|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
* สงครามแพกเกจมือถือ ครึ่งปีหลังชะลอตัว โอเปอเรเตอร์พักรบศึก "ราคา"
* ชงแพกเกจจูงใจ โทร.ในเครือข่าย หวังสร้างคอมมูนิตี้ เน็ตเวิร์ก รับมืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ
* เอไอเอส เดินเครื่องปรับแพกเกจโปรโมชั่นครึ่งปีหลัง โฟกัส คุณภาพเครือข่ายพ่วงโปรโมตโทร.ภายในเครือข่าย
* ทรูมูฟไม่ยอมน้อยหน้า อัดแพกเกจ "โทร.ครั้งละ 1 บาท" ในเครือข่ายเข้าสู้
* ดีแทคสงวนท่าที เชื่อค่าโทร.ในเครือข่ายถูกแน่
สงครามโปรโมชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโอเปอเรเตอร์ไทยกำลังอยู่ในช่วงของการพักตัว หลังจากที่เปิดศึกสงครามราคาอย่างเมามันในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แนวใหม่ "โทร.ต่อเนื่อง" ส่งผลกระทบให้กับประสิทธิภาพเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้นำตลาดอย่าง "เอไอเอส" ถึงกับรวน จนผู้ใช้บริการประสบปัญหาโทร.ไม่ได้โทร.ไม่ออกอยู่นานนับเดือน
จนทำให้ "เอไอเอส" ต้องโยนเม็ดเงินลงทุนขยายประสิทธิภาพของเครือข่ายอยู่นับหมื่นล้านบาท รวมกับหมื่นกว่าล้านเดิมที่วางแผนขยายเครือข่ายช่วงต้นปี
นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ทางบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ได้ชี้แจงต่อสถานการณ์ปัญหาด้านเครือข่ายที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ให้กับผู้ใช้บริการของเอไอเอสว่า เวลานี้สถิติอัตราโทร.สำเร็จภายในเครือข่ายเอไอเอสในช่วงเวลาปกติโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 95% ถ้าเป็นในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 90% ส่วนสถิติอัตราการโทร.สำเร็จระหว่างเครือข่ายในช่วงเวลาปกติโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 90% แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 78%
ผลดังกล่าว วิเชียร เมฆตระการ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา บอกว่า เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทุกประการ ทำให้นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งภายในเครือข่ายเอไอเอสและระหว่างเครือข่ายเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้นกว่าปกติก่อนที่จะมีการแข่งขันการทำตลาดด้วยแคมเปญโปรโมชั่นค่าโทรราคาถูกในเดือนเมษายน
หลังจากที่เอไอเอสแก้ปัญหาด้านเครือข่ายที่เคยเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งของเอไอเอสมาเป็นเวลานาน ทำให้เอไอเอสเริ่มเคลื่อนไหวในการออกแพกเกจโปรโมชั่นใหม่อีกครั้ง ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาแพกเกจโปรโมชั่นของเอไอเอสในครึ่งปีหลังนี้ พยายามมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพการให้บริการอีกครั้ง รวมถึงจัดแพกเกจที่มุ่งเสริมสร้างให้เกิดพฤติกรรมการโทร.ภายในเครือข่าย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเอไอเอสอีกประการหนึ่ง ที่วันนี้เอไอเอสที่มีฐานผู้ใช้บริการทั้งที่เป็นพรีเพดและโพสต์เพดอยู่กว่า 17.5 ล้านเลขหมายนำมาใช้เป็นไม้เด็ดทางการตลาดในการช่วงชิงความคุ้มค่าทางด้านราคาที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด
อีกทั้งยังเป็นการชิมลางเพื่อรองรับการนำการคิดค่าใช้จ่ายในการโทร.ข้ามเครือข่ายหรืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จมาใช้ในเร็วๆ นี้
