|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้บริหารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่พอใจการลงทุนใน"มติชน-โพสต์ พับลิชชิง" เผยได้เงินปันผล 33 ล้านบาท ยันไม่ซื้อเพิ่มและไม่ขายออกมา พร้อมระบุยังไม่มีแผนเข้าลงทุนในสื่อสิ่งพิมพ์เพิ่มขึ้น มั่นใจผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะมีรายได้ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังลดต้นทุนในการดำเนินการ
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน)หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า การเข้าไปลงทุนในบริษัทโพสต์ พับลิชชิง จำกัด(มหาชน)หรือ POST และบริษัท มติชน จำกัด(มหาชน)หรือ MATI นั้นถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าพอใจ ซึ่งได้รับเงินปันผลจากทั้ง 2 บริษัทเป็นจำนวน 33 ล้านบาททั้งนี้การเข้าไปถือหุ้นในบริษัทโพสต์ พับลิชชิงนั้น บริษัทได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการ และเชื่อว่าการทำธุรกิจสามารถเกื้อหนุนกันได้ ขณะที่การลงทุนในบริษัทมติชนนั้น ถือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี เหมาะสำหรับการลงทุน
"การลงทุนในสื่อทั้ง 2 ฉบับอาจจะไม่เป็นไปตามเป้า ในแง่ของสัดส่วนการถือหุ้นที่ไม่ได้ถือมากอย่างที่ตั้งเป้าไว้ในช่วงแรก แต่ก็ถือว่าพอใจกับการลงทุน และเราไม่ค่อยกังวลกับการเข้าไปร่วมถือหุ้นในบริษัทโพสต์ พับลิชชิง ซึ่งเรามองว่าเขามีการปรับตัวตลอดเวลา โดยสื่อในที่ทำอยู่ทั้งหนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ และหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ก็เป็นสื่อที่ได้รับยอมรับเป็นอย่างดี รวมถึงแมกกาซีนในเครือเขาก็ทำดี และบริษัทโพสต์ พับลิชชิงก็ยังมีการขยายงาน โดยมีแท่นพิมพ์ใหม่ ซึ่งถือว่าทันสมัยที่สุด ขณะที่บริษัทมติชน เรามองว่าเป็นหุ้นที่ดีเชื่อว่าเป็นหุ้นที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน"นายสุเมธกล่าว
รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน)กล่าวต่อว่า การถือหุ้นใน 2 บริษัทดังกล่าว จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยจะไม่ถือหุ้นเพิ่มขึ้นรวมถึงยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ขณะนี้ก็ยังไม่มีแผนที่จะลงทุนในสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อนึ่งบริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดียซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นั้นได้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทโพสต์ พับลิชชิง เมื่อเดือนกันยายน 2548 โดยเข้ามาถือหุ้นจำนวน 23.60% โดยซื้อในราคาหุ้นละ 8.25 บาท ส่วนการลงทุนในบริษัทมติชนได้เข้าไปถือหุ้นในเดือนกันยายนเช่นกัน โดยช่วงแรกถือหุ้นในสัดส่วน 32.23% โดยซื้อในราคาหุ้นละ 11.10 บาทแต่ต่อมาถูกกระแสสังคมต่อต้านว่าเป็นการเข้าไปแทรกแซงสื่อ จึงทำให้ลดสัดส่วนลงมาเหลือ 20% ส่วนที่เหลืออีก 12.23% นั้นได้ขายคืนให้กับนายขรรค์ชัย บุนปาน ผู้ถือหุ้นใหญ่และประธานกรรมการ บริษัทมติชน
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะต้นทุนในธุรกิจสื่อวิทยุได้ลดลง หลังจากที่ในครึ่งปีแรกได้มีการคืนคลื่นวิทยุที่ไม่สามารถสร้างกำไรได้ จากเดิมที่เคยมี 6 สถานี ปัจจุบันนี้เหลือเพียง 4 สถานี โดยสามารถลดต้นทุนได้เดือนละ 5 ล้านบาท และยังมีรายได้จากการลงทุนในบริษัทอินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ ซึ่งธุรกิจมีแนวโน้มจะเติบโตได้อีกมากในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดีย มีเงินสดจำนวน 500 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเตรียมถ้ามีการลงทุนใหม่ๆ แต่ถ้ามีการลงทุนขนาดใหญ่ก็ไม่กังวล เพราะบริษัทสามารถกู้เงินได้อีกมาก หรือระดมทุนจากช่องทางอื่น รวมถึงยังสามารถได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้ประกอบการในธุรกิจเฮ้าส์โฮม มีเดียหลายรายติดต่อเข้ามาให้บริษัทเข้าไปร่วมทุน ซึ่งก็ถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นบริษัทจึงไม่เร่งรีบที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจดังกล่าว
|
|
|
|
|