บิ๊กทีพีไอเข้าไปควบคุมการบริหารจัดการ 5 บริษัทย่อยที่เดิม "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ดูแลแล้ว หลังจากพาณิชย์รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการมาตั้งแต่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ยอมรับหากมีปัญหากับบอร์ดชุดเดิมก็คงต้องแก้ไขกันไป

นางไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (ทีพีไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการ 5 บริษัทย่อยที่ทีพีไอถือหุ้นรายใหญ่ ร้อยละ 99.99 ได้แก่ บริษัทน้ำมันทีพีไอ จำกัด บริษัทไทย เอ บี เอส จำกัด บริษัท ผลิตไฟฟ้าทีพีไอ จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมโพลียูรีเทนไทย จำกัด และ บริษัททีพีไอ โพลีออล จำกัด ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยทั้ง 5 บริษัทแล้ว ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2549

การเปลี่ยนแปลงกรรมการดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนจากกรรมการที่มีผู้ถือหุ้นเดิม คือ ตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ เป็นกรรมการจากผู้ถือหุ้นใหม่ที่มี บมจ.ปตท. เป็นแกนนำ ประกอบด้วย พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฎฐ์ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ นายปิติ ยิ้มประเสริฐ นายประสิทธิ์ ดำรงชัย และนายพิสิฐ ตันติสุนทร ล่าสุดทีพีไออยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเข้าควบคุมบริหารจัดการบริษัทย่อยดังกล่าว

นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ ทีพีไอ กล่าวว่า ทีพีไอได้รับเข้าไปดูแลบริหารจัดการบริษัทย่อยนับตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ยอมรับว่าการเข้าไปบริหารจัดการคงมีปัญหาบ้างแต่ก็ต้องแก้ไขกันไป ซึ่งผู้บริหารเดิมไม่สามารถเซ็นเอกสารต่างๆ ได้ ล่าสุดอยู่ระหว่างการดำเนินการส่งมอบตรายาง และเอกสารสำคัญให้กับบอร์ดชุดใหม่ หลังจากนี้ไป ทีพีไอและบริษัทในเครือก็จะดำเนินธุรกรรมไปตามปกติเหมือนที่ผ่านมา

เมื่อเร็วๆ นี้ ตัวแทนสหภาพแรงงานผู้บริหารไทยเอบีเอส สหภาพแรงงานพนักงานไทยเอบีเอส สหภาพแรงงานผู้บริหารทีพีไอโพลีออล สหภาพแรงงานพนักงานทีพีไอโพลีออล สหภาพแรงงานผู้บังคับบัญชาสถานีบริการน้ำมัน และสหภาพแรงงานลูกจ้างสถานีบริการน้ำมัน ได้เดินทางมามาจากจังหวัดระยอง เพื่อยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเร่งรัดการพิจารณาจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทย่อยทีพีไอให้เสร็จโดยเร็ว

เนื่องจากเกรงว่าพนักงานจำนวน 1,300 คน อาจตกงานหลังจากฝ่ายบริหารในเครือบริษัทขัดแย้งกับบริษัทแม่ คือทีพีไอ อาจทำให้ทีพีไอต้องดำเนินการยุติการทำธุรกรรมกับบริษัทในเครือฯ ภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ หากกระทรวงพาณิชย์ไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทฯ