|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 หมื่นล้านแข่งเดือดโค้งท้าย “มาม่า-ยำยำ”ละเลงศึกปลุกปั้นรสชาติเดิมแทนออกรสชาติใหม่ บูม”หมูสับ”หลังพบว่าตลาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากต้มยำกุ้ง ล่าสุดชิงไหวชิงพริบ เปิดตัวแคมเปญโฆษณารสหมูสับอาหารอิ่มท้องราคาย่อมเยา ด้านไวไวปั้นหมูสับต้มยำ –หอยลายผัดฉ่าสร้างความต่าง คาดปีนี้ตลาดหมูสับโต 8%
นายสุชัย ตินติยาสวัสดิกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า จากการที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ชะลอตัวลง อีกทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคโดยรวมก็ลดลง ทำให้ผู้ประกอบการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแต่ละค่าย หันมาเน้นทำตลาดรสชาติเดิมที่มีอยู่เป็นหลัก และงดออกรสชาติใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและการใช้งบลงทุนเพื่อผลักดันรสชาติใหม่ให้แจ้งเกิด
ล่าสุดแนวโน้มการแข่งขันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงครึ่งปีหลัง เริ่มมีการปลุกปั้นรสชาติเดิมที่มีอยู่ในตลาด โดยเฉพาะรสหมูสับขึ้นมาทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากตลาดมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง โดยรสหมูสับมีสัดส่วนถึง 27-30% ของตลาดรวม ส่วนต้มยำกุ้ง 40% หมูสับต้มยำกุ้ง 8% และรสปรุงสำเร็จ 8 % และต้มโคล้ง 3% นอกจากนี้รสหมูสับยังมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเท่ากับรสต้มยำกุ้ง คือ 7-8%
ขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการเปิดตัวแคมเปญโฆษณา”บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ” ถึง 2 ค่าย ได้แก่ มาม่าและยำยำ ทั้งนี้เหตุผลที่ทั้งสองเปิดตัวแคมเปญโฆษณารสหมูสับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาม่าต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรสหมูสับ สืบเนื่องจากยำยำดำเนินทำตลาดในเชิงรุกโดยเปิดตัวโฆษณาถึง 2ตอน พร้อมกันนี้ยำยำยังใช้ความแข็งแกร่งบะหมี่ซองใหญ่”จัมโบ้”ในรสชาติหมูสับทำตลาด ซึ่งมีความได้เปรียบในเชิงปริมาณเมื่อเทียบกับมาม่า
สำหรับแนวทางการตลาด”ไวไว”จะเน้นรสชาติหมูสับต้มยำ และบะหมี่แห้งรสหอยลายผัดฉ่า ทั้งนี้เพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นสีสันทางการตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญครั้งใหญ่ในรอบหลายปี”รวยทันใจ ไวไวให้โชค”แจกทองคำ 630 บาท โดยเป็นแคมเปญที่จัดทำขึ้นเฉพาะ”รสหมูสับต้มยำ”เท่านั้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 6% จากส่วนแบ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวโดยรวม 28%
“เราไม่มีนโยบายที่จะโฟกัสรสชาติเดิมที่มีอยู่ในตลาดมากนัก แต่เป้าหมายของไวไว คือ การสร้างสินค้าขึ้นมาเป็นเรือธงหลากหลายตัว ซึ่งอย่างที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัว ไวไว ควิก รสกุ้งนึ่งมะนาวรสชาติใหม่ลงสู่ตลาด เนื่องจากต้องการขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 15-25 ปี”
นายสุชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากแนวโน้มการแข่งขันครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการแต่ละค่ายจะเน้นทำตลาดรสชาติเดิมที่มีอยู่แล้ว การแข่งขันหลักๆ ยังมาจากการทำโปรโมชัน โดยเฉพาะการแจกทองคำ อย่างไวไว ทำโปรโมชันแจกทองคำถึงสิ้นปี ขณะที่มาม่าก็มีแจกทองคำเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงโค้งท้ายปลายปี โดยปัจจุบันมาม่าเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครองส่วนแบ่ง 51% ไวไว มีส่วนแบ่ง 28 % และยำยำ 18% ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีนี้ไวไวจะมีส่วนแบ่งเพิ่มอีก 3% หรือราว 31%
สำหรับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 7-8% ทั้งนี้คาดว่าทั้งปีตลาดจะมีอัตราการเติบโตมากสุด 9 % หรืออย่างน้อย 7-8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 9% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ดี จากเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีอัตราการเติบโตเพียง 4-5% เท่านั้น ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดโตขึ้น เป็นเพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอิ่มท้องในราคาย่อมเยา
|
|
|
|
|