|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ค้าสากลซิเมนต์ไทย ทุ่มเงิน 250 ล้านบาท ผุด 3 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ "โรงอัดกระดาษ -โครงการe-IDC-โครงการพลังงานถ่านหินสะอาด" เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าป้อนธุรกิจในเครือซิเมนต์ไทย คาดทั้งปีโกยรายได้ 2.7 หมื่นล้านบาท
นายกลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ค้าสากลซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCT) ซึ่งดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายในเครือซิเมนต์ไทยเปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์โดยยกระดับธุรกิจการนำเข้าและส่งออก สู่ Innovative Trade and Distribution เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ โดยล่าสุดบริษัทฯ จะลงทุน 250 ล้านบาท ใน 3 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ คือ โครงการโรงอัดกระดาษ โครงการe-IDC (Electronic International Distribution Center) และโครงการพัฒนาพลังงานถ่านหินสะอาด โรงอัดกระดาษดังกล่าว เป็นโครงการเพื่อจัดหาเศษกระดาษมารีไซเคิลผลิตกระดาษ เพื่อนำมาป้อนธุรกิจกระดาษในเครือซิเมนต์ไทย ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการใช้ 1 ล้านตัน/ปี ซึ่งในอนาคตจะขยายสู่การอัดเศษพลาสติกและอลูมิเนียม โดยต้นปีนี้ได้ตั้งโรงงานอัดกระดาษที่ลาวเป็นแห่งแรก และอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่กัมพูชา และฟิลิปปินส์ในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายโรงงานเพิ่มเติมที่เวียดนาม สหรัฐฯ สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 160 ล้านบาท โครงการ e-IDC อยู่ระหว่างการพัฒนาและศึกษาข้อมูล คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการนำเข้าและส่งออกกับหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในระบบซัปพลายเชน เช่น กรมศุลกากร ธนาคาร และบริษัทเดินเรือ ทำให้เกิดความสะดวก และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ส่วนโครงการวิจัยและพัฒนาถ่านหินสะอาดเพื่อทดแทนการใช้น้ำมันเตา จะใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท ซึ่งจะทดลองใช้กับโรงงานกระดาษในเครือฯ ก่อนขยายให้ลูกค้ารายอื่นๆ
โดยผลการดำเนินงานงวด 7 เดือนแรกของปีนี้ SCT มียอดขายรวม 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรวม 2.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิม 19 แห่งใน 15 ประเทศ ซึ่งปีนี้จะเพิ่มอีก 4 แห่งที่ประเทศจอร์แดน เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย สหรัฐฯ และจีน โครงสร้างรายได้ SCT มาจากสินค้าซีเมนต์ 30% พลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม 20% สินค้ารีไซเคิล 20% วัสดุก่อสร้าง 10% ที่เหลือมาจากอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส ในอนาคตโครงสร้างรายได้จะเปลี่ยนไปโดยจะมาจากธุรกิจพลังงานและรีไซเคิลมากขึ้น
นายกลินท์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง เนื่องจากบริษัทฯ ทำธุรกิจเทรดดิ้งในต่างประเทศทำให้เห็นโอกาสการทำธุรกิจแบบ Two Way Logistic ซึ่งปัจจุบันประเทศในแถบตะวันออกกลางมีการเติบโตเร็วมาก ทำให้บริษัทส่งออกปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างไปยังแถบดังกล่าว คาดว่าทั้งปี 2549 SCT จะส่งออกปูนไม่น้อยกว่า 7 ล้านตัน
|
|
|
|
|