Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 สิงหาคม 2549
ตลท.แขวนป้าย SP และ NP หุ้น BNT ผู้สอบไม่แสดงความเห็นรองบแก้ไข             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โฮมเพจ บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, บมจ.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย




ตลท. การขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP หลักทรัพย์ของ BNT เพื่อรองบการเงินฉบับแก้ไข หลังผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในงบการเงินไตรมาส 2 ปีนี้ ที่บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 267.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 225.23% เนื่องจากการตั้งสำรองสูงกว่าปีที่ผ่านมา และบริษัทแจงว่าจากโครงสร้างและแผนธุรกิจใหม่ยังไม่สามารถแสดงผลที่เป็นปัจจัยบวกแก่บริษัทและบริษัทย่อยได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานขาดทุน รวมทั้งความไม่แน่นอนของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยในอนาคต ซึ่งอาจมีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญอย่างมากต่องบการเงิน

เนื่องจากบริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BNT) ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ฉบับที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้สอบบัญชีไม่สามารถสรุปผลการสอบทานงบการเงินของบริษัทได้ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฎในงบการเงินอาจไม่ได้แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้

ตลาดหลักทรัพย์ จึงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 16 สิงหาคม 2549 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปมีเวลาในการพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง รวมทั้งรับทราบคำชี้แจงของบริษัทโดยทั่วถึง โดยจะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าวข้างต้นต่อไป พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 17 สิงหาคม 2549 จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข หรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าบริษัทไม่ต้องแก้ไขงบการเงินดังกล่าว

นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BNT) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี49 สิ้นสุด 30 มิถุนายนปีนี้ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 267.47 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 185.23 ล้านบาท หรือเท่ากับ 225.23% เนื่องจากในไตรมาสนี้ได้มีการตั้งสำรองต่างๆ รวมเป็นจำนวนเงิน 225.35 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา 197.79 ล้านบาท หรือเท่ากับ 717.67% และในส่วนของผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ จำนวนเงิน 341.24 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 260.31 ล้านบาท หรือเท่ากับ 321.65% เนื่องจากมีการตั้งสำรองต่างๆ รวมเป็นจำนวนเงิน 221.98 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา 249.41 ล้านบาท หรือเท่ากับ 909.26%

โดย BNT ได้ชี้แจงเพิ่มเติมมาก่อนแล้วว่าจากการที่โครงสร้างและแผนธุรกิจใหม่ยังไม่สามารถแสดงผลที่เป็นปัจจัยบวกแก่บริษัทและบริษัทย่อยได้อย่างชัดเจน บริษัทและบริษัทย่อยและเฉพาะบริษัทมีขาดทุนสุทธิจำนวน 359.67 ล้านบาท (ไม่รวมผลของการโอนกลับรายการบัญชีสำรองต่าง ๆ ของบริษัทและบริษัทย่อยและเฉพาะบริษัทจำนวน 18.43 ล้านบาท) สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน2549 บริษัทและบริษัทย่อยและเฉพาะบริษัทมีผลขาดทุนสะสมเป็นจำนวน 1,306.93 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยในอนาคต ซึ่งอาจมีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญอย่างมากต่องบการเงิน ตามความเห็นของผู้สอบบัญชีด้วยตระหนักในภาวการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ และบริษัทย่อย จึงได้ปรับนโยบายทางธุรกิจเพื่อให้เกิดผลดีกับการดำเนินงานดังต่อไปนี้คือ

การปรับลดธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำหรืออาจส่งผลดังกล่าวในระยะยาว การปรับลดค่าใช้จ่ายและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทรัพย์สิน เพื่อก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และบริษัทฯ ดาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนของบริษัทที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการลงทุนในบริษัทที่ให้ผลตอบแทนดีและต่อเนื่อง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us