ส่งผลให้แนวคิดในการพัฒนาแพกเกจของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างพุ่งประเด็นไปที่การสร้างคอมมูนิตี้ เน็ตเวิร์กให้เกิดขึ้นภายในเครือข่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งใครที่สามารถสร้างพฤติกรรมโทร.หากันภายในเครือข่ายให้มีอัตราการโทร.หากันมากเท่าไรนั้นย่อมหมายถึงลดปัญหาการไหลออกนอกเครือข่ายของผู้ใช้บริการให้น้อยลง ไม่เหมือนกับแพกเกจโปรโมชั่นที่มุ่งเน้นราคาในอดีตที่ผ่านมา เมื่อใดที่หมดแพกเกจผู้ใช้บริการก็จะหันไปหาผู้ให้บริการรายที่เสนอแพกเกจโปรโมชั่นที่ถูกกว่าแทน
ข้อดีอีกประการหนึ่ง อัตราค่าโทร.ภายในเครือข่ายน่าจะมีอัตราที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าในวันนี้จะยังไม่เห็นอัตราค่าโทร.ที่แรงมากๆ อย่าง 25 สตางค์จากค่ายยักษ์ คงจะต้องรอเวลาให้การเก็บค่าอินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จเริ่มใช้จึงจะเห็นความเคลื่อนไหวทางด้านนี้ชัดเจนมากขึ้น
เอไอเอสปรับแพกเกจ
"ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เรากล้ากล่าวได้เต็มปากว่า วันนี้เครือข่ายของเอไอเอสมีคุณภาพใกล้เคียงกับช่วงเดิมก่อนที่จะเกิดปัญหาโทร.ข้ามเครือข่ายยาก เพราะโปรโมชั่นที่รุนแรงหมดลงแล้วและการลงทุนเครือข่ายประมาณ 1 หมื่นล้านบาทแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมก็เริ่มเห็นผลแล้วเช่นกัน" ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำถึงคุณภาพเครือข่ายที่ดีดังเดิม
ฐิติพงศ์ได้บอกถึงแนวทางการทำตลาดครึ่งปีหลังของเอไอเอสว่า ยังคงใช้เรื่องคุณภาพของเครือข่ายเป็นจุดขาย และเอไอเอสมองว่าครึ่งปีหลังจะมีการประกาศใช้เรื่องค่าเชื่อมโครงข่ายหรืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จก็จะทำให้โอเปอเรเตอร์หันมาทำโปรแกรมในลักษณะการโทร.ภายในเครือข่ายมากขึ้น เอไอเอสจะมีแคมเปญที่ออกมาให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าเก่าเข้มข้นมากขึ้น จากเดิมอาจเป็นแค่การดูหนังฟังเพลง รวมทั้งต้องมีบริการที่หลากหลาย โดยเน้นการแข่งขันทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นคุณภาพบริการ บริการเสริม ด้วยการมุ่งสู่ผู้บริโภคเป็นหลัก
"หากดูจุดขายของคู่แข่งในวันนี้ ทรูชัดเจนว่าเน้นกลยุทธ์ซินเนอยี่ ดีแทคมุ่งไปที่โปรดักส์เซ็นทริก มองพรีเพดกับโพสต์เพดแยกกันไป ส่วนเอไอเอสจะเน้นคัสตอมเมอร์ เซ็นทริกทั้งฐานลูกค้า"
ล่าสุด เอไอเอสได้ส่งแพกเกจโปรโมชั่นใหม่ที่เน้นในเรื่องสิทธิพิเศษสำหรับการโทร.ภายในเครือข่ายด้วยการแยกแพกเกจโปรโมชั่นในลักษณะเซกเมนเตชั่นตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคอย่างเต็มที่
แพกเกจแรกที่เอไอเอสออกมาก็คือ แคมเปญที่มุ่งสร้างความรู้สึกที่ดีกับลูกค้าเก่าในขณะที่ได้ลูกค้าใหม่ในระบบโพสต์เพดเพิ่มมากขึ้น โดยที่เอไอเอสให้สิทธิพิเศษลูกค้าเก่าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ที่มีอยู่ประมาณ 1.8 ล้านคน สามารถเลือกเพื่อนหรือคนสนิทได้ 2 เลขหมายมาจดทะเบียนในระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ โดยจะได้รับสิทธิพิเศษ ประกอบด้วย หนึ่ง ลูกค้าเดิมที่เป็นคนได้รับสิทธิ์จะสามารถโทร.หาเบอร์คนพิเศษดังกล่าวได้เบอร์ละ 100 นาทีต่อ 1 รอบบิล เป็นระยะเวลา 6 รอบบิล
