สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนเผยยอดส่งออกตก เหตุต้นทุนพุ่ง เสียเปรียบจีน เวียดนาม คู่แข่งเจ้าสำคัญ เตรียมพลิกกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ตะวันออกกลาง รัสเซีย อินเดีย ชุจุดขายดีไซน์ต่างรองรับงานลูกค้าโครงการ

เฟอร์นิเจอร์ไทยเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญ และเป็นที่ยอมรับในคุณภาพของต่างชาติ แต่ในขณะนี้กำลังพบกับอุปสรรคจากคู่แข่งสำคัญอย่างจีน เวียดนาม ซึ่งได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า จึงมีความจำเป็นที่ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไทยต้องเร่งหาหนทางในการปรับตัวเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ให้ได้

วรรธนะ เจริญนวรัตน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย กล่าวว่า “ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดส่งออกเฟอร์นิเจอร์ของไทยมียอดส่งออกลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1% โดยคาดว่าในตลอดทั้งปีการส่งออกเฟอร์นิเจอร์จะเติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 4-5% จากที่ผ่านมามีการเติบโต 15-20% มีมูลค่าการส่งออกกว่า 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งในด้านวัตถุดิบ และคู่แข่งในตลาดโลก คือ จีน และเวียดนามที่มีความได้เปรียบในด้านต้นทุนวัตถุดิบ และค่าแรงงานที่ถูกกว่า รวมทั้งผลกระทบจากปัจจัยลบด้านอื่นๆ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท และราคาน้ำมัน”

ทั้งนี้ หนทางแก้ไขปัญหายอดการส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าที่ทางสมาคมวางเอาไว้ คือ การชุจุดต่างด้านดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์ไทย และคุณภาพในการผลิตสินค้าเพื่อเจาะตลาดลูกค้าโครงการ เช่น โรงแรม รีสอร์ต สปา และภัตตาคาร โดยเน้นตลาดใหม่ๆ เช่น อินเดีย รัสเซีย และประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง และที่อยู่อาศัยมาก ส่งผลให้มีความต้องการเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านสูงมาก จากเดิมที่ไทยเน้นการส่งออกแบบแมส เพื่อเจาะตลาดอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกถึง 50%”

ในส่วนของวัตถุดิบการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาของไม้ยางพาราอีก 20% วรรธนะ กล่าวว่า “ทางสมาคมได้พยายามที่จะค้นหาวัสดุใหม่ๆ จากทั้งโลกที่มีราคาไม่แพงนัก เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ผลิต อีกทั้งยังส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกของผู้ผลิตไทยด้วยการสนับสนุนให้มีการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองอีกด้วย ซึ่งเดิมเรามีความมั่นใจในคุณภาพของผู้ผลิตไทยอยู่แล้วว่าไม่เป็นรองใคร”

สำหรับในปลายปีนี้สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย ได้เตรียมจัดงาน International Furniture and Design Objects 2006 ขึ้นในวันที่ 18-22 ต.ค. นี้ด้วย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไทยได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในตลาดใหม่ๆ และตั้งเป้าว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจากงานนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

สำหรับภาวะตลาดเฟอร์นิเเจอร์ภายในประเทศ วรรธนะ ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ตลาดในประเทศยังไม่ชะลอมาก เนื่องจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวเพิ่งอยู่ในภาวะเริ่มต้น ซึ่งน่าจะส่งผลต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์อย่างชัดเจนในไตรมาส 4 ของปีหน้า ส่วนในปีนี้การเติบโตน่าจะลดลง 5% ในไตรมาส 3 และ 4