผลกระทบกับลูกค้า แต่ถ้ามีการกระทำอะไรให้เกิดผลกระทบกับบริษัท ก็ย่อมส่งผลกระทบกับลูกค้าแน่นอน ซึ่งผู้มีวิจารณญาณคงเข้าใจ”นายสมประสงค์กล่าว

ประสานทีมการตลาด

การเลือกฮุย เวง ชอง มารับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส เป็นความเห็นของสิงเทล ที่บอร์ดบริหารเอไอเอสและนายสมประสงค์เห็นด้วย เพราะฮุย เวง ชอง จะเข้ามามองหารายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเน้นหนักในเรื่องบริการเสริม (VAS) ทั้งในส่วนของวอยซ์ และนอนวอยซ์ โดยเขาจะเข้ามาเชื่อมต่อและทำให้การตลาดของเอไอเอสเป็นเนื้อเดียวกัน โดยขึ้นตรงกับกรรมการผู้อำนวยการ

สมประสงค์อธิบายว่า ความเป็นเนื้อเดียวกันเริ่มจากการทำตลาดแบบแมส หรือมวลชนทั่วประเทศ เป็นหน้าที่ของนายชำนาญ เมธปรีชากุล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด ที่มีหน้าที่สร้างฐานรายได้จากบริการพื้นฐานด้านเสียงเป็นหลัก แต่ถัดขึ้นมาจะเป็นบริการที่ล้ำหน้าขึ้นมาอย่างบริการเสริมต่างๆของโมบายไลฟ์ ที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจสื่อสารไร้สาย ที่จะทำให้เกิดการใช้งานมากขึ้น เป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่ตลาดมวลชนแบบแมส แต่จะเป้าหมายจะอยู่ในกลุ่มลูกค้าของชำนาญที่มีความเข้าใจและใช้โทรศัพท์มือถือดีขึ้น ถัดขึ้นมาจากบริการล้ำหน้าของโมบายไลฟ์ ไปสู่บริการที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างการทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือหรือเอ็มเปย์ของนายคมสัน บุพนิมิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ ซึ่งต้องมองหาลูกค้าเป้าหมายจากกลุ่มที่เป็นลูกค้าโมบายไลฟ์เป็นหลัก โดยที่โครงสร้างการทำงานใหม่ ได้โอนย้ายเอ็มเปย์ให้มาอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของฮุย เวง ชอง

“หน้าที่คุณฮุย เวง ชองจะช่วยทำให้ทั้ง 3 ส่วนดังกล่าวเกิดการประสานงานที่ราบรื่น โดยที่มีลูกค้าองค์กรซ่อนอยู่ภายใต้ทีมการตลาดของคุณชำนาญ”

นอกจากนี้ ฮุย เวง ชอง ยังมีคุณสมบัติเด่นอีก 2 ประการคือมีความเข้าใจเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นผู้บริหารสิงเทลในด้าน Product Development ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีมาสร้างให้เกิดบริการที่มีความแตกต่างจากบริการมาตรฐานของผู้ผลิตหรือเวนเดอร์ทั้งหลาย มีความเข้าใจในเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าเอไอเอส รวมทั้งการที่เขาเคยเป็นผู้บริหารโฟนลิ้งค์นานถึง 3 ปีครึ่งทำให้มีความรู้และความเข้าใจในตลาดและลูกค้าคนไทย ซึ่งแนวโน้มบริษัทข้ามชาติ มักจะส่งตัวแทนผู้บริหารที่เคยมีประสบการณ์ในประเทศนั้นๆ กลับมาเป็นผู้บริหารอีกครั้ง

“ต่อไปจะเกิดการเชื่อมโยงกันมากขึ้นระหว่างการตลาดภายใน และเชื่อมโยงกับด้านเทคนิค ไอทีโซลูชันต่างๆ”สมประสงค์กล่าว

นายฮุย เวง ชองกล่าวว่าจะให้ความสำคัญในเรื่องการตลาดเป็นหลัก โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการที่เป็นผู้บริหารจากสิงคโปร์แล้วเข้ามาทำงานในเอไอเอส โดยแนวทางพัฒนาการตลาดและบริการของเอไอเอสจะยึด 3 แพลตฟอต์มเป็นหลักคือบรอดแบนด์ โมบายและฟิกซ์ไลน์ มารวมกันเพื่อพัฒนาให้เกิดบริการในเอไอเอส

นายสมประสงค์กล่าวถึงการตลาดครึ่งปีหลังว่า ขนาดของเครือข่ายที่ขยายตัวมากขึ้นก็จะส่งผลให้รายได้ดีขึ้น จะทำให้ลูกค้าสนใจบริการที่พลิกแพลงมากขึ้น รายได้ของบริการเสริมจะเติบโตต่อเนื่องในอัตราที่สูงกว่าบริการพื้นฐาน

“เอไอเอสไม่ได้เริ่มสงครามราคา แต่จำใจทำเพื่อป้องกันตัวเองทุกครั้ง ซึ่งหากมีการนำค่าเชื่อมโครงข่ายมาใช้ก็จะส่งผลดีกับภาพรวม เพราะการแข่งขันจะเป็นในเชิงสร้างสรรค์ ป้องกันการดัมป์ราคา หรือดัมป์ทราฟิกจากเครือข่ายหนึ่งไปสู่เครือข่ายหนึ่ง ต่อไปราคาจะสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us