Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์21 สิงหาคม 2549
ธุรกิจส่อเค้าเจ๊งระนาว!แบงก์ไม่ปล่อยกู้-เครื่องใช้ไฟฟ้า-sme กระอัก             
 


   
search resources

Economics




ภาวะเศรษฐกิจประเทศส่อเค้าขาลง นักธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุ แบงก์ส่งสัญญาณไม่ปล่อยเงินกู้ และเรียกหลักประกันเพิ่มขึ้น ด้านสภาอุตฯ แนะภาคเอกชนดิ้นรนช่วยตัวเองไปก่อน ชี้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจ sme อยู่ลำบาก ส่วนธุรกิจรถยนต์-อสังหาฯยอดขายลดฮวบฮาบ ด้านธุรกิจปั้นน้ำมันปิดตายจำนวนมาก "ปิโตรนัส-คาลเท็กซ์" ไล่ซื้อปั้มที่มีโอกาสรอดมาปัดฝุ่นใหม่ ขณะที่นักศึกษาจบใหม่ตกงานแน่

สภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นขณะนี้ กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นตลอด และมีการคาดการว่าหากน้ำมันขยับไปถึง 100 เหรียญต่อบาเรล จะทำให้ภาคการค้า การลงทุนและการบริโภคประสบปัญหาอย่างรุนแรง หากรัฐยังไม่มีมาตรการรองรับหรือมองหาพลังงานทดแทนเข้ามาใช้แทน

เพราะนอกจากปัญหาน้ำมันแล้ว ยังมีปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นถึงร้อยละ 8ซึ่งเป็นสัญญานอันตรายสำหรับผู้ประกอบการ โดยแหล่งข่าวจากวงการธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการเงิน ไม่มีนโยบายให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการรายใหม่ ส่วนธุรกิจเดิมหากต้องการขยายวงเงินสินเชื่อจะมีการพิจารณาเป็นราย ๆ ไป อีกทั้งมีคำสั่งให้ขอหลักประกันเพิ่มจากผู้ประกอบการเดิมและผู้ที่ต้องการขยายวงเงินด้วย

"ตอนนี้แบงก์รัดกุมมาก เพราะเงินในระบบของสถาบันการเงินไม่คล่อง พวกที่ธุรกิจส่อเค้าขาดทุน และมีต้นทุนทำธุรกิจสูง ก็ส่งสัญญานออกมาด้วยการผิดสัญญาในการชำระหนี้กับแบงก์ จากนี้ไปเราจะเห็นแบงก์เข้มงวดมากขึ้น พร้อม ๆกับการบีบบังคับให้มีการขายสินทรัพย์ค้ำประกันกันให้เห็นในอนาคต หากไม่สามารถแก้วิกฤตแต่ละบริษัทได้"

แหล่งข่าว ระบุด้วยว่าธุรกิจที่เห็นชัดมากที่สุดขณะนี้ คือธุรกิจปั้นน้ำมัน ที่มีการปิดตัวเองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปั้นน้ำมันเล็ก ๆหรือปั้นน้ำมันอิสระ ส่วนปั้มที่จะอยู่รอดได้มีเพียงปั้นขนาดใหญ่

"ตอนนี้ปั้มน้ำมันที่เป็นของยักษ์ใหญ่ เช่นคาดเท็กซ์ ก็ไล่ซื้อปั้นขนาดกลางที่มีศักยภาพไว้แล้ว ส่วนปิโตรนัส เล็งซื้อปั้มน้ำมันในทำเลดี ๆ ที่เห็นว่าจะไปไม่รอด แต่มีโอกาสในการอยู่รอดได้ หากปิโตรนัสเข้าไปดำเนินการ เพราะต้นทุนน้ำมันของปิโตรนัสต่ำกว่าที่อื่น" แหล่งข่าว กล่าว

ด้านสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมกล่าวว่า ขณะนี้มีการชะลอตัวการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะเกิดวิกฤติรอบใหม่ได้ เชื่อว่าภายหลังได้รัฐบาลใหม่เข้ามาทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบตอนนี้ที่เห็นชัดที่สุดคือ ผู้รับเหมากับโครงการของภาครัฐในเรื่องต่างๆ เพราะต้องรองบประมาณจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแทนรัฐบาลรักษาการ

ขณะที่ธุรกิจด้าน consult สวนทางกับธุรกิจอื่น ๆ เนื่องจากปัจจุบันได้รับความสนใจจากบริษัทต่างๆมากขึ้นเพราะบริษัทconsult ที่ดีและเก่งจะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถพยุงธุรกิจและสร้างประโยชน์ได้ท่ามกลางภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะบริษัทที่มีคู่ค้ากับต่างประเทศ จะมีรายละเอียดในทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง บริษัทที่ปรึกษาเหล่านี้จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะภาคเอกชนจะหวังพึ่งภาครัฐคงจะลำบาก การจะหันไปพึ่งพาบริษัทเหล่านี้จึงมีมากขึ้น