สอง สำหรับคนพิเศษที่จดทะเบียนใหม่จะได้รับสิทธิ์โทร.หาลูกค้าเดิม 100 นาทีต่อ 1 รอบบิลเป็นเวลา 6 รอบบิลเช่นกัน ด้วยอัตราค่าบริการที่ถือว่าจูงใจมากและเป็นอัตราพิเศษไม่มีในท้องตลาดคือเป็นอัตราเหมาจ่าย 250 บาทต่อเดือน โทร.ไม่จำกัดตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. และตั้งแต่ 17.00-08.00 น. คิดค่าบริการนาทีแรก 3 บาทนาทีต่อๆ ไปนาทีละ 1 บาทในรอบบิลที่ 1-3 สำหรับรอบบิลที่ 4-6 เสียค่าบริการ 2 นาทีแรกนาทีละ 3 บาท นาทีต่อๆ ไปนาทีละ 1 บาท
ฐิติพงศ์ ยังบอกว่า ลูกค้าในระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์จะได้รับคูปองการรับสิทธิ์ที่ส่งไปพร้อมใบแจ้งค่าบริการ หลังจากนั้นก็สามารถนำไปเปิดเบอร์ใหม่เพื่อรับสิทธิดังกล่าวได้ที่สำนักงานบริการเอไอเอส และร้านเทเลวิซทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน
"จุดขายของแคมเปญนี้คือทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีสิทธิพิเศษในการเลือกหรือตัดสินใจว่าจะชักชวนให้ใครมาเป็นคนพิเศษ"
แพกเกจโปรโมชั่นที่สอง ที่ทางเอไอเอสส่งออกมาไล่เลี่ยกันก็คือ แพกเกจในส่วนของระบบโพสต์เพด "จีเอสเอ็ม แอดวานซ์" ในชื่อแพกเกจว่า จีเอสเอ็ม 4 ไลฟ์สไตล์ ทาริฟ ด้วยการแบ่งแพกเกจออกเป็น เอส, เอ็ม, แอลและเอ็กซ์แอล ด้วยการนำพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ทุกแกน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมการจ่ายเงิน พฤติกรรมการใช้งานโทร.มาก โทร.น้อย พฤติกรรมโทร.ถึงใคร ช่วงเวลาไหน รวมทั้งพฤติกรรมการใช้บริการด้านวอยซ์ และนอนวอยซ์มาพัฒนาเป็นแพกเกจใหม่
"เอไอเอสได้การสำรวจความต้องการของลูกค้าใน 2 แนวทาง หนึ่ง จากทีม วอยซ์ ออฟ คัสตอมเมอร์เพื่อเก็บรวบรวมความคิดเห็นจากลูกค้าจากทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะมาทางคอลเซ็นเตอร์ที่มากกว่า 2 ล้านคอลต่อเดือน หรือทีมการตลาดกว่า 300 คนที่คอยรับเสียงร้องจากลูกค้า สอง จากการศึกษาและทำความรู้จักผู้ใช้บริการทั้งจากระบบดาต้าไมนิ่งที่ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค"
อรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า เอไอเอส อธิบายถึงแพกเกจใหม่นี้ว่า 4 แพกเกจดังกล่าวจะตอบสนองพฤติกรรมความต้องการโทร.ที่แตกต่างกันใน 4 แกนหลัก หนึ่ง จำนวนเบอร์ที่โทร.ติดต่อ ซึ่งเอไอเอสพบว่า คนที่โทร.น้อย จะโทร.หาคนสนิทไม่กี่เบอร์ และคนที่โทร.มาก ก็จะโทร.ไปยังเบอร์ปลายทางมากขึ้น ซึ่งจากฐานลูกค้าเอไอเอสกว่า 17 ล้านรายจะพบว่าจะเป็นการโทร.ภายในเครือข่ายมากกว่าโทร.นอกเครือข่าย
สอง ลูกค้าจีเอสเอ็มจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย และมีการเดินทางนอกสถานที่ มีการเดินทางบ่อย มีการเคลื่อนที่สูง รวมทั้งลูกค้ากว่า 70% จะมีธุรกิจส่วนตัว รับราชการหรือเป็นพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งลูกค้าเอไอเอสจะมีทุกระดับ ตั้งแต่คนเริ่มทำงานจนถึงผู้ที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ สาม ผู้ใช้บริการของเอไอเอสมีแนวโน้มในการใช้บริการเสริมมากขึ้นทั้งในเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ และในด้านธุรกิจ สี่ เวลาในการโทร.ซึ่งพบว่า ลูกค้าจีเอสเอ็มมีการโทร.กระจายตัวทั้งวันไม่ว่าจะเป็นกลางวัน กลางคืน และวันหยุด
