|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดิเอราวัณกรุ๊ป เร่งเครื่องสยายปีกธุรกิจโรงแรมโลวคอสต์แบรนด์ ไอบิส ประเดิม 3 แห่ง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-พัทยา รวม 710 ห้อง มูลค่ากว่า 1,250 ล้านบาท มั่นใจกลุ่มแอคคอร์ผู้บริหารทำตลาดไปโลด ยันสิ้นปี 2551 เปิดได้ครบ 6 แห่งแน่นอน
นายกษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสร้างโรงแรม Ibis ว่า หลังเข้าซื้อที่ดินสองผืนและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินอีกผืนหนึ่ง เพื่อเดินหน้าสร้างโรงแรม Ibis 3 แห่งแรกในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา รวมเป็นจำนวนห้องพักกว่า 710 ห้อง พร้อมทั้งเซ็นสัญญาจ้างกลุ่ม Accor บริหาร อัดฉีดงบลงทุนการก่อสร้างและค่าที่ดินกว่า 1,250 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในต้นปี 2551 บมจ. พร้อมวางเป้าสร้างเครือข่ายโรงแรม Ibis ครบ 10 แห่งภายในปี 2553 ตามแผนขยายธุรกิจโรงแรมไปสู่กลุ่มธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด
โดยโรงแรม Ibis สาธร กรุงเทพฯ จำนวน 210 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1.5 ไร่ ในซอยสาทร 1 โดยทำสัญญาเช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี เน้นจุดขายด้านทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ และใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลุมพินี
ส่วนโรงแรม Ibis ป่าตอง ภูเก็ต จำนวน 250 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ในซอยที่เชื่อมระหว่างถนนป่าตอง สาย 1 และสาย 2 เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนซึ่งจะสามารถเดินไปยังหาดป่าตองได้เพียงไม่ถึง 5 นาที
โรงแรม Ibis พัทยา จำนวน 250 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ บนถนนพัทยาสาย 2 เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มที่มาประชุมสัมมนาและกลุ่มนักท่องเที่ยวเนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา และสำหรับที่ดินผืนนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ภายใน 45 วัน
นายกษมากล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีแบรนด์ระดับอินเตอร์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นประหยัดอยู่น้อยมาก ซึ่งทางบริษัทมองว่าจะมีความต้องการของโรงแรมชั้นประหยัดเพิ่มสูงขึ้นมากหลังจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิในช่วงปลายปี ประกอบกับการขยายตัวอย่างมากของสายการบินราคาประหยัดในแถบเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่งมองหาห้องพักในระดับราคา 1,000-1,500 บาท บริษัทเชื่อว่าโรงแรม Ibis จะเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าเนื่องจาก Ibis มีชื่อเสียงด้านความสะอาด ความปลอดภัยและความคุ้มค่า รวมถึงเครือข่ายทางการตลาดที่ดีของกลุ่ม Accor
“บริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานและเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนที่ประกาศไปแล้ว รวมถึงเงินกู้ยืมซึ่งได้ตกลงกันแล้วกับสถาบันการเงินสำหรับโครงการขยายธุรกิจของบริษัทใน 2-3 ปีนี้ และภายในช่วงกลางปี 2550 เรามั่นใจว่าเราจะสามารถหาที่ดินได้อีกอย่างน้อย 3 แห่ง ซึ่งตรงกับเป้าของทางบริษัทที่จะเปิดโรงแรม Ibis ให้ได้ 6 แห่ง ก่อนสิ้นปี 2551”
|
|
|
|
|