"ภาคเอกชนต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันไปก่อน นโยบายที่ภาครัฐที่ส่งเสริมให้ความมั่นใจนักลงทุนยังไม่มี ทางสภาอุตฯก็พยายามดูแลอย่างใกล้ชิด"

เครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก

อย่างไรก็ดียังมีธุรกิจที่คาดว่าจะประสบปัญหา เช่นธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะมีการแข่งขันกันสูงมากแต่ราคาเพิ่มขึ้นไม่ได้ กลับกันต้นทุนการผลิตสูงมากขึ้นธุรกิจแบบนี้จึงอยู่ลำบาก อีกอย่างก็จะเป็นพวกเสื้อผ้าเกรดต่ำ เสื้อโหลพวกนี้ได้รับผลกระทบแน่นอนเพราะมีการนำเข้าจากประเทศจีน จากเวียดนาม ซึ่งประเทศไทยสู้ไม่ได้อยู่แล้ว

ขณะเดียวกันภาคแรงงานในประเทศยังขาดอีกจำนวนมาก ที่บอกว่ามีการลดคนงานลงก็แค่บางส่วน แต่ภาพกว้างแรงงานในประเทศยังขาดอยู่มากในทั้งภาคใต้-ภาคตะวันออก-ภาคกลาง ในด้านสิ่งทอ หรือโรงงานที่ใช้คนงานมากๆ ทางสภาอุตฯยังปวดหัวอยู่ว่าจะหาแรงงานมากจากไหน ส่วนพวกวิชาชีพที่จบวิศวะ ปวช. ปวส. ด้านต่างๆมีงานรองรับอยู่ที่ว่าจะเลือกงานหรือไม่

รถยนต์-อสังหาฯยอดขายวูบ

ด้านดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดวิกฤติอีกครั้งว่า ต้องรู้ก่อนว่าการเกิดภาวะเศรษฐกิจปี40ที่ผ่านมาเกิดจากการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เกินความจำเป็นแต่ตอนนี้ไม่ใช่ แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงก็ตาม อย่างไรก็ตามจากที่ทางศูนย์ฯทำการสำรวจพบว่าแม้ไม่มีการลดคนงานลง แต่ก็ไม่มีการจ้างงานเพิ่มเพราะมีการชะลอการลงทุน ส่วนบริษัทที่ต้องขยายการขยายเพิ่มยังไม่มี ธุรกิจประเภทที่ใช้คนงานเยอะๆ ก็หันมาใช้เทคโนโลยีแทนคนงานที่ชัดเจนอีกธุรกิจประเภทแบงค์ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานมากขึ้น จะเห็นได้ว่าคนทำงานที่เคาต์เตอร์ธนาคารมีแค่4-5คนเท่านั้นในส่วนภาครัฐก็จะมีโครงการเออรี่รีไทน์เกษียณอายุก่อนกำหนดเป็นนโยบายลดจำนวนคนลง

ขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ คือธุรกิจตอกเสาเข็ม ทางศูนย์ฯสำรวจพบว่าเริ่มลดลงอย่างมาก และต่ำกว่าเกณฑ์เดิมที่มีการคาดการณ์ไว้ และยังพบว่ายอดจองบ้าน และยอดขายธุรกิจยานยนต์ชะลอตัวลงมาก ส่วนภาคการก่อสร้างรับเหมาสัมปทานจากภาครัฐไม่ขยับ

SME-ธุรกิจขนาดเล็กอยู่ลำบาก

เกียรติพงษ์ น้อยใจบุญ รองประธานสภาอุตสาหกรรม กล่าวว่า เศรษฐกิจตอนนี้ดีหรือไม่ดี ไม่มีใครรู้หรอก ขนาดรองนายกฯสมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) ยังพูดไม่ตรงกันเลยไปหาดูได้ตามหนังสือพิมพ์สองเดือนก่อนพูดอย่าง มาเดือนนี้พูดอีกอย่างไม่ตรงกัน ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือกระทรวงพาณิชย์ตัวเลขก็ไม่ตรงกัน แล้วจะให้มองยังไงกับเศรษฐกิจไทยในขณะนี้

หากมองเป็นประเภทกิจการก็ไม่ชัดขนาดที่ว่า หมวดอุตสาหกรรมไหนที่กำลังสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจรอบใหม่ แต่บอกได้แต่เพียงว่าบริษัทขนาดเล็กต่างๆและพวกSMEที่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือในส่วนต่างๆกำลังมีปัญหา หันมองการลดคนงานของบริษัทต่างๆก็ยังลดไม่มาก แต่มีผลกระทบแน่ เพราะเด็กที่จบมาใหม่จะไม่มีงานทำ ขณะที่คนเก่ายังอยู่ในตำแหน่งงาน ดังนั้นจะมีตำแหน่งว่าง ได้อย่างไร ส่งผลให้เด็กจบใหม่ต้องว่างงานแน่

"ตอนนี้ที่ชัดๆ คือทุกอย่างนิ่งเพราะการจ้างงานไม่ขยับ"เกียรติพงษ์ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us