แพกเกจทั้ง 4 นั้น ประกอบไปด้วย แพกเกจ เอส เหมาะกับคนที่โทร.ไม่มาก มีเลขหมายที่โทร.ประจำ ต้องการโปรโมชั่นเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แพกเกจ เอ็ม, แอล และเอ็กซ์แอล จะเหมาะสำหรับคนที่ใช้งานปานกลางค่อนข้างสูง โทร.ไปหากลุ่มคนหลายกลุ่ม เป็นการใช้งานมากทั้งกลางวันและกลางคืน มีกิจกรรมนอกสถานที่ และชอบใช้บริการเสริมในชีวิตประจำวัน โดยจะมีระยะเวลาใช้งานได้นาน 12 เดือน สำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่าทั้งระบบโพสต์เพดและระบบพรีเพด ที่สมัครใช้ภายใน 30 กันยายนศกนี้
"ปัจจุบันเอไอเอสมีมากกว่า 100 โปรแกรมสำหรับลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ ซึ่งหากลูกค้าคนไหนโปรโมชั่นหมดช่วงนี้ ก็จะถูกเสนอให้เลือก 4 แพกเกจดังกล่าวเกือบทุกราย ยกเว้นลูกค้าบางรายที่อาจมีโปรโมชั่นจูงใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งในครึ่งปีหลังจะไม่เห็นอัตราค่าบริการที่จะมีผลกระทบกับคุณภาพเครือข่ายเป็นอันขาด เพราะเอไอเอสยังยึดมั่นจุดขายเรื่องเครือข่าย" ฐิติพงศ์อธิบายถึงแพกเกจจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ฟัง
วัน-ทู-คอล! อัป ทู ยู แพกเกจรักษาฐานลูกค้า
ในส่วนของการให้บริการระบบเติมเงินหรือพรีเพด เอไอเอส วัน-ทู-คอล! ได้มีการออกโปรแกรมใหม่ "อัป ทู ยู" ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของฐานลูกค้าเก่ามากกว่าการแสวงหาลูกค้าใหม่ และยังถือเป็นแพกเกจที่ทำให้เห็นว่าเอไอเอสเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการเมื่อมีการประกาศใช้เรื่องอินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ โดยลูกค้าในระบบของเอไอเอสจะสามารถโทร.ในเครือข่ายได้ถูกกว่าการโทร.นอกเครือข่าย
"วันนี้ฐานลูกค้าของวัน-ทู-คอล! มีไม่ต่ำกว่า 15 ล้านราย มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เราจึงพยายามหาโปรแกรมที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ให้เห็นถึงคุณค่าการใช้บริการในเครือข่ายเอไอเอส" ฐิติพงศ์ กล่าว
โปรแกรม อัป ทู ยู จึงเกิดขึ้นหลังจากที่เอไอเอสได้มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพเครือข่ายให้กลับสู่สภาพปกติแล้ว ที่สำคัญอัป ทู ยู ถือเป็นการตอบแทนลูกค้าเพิ่มเติม เพียงลูกค้าใช้งานตามปกติก็สามารถเลือกรับรางวัลได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าโทร.วันการใช้งาน หรือการให้งานเอสเอ็มเอส
ทั้งนี้ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่สามารถเลือกโปรแกรม อัป ทู ยู ได้เพียงกด *777 จากเครื่องวัน-ทู-คอล! โดยมีอัตราค่าใช้บริการ โทร.ในเครือข่ายนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไปจนกว่าจะวางสายนาทีละ 1 บาท และโทร.นอกเครือข่ายนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไปจนกว่าจะวางสายนาทีละ 2 บาท อัตราค่าโทร.ดังกล่าวเป็นอัตราที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
"ลูกค้าภายในเครือข่ายเอไอเอสจะได้รับค่าโทร.ที่ถูกกว่า เป็นแคมเปญสำหรับฐานลูกค้าเก่าเพื่อเตรียมตัวรับเรื่องของอินเตอร์คอนเนกชาร์จ"
สำหรับการแลกรับของรางวัลจากการใช้บริการอัป ทู ยู นั้น ระบบจะเริ่มสะสมคะแนนให้ตั้งแต่วันที่ผู้ใช้บริการเริ่มเลือกโปรแกรมนี้ และสามารถตรวจสอบคะแนน เพียงกด *717# ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป โดยการโทร.1 บาทจะได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน และเมื่อสะสมครบ 10 คะแนนก็สามารถนำไปแลกของรางวัล ได้แก่ ค่าโทร.1 บาท หรือวันใช้งาน 1 วัน หรือฟรีค่าใช้บริการเสริมเอสเอ็มเอส 1 ครั้ง ได้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนเป็นต้นไป
"ในช่วงครึ่งปีหลังนี้เราจะทำแคมเปญบริการอื่นเพิ่มขึ้นอีก เป็นแคมเปญที่ค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า"
แพกเกจใหม่จากทรูมูฟ
ด้าน "ทรูมูฟ" โอเปอเรเตอร์ที่มีส่วนแบ่งในตลาดเป็นอันดับสองในตลาดก็ได้ออกแพกเกจใหม่ที่เน้นการโทร.ภายในเครือข่ายของตนออกมาเช่นกัน
สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแพกเกจใหม่ที่ออกมาว่า ทรูมูฟ ออกแคมเปญใหม่สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน ด้วยการคิดค่าโทร.เป็นครั้ง ด้วยแพกเกจ "โทร.ครั้งละ 1 บาท" สำหรับผู้ที่โทร.ภายในเครือข่าย "ทรูมูฟ" ตั้งแต่ 5 โมงเช้าถึงก่อน 5 โมงเย็น โดยจะคิดอัตราค่าโทร.ครั้งละ 1 บาท แต่ถ้าเป็นการโทร.นอกเครือข่ายคิดค่าโทร.ครั้งละ 3 บาท นอกเวลาคิดค่าโทร. 3 นาทีแรก นาทีละ 2 บาท นาทีต่อไปนาทีละ 1 บาท
นอกจากนี้ ยังจะได้รับสิทธิพิเศษโทร.ฟรีทุกวัน สูงสุดวันละ 15 นาที เมื่อโทร.ในช่วงเวลา 09.00-09.05 น., 12.00-12.05 น. และ 15.00-15.05 น. พร้อมรับโบนัสโทร.ฟรี ทันทีที่เปิดใช้บริการ 50 บาท และต่อเนื่องอีก 11 ครั้ง รวมมูลค่าสูงถึง 600 บาท
แพกเกจนี้ ทางทรูมูฟเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม-5 กันยายนศกนี้ ลูกค้าใหม่สามารถซื้อซิมการ์ดทรูมูฟ ในราคา 99 บาท ส่วนลูกค้าปัจจุบันที่สนใจแพกเกจนี้ สามารถเปลี่ยนมาใช้โปรโมชั่นนี้ได้ โดยโทร.ไปที่หมายเลข 9305 แล้วทำตามขั้นตอนของระบบตอบรับอัตโนมัติ คิดค่าใช้จ่าย 30 บาท
"แพกเกจโทร.ครั้งละ 1 บาท เป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่าที่ทรูมูฟมุ่งสรรหาเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ทรูมูฟมั่นใจว่าแพกเกจนี้จะตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ชื่นชอบความสะดวกสบายกับอัตราค่าโทร.แบบง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก และหวังว่าจะมีการตอบรับจากลูกค้าใหม่ของเราเป็นอย่างดีแน่นอน"
ดีแทคเชื่อโทร.ในเครือข่ายจะถูก
ขณะที่ทางด้าน "ดีแทค" ผู้ให้บริการโทรศัพท์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสอง ที่มีกิจกรรมการตลาดแย่งฐานลูกค้าเอไอเอสมาอยู่ในมือโดยตลอด แม้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการออกแพกเกจโปรโมชั่นใหม่ออกมาในเวลานี้ แต่จากแพกเกจที่ผ่านมา ดีแทคมองว่า หลังเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา การแข่งขันในตลาดจะชะลอตัวลง แต่เชื่อว่า หลังคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกทช. ประกาศอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่าย หรืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ สงครามโปรโมชั่นค่าบริการจะกลับมาอีกรอบหนึ่ง เพียงแต่ว่า รูปแบบการแข่งขันจะเปลี่ยนไป โดยจะนำวิธีคิดอัตราค่าบริการอัตราต่ำมาใช้สำหรับโทร.ภายในเครือข่าย
ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เคยให้ทรรศนะต่อโปรโมชั่นที่จะเปลี่ยนไปไว้ว่า จะเห็นค่าโทร.ถูกในเครือข่าย และถ้าโทร.นอกเครือข่ายจะแพง ค่าบริการที่เคยคิดเป็นครั้ง จะเปลี่ยนเป็นแบบนาทีละ 1 บาทหรือต่ำกว่านั้น ส่วนคุณภาพการให้บริการจะดีขึ้น ไม่เหมือนที่เกิดปัญหาโทร.ไม่ติดเหมือนอดีตที่ผ่านมา
|
|
|
|
|